ในปัจจุบันเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น ในบางครั้ง Smart phone เปรียบเสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์เลยก็ว่าได้
ทั้งนี้เพราะ Smart phone สามารถทำให้เราเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ทั้งนี้รวมถึงการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) เช่น Facebook, Twitter, Instagram, และ Instant messaging อื่น ๆ ด้วย
เดิมทีมนุษย์เป็นสัตว์สังคมซึ่งต้องการการยอมรับจากผู้คนรอบข้าง ดังนั้นการที่เราสามารถเข้าถึง Social media ได้ง่ายขึ้นมากในปัจจุบัน ทำให้มีความเสี่ยงในการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์เป็นไปได้ง่ายขึ้นมากตามไปด้วย เราสามารถสังเกตตนเองได้หากมีอาการเหล่านี้หลายข้อก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะมีปัญหาการติด Social media
- อยู่กับ Social media มากกว่าที่ตั้งใจไว้
- ช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้ Social media มักจะมีอาการกระวนกระวายใจหรือหงุดหงิด
- หากเราพยายามที่จะควบคุมการเข้าถึง Social media ของตัวเองแต่ไม่สามารถควบคุมได้
- คิดถึง Social media อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม
- เวลาที่เครียดมักจะใช้ Social media เพื่อคลายเครียด
- มีการโกหกหรือปิดบัง เพื่อที่จะได้เล่น Social media
Social media เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการทำงานหรือเกิดปัญหาความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด
วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหา Social addiction เบื้องต้นได้แก่
- พยายามจำกัดเวลาการใช้ Social media ให้ลดลงหรือกำหนดเวลาให้แน่ชัด โดยสามารถใช้การตั้งเตือนก่อนที่จะครบเวลาที่กำหนดช่วยด้วย
- พยายามหากิจกรรมอื่นทำ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น งานอดิเรกที่สนใจ การออกกำลังกาย การพบปะเพื่อนหรือญาติ การไปท่องเที่ยว การหากิจกรรมคลายความเครียด
นอกจากอาการของ Social addiction ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น บางครั้งพบว่าผู้ป่วยมีอาการทางจิตเวชอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ อาการซึมเศร้า วิตกกังวล เครียด สมาธิสั้น และ Bipolar ดังนั้นหากพบว่าตนเองหรือคนรอบข้างมีอาการของ Social addiction ดังกล่าวข้างต้น แล้วไม่สามารถจัดการกับตัวเองด้วยวิธีเบื้องต้นได้ ก็ควรนัดหมายเข้าพบจิตแพทย์เพื่อคัดกรอง วินิจฉัย และรักษาปัญหา Social addiction และโรคร่วมอื่น ๆ ทางจิตเวชต่อไป