โรคภูมิแพ้เป็นโรคยอดฮิตในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผลมาจากมลภาวะที่มากขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล โดยอาการภูมิแพ้มักพบมากในฤดูหนาว จากการข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) รายงานว่า เราสามารถพบโรคภูมิเเพ้ได้มากถึง 31% ในประชากรที่มีอายุมากกว่า18 ปีขึ้นไป โดยมีสาเหตุการแพ้ ลักษณะการเเพ้ อาการ เเละความรุนแรงเเตกต่างกันไปในเเต่ละบุคคล ซึ่งบางรายอาจมีอาการภูมิเเพ้รุนเเรงเฉียบพลันถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
ภูมิเเพ้คืออะไร?
ภูมิแพ้ คือ ภาวะที่มีการตอบสนองที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาไวเกิน (hypersensitivity) ต่อสารที่ก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคือง (allergen) แล้วทำให้เกิดอาการแพ้ตามมา โดยเมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิเเพ้เข้าไปเเล้วจะมีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองต่อสารก่อภูมิเเพ้โดยการหลั่งสารที่มีชื่อว่า ฮิตทามีน (histamine) ซึ่งทำให้มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือคันตามผิวหนัง
สาเหตุของภูมิเเพ้
สาเหตุของภูมิเเพ้เกิดจากสิ่งเเวดล้อมเเละพันธุกรรม โดยพบว่าหากพ่อหรือเเม่มีประวัติเป็นภูมิเเพ้ลูกจะมีโอกาสเป็นภูมิเเพ้ได้มากถึง 30-50%
อีกปัจจัยหนึ่งคือสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งเเวดล้อม ซึ่งสารก่อภูมิแพ้ (allergen) ที่สำคัญ ได้แก่
- เกสรดอกไม้ เกล็ดเล็ก ๆ ของเกสรดอกไม้ที่ปลิวมาตามลม คือสาเหตุสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้เราป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ชนิดเป็นไปตามฤดูกาล
- ฝุ่นในบ้าน ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบนชั้นหนังสือ ผ้าม่าน ที่นอน หมอน หรือล่องลอยอยู่ทั่วไปในอากาศ จะมีแมลงตัวเล็กมากเรียกว่า ไรฝุ่น (dust mite) เกาะอยู่ และไรฝุ่นนี่เองที่ทำให้เราป่วยเป็นโรคภูมิแพ้
- เชื้อรา เชื้อรามักจะอยู่ในที่มืดและชื้น เช่น ในห้องน้ำ ใต้ถุนบ้าน ในตู้เย็น ในดินที่ปลูกต้นไม้ เชื้อราสามารถขยายพันธุ์โดยการกระจายเกล็ดเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “สปอร์” ไปในอากาศ หากเราสูดหายใจเอาสปอร์เข้าไปก็อาจทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ได้
- สัตว์ สัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัข นก ม้า และกระต่าย ก็เป็นสาเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้เช่นกัน โดยรังแค น้ำลาย และปัสสาวะของสัตว์ รวมทั้งขนนก ล้วนเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น
- มลพิษและสารระคายเคือง เช่น ควันธูป ควันบุหรี่ น้ำหอม สเปรย์ปรับอากาศ ควันไฟจากเตาถ่านและเตาผิง ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ฝุ่นพิษ PM2.5 และสารที่มีกลิ่นแรง ๆ ก็สามารถทำให้เกิดการระคายต่อจมูก และทำให้อาการโรคภูมิแพ้แย่ลงได้
- แมลงสาบ เช่นแมลงสาบในห้องครัว ท่อระบายน้ำ ตู้กับข้าว ถังขยะ ฝุ่นที่เกิดจากซากหรือชิ้นส่วนของแมลงสาบเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ทางจมูกและโรคหอบหืดได้ โดยเฉพาะในเด็ก
- สารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอาหารต่าง ๆ เช่น อาหารทะเล ไข่ กลูเตน
- สารก่อภูทิแพ้ที่มีการสัมผัสทางผิวหนัง ทางจมูก ทางตา ทางหู หรือถูกแมลงกัดต่อยผ่านผิวหนัง หรือการได้การฉีดยาต่าง ๆ
อาการโรคภูมิเเพ้
โรคภูมิเเพ้อาจเเบ่งได้ตามอาการเเละการตอบสนองต่อสารก่อภูมิเเพ้ ได้แก่
ภูมิเเพ้อากาศ
ภูมิเเพ้อากาศ โดยเมื่อได้รับสารก่อภูมิเเพ้ทางการหายใจจะทำให้เกิดอาการของทางเดินหายใจส่วนบน เช่น มีอาการคันจมูกเเละคอ น้ำมูกไหล มีอาการไอ จาม หากมีอาการแพ้มากจนทางเดินหายใจบวม อาจทำให้เเน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ ซึ่งต้องรีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ในผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศบางรายอาจพบรอยคล้ำใต้ตาหากมีอาการเเพ้เรื้อรังเป็นเวลานาน
ภูมิเเพ้ขึ้นตา
ภูมิเเพ้ขึ้นตา มักจะพบว่าผู้ป่วยเกิดการระคายเคืองบริเวณดวงตา ไปจนถึงทำให้เยื่อบุตาอักเสบ มีอาการเเสบตา ตาเเดง คันตา เปลือกตาบวม ขยี้ตาบ่อย หรือน้ำตาไหลผิดปกติหรืออาจพบผื่นเล็ก ๆ รอบดวงตา
ภูมิเเพ้ผิวหนัง
ภูมิเเพ้ผิวหนังมักพบผื่นคันที่ผิวหนัง ผิวบวมแดง ผิวหนังลอก เเละมีอาการคัน โดยมักพบบริเวณข้อพับเเขนขาเเละลำคอ
ภูมิเเพ้อาหารเเละยา
ภูมิเเพ้อาหารเเละเเพ้ยาคือการได้รับสารก่อภูมิเเพ้เข้าไปในร่างกายโดยการรับประทานเป็นส่วนใหญ่ โดยผู้ป่วยมักมีผื่นคันคล้ายลมพิษ อาจมีอาการหน้าบวม อ้วก ท้องเสีย ในบางกรณีมีอาการรุนเเรงมาก เช่น เเน่นหน้าอก หายใจลำบาก เป็นลมหมดสติ โดยอาจทำให้เกิดอาการอาการเเพ้รุนเเรงเฉียบพลัน (anaphylaxis) ซึ่งเป็นภาวะอันตรายฉุกเฉิน จำเป็นต้องรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที
อาการเเพ้รุนเเรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis)
อาการแพ้เฉียบพลัน (anaphylaxis) เป็นอาการของโรคภูมิแพ้ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้อย่างรุนแรงอย่างเฉียบพลัน อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยอาการแพ้จะเกิดขึ้นมากกว่า 1 ระบบของร่างกายในเวลาเดียวกัน มักเกิดภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากได้รับอาหาร ยา หรือสารก่อภูมิแพ้
มักพบในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหอบหืด อาการต่าง ๆ ที่พบได้ เช่น เเน่นหน้าอก หายใจลำบาก หอบเหนื่อย เสียงแหบ ไอรุนเเรง มีอาการคอบวมหรือมือเท้าบวม ผื่นแดงขึ้นทั่วร่างกาย อ้วก ความดันเลือดตก ในกรณีร้ายเเรงอาจเกิดภาวะช็อกเเละเป็นลมหมดสติและเสียชีวิตได้ ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบเเพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อเข้ารับการรักษาอาการแพ้ดังกล่าว
โรคเเทรกซ้อนจากการเป็นโรคภูมิเเพ้เรื้อรัง
อาการของโรคภูมิแพ้เรื้อรังอาจทำให้มีปัญหาสุขภาพอย่างอื่นตามมาได้ ซึ่งหากมีอาการดังต่อไปนี้ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น
- การติดเชื้อของโพรงไซนัส (sinusitis)
น้ำมูกที่ขังเป็นเวลานานในโพรงไซนัส จะมีการติดเชื้อแบคทีเรียขึ้นได้ โดยมีอาการน้ำมูกหรือเสมหะลงคอที่ข้นเหนียวสีเหลือง – เขียว ถ้ามีอาการบ่อย ๆ จะกลายเป็นโรคไซนัสเรื้อรังได้ - ตาอักเสบ
สารก่อภูมิแพ้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ (conjunctivitis) มีอาการตาแดง คัน บวม และมีน้ำตาไหล - ติ่งเนื้อในโพรงจมูก (nasal polyp)
เยื่อบุโพรงจมูกอาจบวมมากจนกลายเป็นติ่งเนื้อเล็ก ๆ เรียกว่า polyp ซึ่งอาจบวมโตมากจนอุดตันช่องจมูกได้ - ปัญหาของหู
หูชั้นกลางกับช่องจมูกมีท่ออากาศเชื่อมต่อกัน ถ้าปฏิกิริยาภูมิแพ้ทำให้ท่อนี้เกิดการอุดตัน อากาศที่ถูกกักไว้ภายในจะทำให้รู้สึกหูอื้อได้ และอาจมีน้ำมูกขังภายใน จนเกิดการติดเชื้อและเกิดหูชั้นกลางอักเสบได้ - โรคหอบหืด
หากเป็นโรคหอบหืดอยู่แล้ว การระคายเคืองและการบวมของทางเดินอากาศที่เข้าสู่ปอดจะทำให้คุณหายใจลำบาก ซึ่งสาเหตุของการระคายเคืองและบวมนี้ บ่อยครั้งพบว่าปฏิกิริยาภูมิแพ้ของจมูกนี้จะกระตุ้นให้โรคหอบหืดกำเริบได้ - ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ในบางรายอาจมีต่อมทอนซิลโตจะไปขวางทางเดินหายใจและทำให้นอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับได้ - ในผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังอาจทำให้ผิวหนังอักเสบจนเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (eczema) ได้
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคภูมิเเพ้?
หากมีอาการหรือสงสัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ สามารถเข้ารับการตรวจภูมิแพ้ได้ โดยแพทย์จะมีแนวทางการตรวจวินิจฉัย ดังนี้ดังนี้
- เเพทย์จะทำการซักประวัติเเละตรวจร่างกาย ได้แก่ ตรวจจมูก ตา หู คอ ตรวจปอดเเละหัวใจ รวมไปถึงสอบถามถึงลักษณะอาการเเพ้เเละความรุนเเรงของการเเพ้ เพื่อประเมินสาเหตุ และวางแผนการรักษาและการป้องกันอาการแพ้
- แพทย์อาจให้ทำการทดสอบอาการเเพ้บริเวณผิวหนัง (allergy skin test) โดยจะทำการสะกิดผิวหนังบริเวณเเขนเพื่อทดสอบสารก่อภูมิเเพ้เเต่ละชนิดกับผิวหนัง เพื่อให้ทราบว่าสารก่อภูมิเเพ้ใดที่ทำให้เกิดอาการเเพ้ เเละทำการประเมินความรุนเเรงของการตอบสนองของร่างกายผู้ป่วยเมื่อได้รับสารก่อภูมิเเพ้ชนิดต่าง ๆ
- การตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ โดยแพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีการนี้กับผู้ที่มีอาการแพ้รุนเเรง
การรักษาโรคภูมิเเพ้
โรคภูมิเเพ้เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เเต่สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ เเละการรักษาโรคภูมิเเพ้ที่ดีที่สุดคือ มุ่งเน้นไปที่การ “หลีกเลี่ยง” สิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และการดูเเลสุขภาพให้เเข็งเเรงเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามแพทย์อาจพิจารณาการรักษาอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น
- การรับประทานยาเพื่อลดอาการของโรคภูมิเเพ้ เช่น ยาเเก้เเพ้ในกลุ่ม antihistamine ยาลดอาการคัดจมูก (decongestant) หรือยาพ่นจมูกในกลุ่มสเตียรอยด์
- การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิเเพ้ (allergy immunotherapy หรือ allergy shots) ซึ่งเป็นวิธีการที่ให้ผลการรักษาดี ช่วยลดอาการแพ้ได้กว่า 80% และสามารถกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิเเพ้ได้มากถึง 500-1000 เท่า โดยไม่ต้องกินยาประจำ แต่วิธีการนี้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นประจำสม่ำเสมอ 2-3 ปี สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ยาวนานถึง10 ปี
- การผ่าตัด ใช้ในกรณีผู้มีโครงสร้างจมูกเเละกระดูกจมูกผิดปกติ ซึ่งทำให้มีอาการเเละมีความรุนเเรงของโรคภูมิเเพ้มากกว่าปกติจนทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การดูเเลสุขภาพสำหรับผู้เป็นโรคภูมิเเพ้
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิเเพ้เเละมลภาวะต่าง ๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้อาหารต้องระวังในการรับประทานอาหารบางอย่างเป็นพิเศษเพราะอาจมีส่วนประกอบที่เป็นสารก่อภูมิเเพ้ได้
- รับประทานยาเเก้เเพ้หากมีอาการ เเละสังเกตอาการตนเองโดยหากพบว่ามีอาการรุนเเรงควรรีบไปพบเเพทย์
- ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ โดยเเพทย์จะเเนะนำวิธีนี้ให้กับผู้ที่เป็นโรคภูมิเเพ้เเละมีอาการไซนัสอักเสบร่วมด้วย โดยการล้างจมูกจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ภายในจมูกออก พร้อมทั้งเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่จมูก
- เลิกสูบบุหรี่เเละงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เเละรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เเละตรวจสุขภาพประจำปี เป็นประจำทุกปี
การป้องกันอาการเเพ้
- การป้องกันโรคภูมิเเพ้ที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิเเพ้ เเละรักษาความสะอาดภายในบ้านโดยต้องทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำเพื่อป้องกันไรฝุ่น ดูเเลความสะอาดห้องน้ำเพื่อป้องกันเชื้อรา รวมไปถึงการกำจัดแมลงสาบในท่อระบายน้ำ
- การรับประทานยาเพื่อควบคุมเเละลดอาการเเพ้ไม่ให้รุนเเรง
- เข้ารับการทดสอบอาการเเพ้ เพื่อให้ทราบและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิเเพ้ที่ทำให้มีอาการเเพ้
สรุป
โรคภูมิเเพ้ คือการตอบสนองของร่างกายที่ไวเกินต่อสารก่อภูมิเเพ้ ทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ โดยเราสามารถทราบถึงชนิดของสารก่อภูมิแพ้ อาการเเพ้ การตอบสนอง เเละความรุนเเรงได้โดยเข้ารับการตรวจการทดสอบภูมิแพ้ โดยหากพบว่าเป็นโรคภูมิเเพ้ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิเเพ้ รับประทานยาเพื่อลดอาการเเพ้ เเละดูเเลสุขภาพให้เเข็งเเรง หากพบว่ามีอาการเเพ้รุนเเรงควรรีบไปพบเเพทย์ทันทีเพราะอาจมีอาการรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตได้