เนื่องด้วยในวันที่ 13 มีนาคม 2563 เกิดกรณีที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์รวมถึงการเผยแพร่ไปในสื่อสำนักข่าวต่าง ๆ หลายแห่งโดยเนื้อหาข่าวได้กล่าวถึงกรณีดารานักแสดงพิธีกรชื่อดังเข้ารับการตรวจรักษา เชื้อไวรัส COVID-19 ที่โรงพยาบาลพระรามเก้าซึ่งพบผลเป็น detectable โรงพยาบาลพระรามเก้าขอยืนยันว่าการรักษาพยาบาลในกรณีดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางและขั้นตอนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขทุกประการ ดังนี้
1. ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการคัดกรองโรคตามมาตรฐานซึ่งมีการวัดไข้และซักถามประวัติอาการตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าพบว่าผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีประวัติเดินทางไปในประเทศที่เป็นพื้นที่ระบาดของโรคตามรายชื่อในของกรมควบคุมโรค หรือมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็น ผู้ป่วยรายนี้มีเพียงอาการคล้ายไข้หวัด จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ที่มีความเสี่ยงตามแนวทางการปฏิบัติของกรมควบคุมโรค ผู้ป่วยจึงสามารถเข้ารับการตรวจตามปกติ
2. ในกรณีนี้แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยตามกระบวนการมาตรฐานทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่มาด้วยอาการเป็นไข้หวัด คือตรวจร่างกายและส่งตรวจ Rapid test Influenza A B , QIAStat-DX® Respiraory panel พบว่าได้ผลเป็นลบทั้งหมด และไม่อธิบายอาการ ดังนั้นแพทย์เจ้าของไข้จึงพิจารณาให้ตรวจ COVID-19 เพื่อเป็นการคัดกรองโรคให้ครอบคลุม
3. เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ไม่เข้าเกณฑ์ผู้มีความเสี่ยงสูงตามแนวทางการปฏิบัติของกรมควบคุมโรคดังที่ระบุไว้ในข้อ 1และไม่มีอาการที่เข้าเกณฑ์ต้องรับไว้ในโรงพยาบาล (admission criteria) ดังนั้นเมื่อทำการตรวจรักษาเสร็จแล้วจึงให้ยาผู้ป่วยกลับไปรับประทานที่บ้าน พร้อมกับให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว
4. เมื่อห้องปฏิบัติการแจ้งผลการตรวจ COVID-19 = detectable ทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ทำการติดต่อ สปคม. เพื่อรายงานผลทันที ซึ่งทางสปคม.ได้สั่งการให้ทีมโรงพยาบาลพระรามเก้าโทรศัพท์ติดต่อผู้ป่วยเพื่อแจ้งผลการตรวจเบื้องต้น ทั้งนี้เป็นไปตามหลักสิทธิผู้ป่วยและเพื่อให้ผู้ป่วยระมัดระวังตัวและปฏิบัติตามหลักการป้องกันการกระจายของเชื้อไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย
5. จากนั้นการดำเนินการเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดโดยกองควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำหนดไว้ว่าเมื่อทางโรงพยาบาลติดต่อแจ้งผลกับ สปคม. แล้ว ทาง สปคม.จะเป็นผู้สั่งการในการดำเนินการทั้งหมดซึ่งจะต้องรอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการที่ 2 ซึ่งจะแจ้งตรงไปที่ สปคม. โดยไม่ผ่านโรงพยาบาลต้นทาง
6. ในระหว่างนั้นผู้ป่วยได้มีการแถลงข่าวซึ่งทั้งนี้เป็นไปด้วยความประสงค์ดีเนื่องจากต้องการแจ้งให้ผู้ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยได้ทราบและเตรียมระมัดระวังตัวสังเกตอาการ
7. หลังจากนั้น ทางสปคม.ได้ทำการติดตามผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ทาง สปคม.จัดหาให้
8. ทีมควบคุมโรคติดเชื้อโรงพยาบาลพระรามเก้าได้ทำการสอบสวนโรคตามแนวทางระบาดวิทยาโดยได้ติดตามผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยทุกรายตามแนวทางของกรมควบคุมโรค ติดต่ออย่างเคร่งครัด โดยบุคลากรคนใด ที่พบว่ามีความเสี่ยงสูงได้ทำการกักบริเวณตนเองเป็นเวลา 14 วันเป็นที่เรียบร้อย ส่วนบุคลากรที่ไม่มีความเสี่ยงก็สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติและได้ติดต่อกับผู้ใช้บริการรายอื่นๆ ทุกรายที่มาในช่วงเวลาเดียวกับผู้ป่วยรายนี้ พบว่า ไม่มีรายใดที่มีการสัมผัสใกล้ชิดหรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่อย่างไรก็ดีทางโรงพยาบาลจะมีการติดตามดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ต่อไปให้ครบ 14 วัน ส่วนสถานที่ ใช้บริการนั้น ทางโรงพยาบาลได้มีการทำความสะอาดแบบ Deep cleaning จึงปลอดภัยต่อการปนเปื้อนเชื้อ
โรงพยาบาลพระรามเก้าขอยืนยันว่าการรักษาพยาบาลในกรณีนี้เป็นไปตาม แนวทางการปฏิบัติของ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และโรงพยาบาลพระรามเก้ามีความตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการทางโรงพยาบาลมีมาตรการอันเข้มงวดในการจัดระบบการตรวจคัดกรองผู้ป่วย นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 โดยการจัดตั้งจุดคัดกรองพิเศษ 3 จุด ซึ่งจะแยกผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงไปยังคลินิกพิเศษบริเวณนอกโรงพยาบาล และมีการจัดตั้งทีมแพทย์พยาบาลเฉพาะสำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในขณะเดียวกันโรงพยาบาลได้เพิ่มมาตรการทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคทุก 1 ชั่วโมง ในทุกจุดของโรงพยาบาลโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ราวบันไดเลื่อนปุ่มกดลิฟท์ ลูกบิดประตู จัดให้มีแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ วิธีการล้างมือที่ถูกต้อง รวมถึงคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 อย่างทั่วถึง ทั้งโรงพยาบาลผู้รับบริการจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลตามมาตรฐานสากลและปลอดภัยจากการติดเชื้ออย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Call center 1270