คำถาม: เป็นสิวเสี้ยนเยอะมาก โดยเฉพาะบริเวณจมูก ยิ่งเป็นยิ่งมีมากขึ้น และสังเกตว่าเป็นจุดดำๆ เต็มไปหมด จะแก้ไขอย่างไรดีคะ
คำตอบ: โดย นายแพทย์สมชัย ลีลาศิริวงศ์ (แพทย์ผิวหนัง)
สิวเสี้ยนเกิดจาก
สิวเสี้ยนเกิดจากการอุดตันของปากรูขุมขน (comedone) บนใบหน้า พบได้บ่อยบริเวณจมูก หน้าผาก และคาง (T-zone) ถ้าการอุดตันอยู่ลึกจะเป็นตุ่มสีขาว แต่ถ้าการอุดตันอยู่ตื้นจะเห็นเป็นหัวสีดำ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอุดตันของสิวเสี้ยน เช่น มีฮอร์โมนเพศชายมากผิดปกติ รูขุมขนถูกทำลายจากการขัดหน้า นวดหน้าหรือถูหน้าแรง ๆ สิวเสี้ยนจากเชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
การรักษาสิวเสี้ยน
สิวเสี้ยนรักษาได้โดยการทาด้วยกรดวิตามินเอ เช่น เรติโนอิค ขนาด 0.025% ถึง 0.05% ทาวันละครั้งตอนเย็น สิวเสี้ยนจะหลุดไปได้ภายใน 4-8 สัปดาห์ แต่ยากลุ่มนี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองเป็นผื่นคันและลอกได้ในบางคน วิธีหลีกเลี่ยงอาการระคายเคือง คือ ทายาทิ้งไว้แค่ 10-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยลดการระคายเคืองได้ ถ้าหากทายาแล้วสิวเสี้ยนยังไม่หายควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ไม่ควร “กด” หรือ “บีบ” สิวเสี้ยนด้วยตนเอง เพราะนอกจากจะไม่ค่อยได้ผลแล้ว อาจทำให้สิวเสี้ยนกลายเป็นสิวอักเสบได้ง่ายขึ้น การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน ช่วยแก้ปัญหาได้ชั่วคราว แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็อาจกลับมาอุดตันใหม่ได้ครับ
การป้องกันการเกิดสิวเสี้ยน
วิธีป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนคือการดูแลผิว หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหรือถูหน้าแรง ๆ เพราะเป็นปัจจัยทำให้รูขุมขนกว้างเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ควรใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดหลังล้างหน้าเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่ตกค้าง ไม่ควรบีบหรือกดสิวเอง เพราะจะทำให้สิวเสี้ยนยิ่งลุกลาม และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยกรดผลไม้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง