ตาแห้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ พบได้ในทุกเพศทุกวัย เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตาหล่อเลี้ยงผิวตาไม่เพียงพอ อาการตาแห้งหากปล่อยให้เป็นบ่อย ๆ ปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวโดยไม่ทำการรักษา จะทำให้เคืองตารุนแรงยิ่งขึ้น จนเกิดการอักเสบทำให้เป็นแผลที่กระจกตา กระจกตาไม่เรียบใส จนนำไปสู่การผ่าตัดแก้ไขในที่สุด
สาเหตุของภาวะตาแห้ง
- ใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน
- มีการสร้างน้ำตาลดลงโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
- ใส่คอนแทคเลนส์ เป็นเวลานาน หรือใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ
- เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
- รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด ยาลดความดันโลหิตบางชนิด
- เคยทำเลสิค หรือผ่าตัดตา
- ผู้ที่มีปัญหาหลับตาไม่สนิท
- ดื่มน้ำน้อย
- อยู่ในบริเวณที่มีอากาศแห้ง ลมแรง เป็นเวลานาน
- ความเสื่อมของต่อมน้ำตาไมโบเมียน (meibomian gland dysfunction; MGD) ซึ่งเป็นต่อมที่อยู่บริเวณเปลือกตา ทำหน้าที่สร้างน้ำมันมาหล่อลื่นดวงตา
อาการของภาวะแห้ง จะมีอาการระคายเคืองตา แสบตาเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา ตาพร่ามัวเป็น ๆ หาย ๆ น้ำตาไหล มีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว และอาจรู้สึกปวดหัว
แนวทางการรักษา
- การใช้น้ำตาเทียม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ดวงตา
- การใช้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวนัยน์ตาหรือผิวเยื่อบุตา และช่วยบรรเทาอาการคันระคายเคืองตาแต่การใช้ยากลุ่มนี้จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และใช้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
- การทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำยาพิเศษ เพื่อกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณรอบเปลือกตา
- การประคบน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 41-43 องศาเซลเซียสเป็นประจำเช้า-เย็น
- การนวดและการทำความสะอาดเปลือกตา (การกดรีดไขมันตามแนวการวางตัวของต่อมไมโบเมียนที่ขอบเปลือกตา)
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาอาการตาแห้ง คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง หรือการป้องกันตั้งแต่สาเหตุ ไม่ปล่อยเอาไว้จนเป็นปัญหาเรื้อรัง โดยการสังเกตตัวเองว่าสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมใดที่ทำให้เกิดอาการและพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น ตัวอย่างง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น
- เมื่ออยู่ในที่ที่มีอากาศแห้งมาก ๆ เช่น ในห้องแอร์หรือบนเครื่องบิน พยายามหลับตาพักสายตาบ่อย ๆ เพื่อลดการระเหยของน้ำตา
- การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนและพักสายตาเป็นระยะ ๆ
- การสูบบุหรี่ เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สูบเอง หรือผู้ที่ไม่ได้สูบ ก็ควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
การนวดและทำความสะอาดเปลือกตา
การนวดและทำความสะอาดเปลือกตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งเรื้อรังและต่อมไขมันอุดตันที่เปลือกตาเป็นบริการของศูนย์จักษุ โรงพยาบาลพระรามเก้า ในชื่อว่า Eyelid Treatment ให้บริการโดยพยาบาลวิชาชีพที่ได้รับการอบรมด้านการนวดเปลือกตามาโดยเฉพาะ ทั้งนี้ก่อนเข้ารับบริการนวดเปลือกตา ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ก่อน โดยการนวดเปลือกตาเป็นการกดและรีดตามแนวการวางตัวของต่อมไขมัน (meibomian gland) ที่ขอบเปลือกตา โดยใช้อุปกรณ์ในการนวดเปลือกตา เช่น แท่งแก้ว ไม้พันสำลี เพื่อให้ไขมันที่อุดตันอยู่ในต่อมระบายออกมา โดยขั้นตอนการนวดและทำความสะอาดเปลือกตาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- ผู้ป่วยนอนในท่านอนหงาย จากนั้นพยาบาลจะนำแว่นตาประคบอุ่นมาใส่ประคบที่เปลือกตา โดยใช้ความร้อนที่ 40-42 องศาเซลเซียส นาน 10-15 นาที แว่นประคบอุ่น เหมาะสำหรับการละลายไขมันที่อุดตันบริเวณเปลือกตา โดยแว่นสามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ และด้วยระบบไอน้ำทำให้กระจกตาไม่แห้ง
- หลังประคบอุ่นแล้ว พยาบาลจะหยอดยาชาให้ผู้ป่วย และเริ่มทำการนวดเปลือกตาโดยนำแท่งแก้วและไม้พันสำลีกดรีดไขมันที่อุดตันบริเวณเปลือกตา
และในขั้นตอนการนวดและทำความสะอาดเปลือกตานี้โรงพยาบาลพระรามเก้า มีการทำความสะอาดเปลือกตา 2 แบบ คือ โฟม และเครื่อง BlephEx
- โฟมพยาบาลทำความสะอาดเปลือกตาผู้ป่วยด้วยโฟมตั้งแต่โคนขนตาจากหัวตาไปหางตาและเช็ดโฟมออกเมื่อทำความสะอาดเปลือกตาเรียบร้อยแล้ว
- เครื่อง BlephEx เป็นเครื่องมือกำจัดเชื้อโรคไบโอฟิล์มและตัวไรจากเปลือกตาอย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของการนวดและทำความสะอาดเปลือกตา
- ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งอุดตันที่อยู่บริเวณเปลือกตา ทำให้เปลือกตาสะอาดขึ้น
- ช่วยกำจัดตัวไรที่อยู่บริเวณโคนขนตา
- ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและระคายเคืองตา
- ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและทำให้อาการตาแห้งดีขึ้นได้
- ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของตาทางอ้อม
ทั้งนี้การนวดและทำความสะอาดเปลือกตาไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดผู้ป่วยสามารถขับรถและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติภายหลังการนวดเปลือกตา