เราคงเคยได้ยินใคร ๆ พูดกันว่า “ถ้าผู้ชายไม่ใส่กางเกงชั้นในจะเป็นไส้เลื่อน” จนทำหลายคนคิดว่า โรคไส้เลื่อนมีสาเหตุจากการไม่ใส่กางเกงชั้นใน และเกิดได้เฉพาะผู้ชาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากโรคไส้เลื่อนสามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และสาเหตุของไส้เลื่อนไม่ได้เกิดจาก การไม่สวมกางเกงชั้นใน
โรคไส้เลื่อนมีทั้งแบบที่ไม่อันตรายรุนแรง และอันตรายรุนแรงกระทั่งต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยในปัจจุบันการรักษาโดยการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง ถือเป็นการผ่าตัดแผลเล็ก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง
ไส้เลื่อนคืออะไร ?
“โรคไส้เลื่อน” คือ ภาวะที่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในช่องท้องเคลื่อนไปจากตำแหน่งปกติ โดยเคลื่อนผ่านรูหรือดันออกไปตรงบริเวณผังผืดหรือกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง (เกิดความอ่อนแอหรือหย่อนยาน) ทำให้อวัยวะในช่องท้องดังกล่าวไปอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ ซึ่งมักเห็นเป็นก้อนตุง ตำแหน่งของไส้เลื่อนอาจเกิดขึ้นได้ที่บริเวณผนังหน้าท้องหรือขาหนีบ โดยไส้เลื่อนที่พบบ่อยที่สุดคือ ไส้เลื่อนขาหนีบ (inguinal hernia) มักพบมากในผู้ชาย
อาการของโรคไส้เลื่อน
ในระยะเริ่มแรกผู้ป่วยมักไม่มีอาการ หรือความเจ็บปวดใด ๆ แต่จะสังเกตเห็นก้อนตุง ๆ นูนออกมาจากผนังหน้าท้องหรือขาหนีบ และก้อนนี้มักใหญ่ขึ้นหรือชัดเจนขึ้น เมื่อสังเกตในท่านั่งหรือยืน ผู้ป่วยอาจมีอาการจุก ๆ หน่วง ๆ ที่ท้องร่วมด้วย
หากปล่อยทิ้งไว้ไส้เลื่อนจะมีขนาดใหญ่ขึ้น มีอาการจุก หน่วง ๆ มากขึ้น หรืออาจถึงขั้นมีอาการเจ็บปวด แน่นท้อง ปวดแสบปวดร้อน และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้
สาเหตุของการเกิดไส้เลื่อน ?
เราอาจเคยได้ยินว่า “ไส้เลื่อนเกิดจากการไม่ใส่กางเกงชั้นใน” ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ดังที่ได้กล่าวว่าไส้เลื่อนเป็นภาวะที่มีการเคลื่อนตำแหน่งของอวัยวะในช่องท้อง ผ่านรูของผังผืดหรือกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่กางเกงชั้นใน ก็มีโอกาสเป็นไส้เลื่อนได้พอ ๆ กัน เพราะกางเกงชั้นในไม่สามารถเสริมความแข็งแรงของผนังหน้าท้องได้
โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไส้เลื่อน ได้แก่
- ความผิดปกติของช่องท้องมาตั้งแต่กำเนิด
- อายุที่เพิ่มขึ้น โดยพบมากในอายุ 40 ปีขึ้นไป
- เคยเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงบริเวณหน้าท้อง
- การออกแรงยกของหนักซึ่งทำให้มีแรงดันในช่องท้องสูง
- ไอหรือจามอย่างหนักบ่อย ๆ
- เบ่งอุจจาระหรือปัสสาวะเป็นประจำ
- ผนังช่องท้องมีความอ่อนแอหลังการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
- การสูบบุหรี่
- มีภาวะโรคอ้วน
- ผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงเนื่องจาก ในผู้ชายมีช่องถุงอัณฑะซึ่งจะเป็นบริเวณที่อ่อนแรงได้ง่ายจึงมีโอกาสเกิดไส้เลื่อนได้
ผู้หญิงเป็นไส้เลื่อนได้ไหม?
โรคไส้เลื่อนสามารถพบในผู้หญิงได้ ได้โดยมักพบในเพศหญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุของการเกิดไส้เลื่อนในผู้หญิงมักเกิดจาก
- แผลเป็นจากผ่าคลอดบุตร หรือการผ่าตัดโรคอื่น ๆ ที่บริเวณหน้าท้องซึ่งทำให้ผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง
- การออกกำลังกายที่ทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น เช่น การซิตอัพ หรือการออกกำลังที่มีการเกร็งหน้าท้อง
- ไอหรือจามเรื้อรัง
- ยกของหนัก
โรคไส้เลื่อน อันตรายหรือไม่?
ไส้เลื่อน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามความรุนแรงของโรค คือ
- ไส้เลื่อนที่สามารถดันกลับเข้าไปในช่องท้องได้ ซึ่งถือว่าไม่อันตรายรุนแรง
- ไส้เลื่อนที่โป่งออกมา ไม่สามารถกลับเข้าสู่ช่องท้องได้ เพราะมีการอุดตันที่คอถุงไส้เลื่อน ซึ่งอาจทำให้ลำไส้อุดตันและขาดเลือด เกิดลำไส้เน่าตายได้ ถือว่าอันตรายรุนแรง ต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉิน
ดังนั้นเมื่อเป็นไส้เลื่อนจึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว ้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา เพราะหากปล่อยไว้ ไส้เลื่อนที่โป่งออกมาแล้วไม่สามารถกลับเข้าสู่ช่องท้องได้ เกิดการอุดตัน เกิดการติดเชื้อ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
การผ่าตัดรักษาไส้เลื่อน
การผ่าตัดไส้เลื่อนสามารถทำได้หลายวิธี แต่ในปัจจุบันการผ่าตัดไส้เลื่อนด้วยวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (laparoscopic surgery) ถือเป็นการรักษาที่ได้ผลดีและมีความปลอดภัย โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านรูเล็ก ๆ ที่เจาะที่ผนังหน้าท้อง โดยจะใส่กล้องและเครื่องมือเฉพาะเข้าไปทางรูขนาดเล็กนี้
การผ่าตัดไส้เลื่อนโดยวิธีนี้ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะแผลมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ผู้ป่วยสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว และสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เร็ว
สรุป
โรคไส้เลื่อนเป็นโรคที่สามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผังผืดหรือกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องไม่แข็งแรงทำให้อวัยวะในช่องท้องสามารถดันหรือรอดผ่านรูที่ไม่แข็งแรงนั้นออกไปได้ โดยตำแหน่งของไส้เลื่อนนั้นสามารถพบได้หลาย ๆ บริเวณของผนังหน้าท้อง แต่ในผู้ชายพบไส้เลื่อนที่ขาหนีบมากที่สุด
โรคไส้เลื่อนเป็นโรคที่รักษาหายได้และการรักษาไส้เลื่อนที่ให้ผลดี ปลอดภัย และเป็นที่นิยมในปัจจุบันคือการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่มีแผลเล็ก เจ็บน้อย ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบันที่ทำให้การผ่าตัดไส้เลื่อนมีความปลอดภัยสูง ดังนั้นถ้าเป็นไส้เลื่อนแล้วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจ ทำให้ขนาดของไส้เลื่อนใหญ่ขึ้น หรือไส้เลื่อนที่โป่งออกมาไม่สามารถกลับเข้าสู่ช่องท้องได้ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้