ไวรัสตับอักเสบบี โรคอันตรายที่ใกล้ตัวคุณ
นพ. ระพีพันธุ์ กัลยาวินัย อายุรแพทย์ และ ผู้เชี่ยวชาญทางเดินอาหาร และ โรคตับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โรคไวรัสไม่ว่าโรคใดก็ตาม ถ้าสามารถก่อให้เกิดโรครุนแรง หรือเรื้อรังได้ จะเป็นโรคที่น่ากลัวมาก เพราะปัจจุบันยาที่สามารถรักษาเชื้อไวรัส ในร่างกายของคนเรา ยังได้ผลไม่ดีนัก พบว่าโรคไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งพบในคนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงมาก ก่อโรคและอาการแทรกซ้อนที่น่ากลัวได้หลายชนิด นั่นคือไวรัสตับอักเสบ ซึ่งปัจจุบันค้นพบ ชนิด ย่อย ๆ แล้วคือ ไวรัสตับอักเสบเอ (virus A) ถึงไวรัส เอช (virus H) แต่ไวรัสที่ก่อปัญหาในเมืองไทย และที่สามารถตรวจในประเทศไทยได้ ยังคงมีเพียง ไวรัส เอ ,บี ,ซี ,ดี ,อี แหม มีหลายตัวอย่างกับ วิตามินเลยครับ ในที่นี้ จะกล่าวถึงเฉพาะ ไวรัสบี ซึ่งพบมากในคนไทย และเป็นไวรัสตัวหนึ่งซึ่งสามารถก่อโรคตับเรื้อรังได้ เรามาดูรายละเอียดที่คุณควรรู้ที่สำคัญ ๆ กันดีกว่า 0. สาเหตุ เป็นไวรัส DNA 2 สาย ชนิดหนึ่งที่ทำร้ายตับเท่านั้น แต่อาจมีอาการของระบบอื่นนอกเหนือจากตับร่วมด้วยได้ แต่ ต้องมีตับอักเสบร่วมด้วย 1. ใกล้ตัวอย่างไรหรือ เชื่อหรือไม่ว่า ในประเทศไทย พบว่าอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการติดเชื้อไวรัสบีสูงมาก ประมาณว่าพบ พาหะนำเชื้อโรคนี้ถึง 6 – 12 % คือประมาณว่า 1 ใน 10 คน มีเชื้อนี้อยู่ในตัวโดยไม่เกิดอาการ แต่คอยแพร่เชื้อนี้ให้คนอื่นอยู่ (แต่ในปัจจุบันหลังฉีดวัคซีนป้องกันในเด็กทุกคน ทำให้เปอร์เซ็นต์โดยรวมลดลงต่ำกว่า 7 % แล้ว โดยคนในวัยมากกว่า 30 ปี ก็ยังมีอัตราสูงใกล้ 10 % อยู่) และคนไทยหลายคนต้องเคยประสบปัญหานี้มาบ้าง ไม่ว่าจะติดเชื้อแบบไม่รุนแรง ลักษณะคล้ายหวัด มีตัว ตา เหลือง หรือปัสสาวะเข้ม (ติดเชื้อฉับพลัน) จนถึงไวรัสลงตับรุนแรงแล้วหายขาด บวกด้วยคนที่เป็นพาหะทั้งหลายดังกล่าวตอนต้นว่าประมาณ 10 % แล้วอาจรวมได้ถึง 20 – 50 % เลยทีเดียว ก็ลองนับดูนะครับว่าบ้านคุณมีกี่คน หาร สี่ดู “โอโห เยอะจังครับหมอ” คืออย่างนี้ อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับคือโรคนี้ถ่ายทอดในครอบครัวนะครับ ฉะนั้นครอบครัวไหนเป็นที่พ่อ แม่ ไม่ป้องกันให้ดี ก็ยกโหลทั้งตระกูลล่ะครับ ส่วนคุณที่ไม่มีประวัติด่างพร้อยใน ครอบครัว ก็ อย่างเพิ่งตกใจไปครับ, ไวรัสบีถ้าเทียบการติดต่อง่ายแล้ว ถือว่าติดง่ายที่สุดถ้าเทียบกับไวรัสอื่นเช่น ไวรัสซี หรือ เอดส์ ถ้ารับเชื้อในปริมาณน้ำที่ปนเบื้อนเข้ามาเท่ากัน 2. แล้วมันทำไมเยอะมากขนาดนั้นล่ะครับ ผมจะมีวิธีไม่ให้ติดต่อเจ้าไวรัสได้อย่างไรบ้างครับ ปกติแล้ว ไวรัสนี้ติดต่อได้ 3 ทางครับ คือ 2.1 ทาง perinatal หรือ vertical คือลูกที่คลอดจากแม่ที่เป็นเชื้อนี้อยู่เดิม ซึ่งเป็นหนทางที่ทำให้เกิดการติดต่อมากที่สุดก็ทางนี้แหละครับ แม้พบว่านมจะมีเชื้อนี้อยู่ แต่การดื่มกินเชื้อ ไม่พบว่าสามารถทำให้เกิดการติดต่อได้ และน้ำนมมารดามีประโยชน์มากกว่า นมอื่น ๆ จึงยังแนะนำให้มารดาที่มีเชื้อ สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ 2.2 ทางเพศ (Sexual) คือทาง สามี ภรรยา หรือ เพศสัมพันธ์อย่างไม่ระมัดระวัง ประมาณว่า คนที่มีเชื้ออยู่ไม่ว่ามีอาการหรือไม่ จะสามารถถ่ายทอดไปได้ถึง 16 – 40 % ของ sexual partner เลยครับ นั่นคือไม่ 100 % ที่ต้องเป็น เพราะฉะนั้นคนที่พบโรคนี้ สามี, ภรรยา และบุตร ควรมาเช็คตรวจให้แน่ใจทุกคนครับ ถ้ายังไม่ติดเชื้อจะได้ให้วัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานป้องกันไว้ 2.3 ทางอื่น ๆ เช่น รับเลือดจากผู้อื่น เข็มที่เปื้อนเลือด แทงผ่านผิวหนัง (ใช้เข็มยาเสพติดร่วมกัน หรือ บุคลากรทางแพทย์เกิดอุบัติเหตุเข็มตำ) , การล้างไตที่ต้องใช้เลือดในการทำการล้าง รวมทั้งพวกที่ชอบสัก เจาะหู ที่ไม่ใช้เครื่องมือที่ล้างให้ดีด้วย เชื้อนี้พบทางน้ำลายด้วย แต่มีรายงานติดต่อทางถูกกัดแล้วน้ำลายเข้าสู่เลือดทางแผล ส่วนการทานอาหารรับเชื้อเข้าไป มีรายงานติดต่อ (เจ้าหน้าที่ lab ดูดเลือดจากหลอดตวงเข้าปากแล้วเป็นโรค, มีเชื้อมากพอในน้ำลาย และ semen ในการติดต่อ, sporadic case) แต่ไม่น่าเป็นการติดต่อหลัก 3. ใกล้ตัว แต่ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับหมอ ใคร ๆ เขาก็เป็น อย่างนั้นผมก็เป็นมั่งก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นน่ากลัวเลย สาเหตุที่ทำให้โรคนี้ มีจำนวนผู้เป็นพาหะจำนวนไม่มากก็เนื่องจาก โรคนี้ก่อโรคแล้วจะหายถึง 90 % แต่ในคนที่เป็นก่อนที่จะหายเป็นภาวะ ช่วงการติดต่อช่วงแรกอาจรุนแรงถึงกับตับวาย หรือบางคนเรียกไวรัสลงตับ (ประมาณแค่น้อยกว่า 1 %) แต่นั่นหมายถึงอาจเสียชีวิตได้ รวมทั้งบางราย ถึงหายจากฉับพลันก็อาจเกิดปัญหาเป็นพาหะต่อ และเกิดการอักเสบเรื้อรังมีไวรัสอยู่กับตัวไปตลอดชีวิตถึง 5 – 10 % (ขณะที่ติดต่อผ่านการตั้งครรภ์ถ้าไม่ป้องกันจะเกิดโรคเรื้อรังถึง