นโยบายความเป็นส่วนตัว (กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ พนักงานและผู้สมัครงาน)
โรงพยาบาลพระรามเก้า
และศูนย์การแพทย์พระรามเก้า
บริษัทโรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ให้ความสำคัญในเรื่องการคุ้มครองและเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่าน ที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น ๆ (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ที่ใช้บังคับในประเทศไทย และมุ่งหมายที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยเพื่อการดำเนินกิจการของบริษัท ทั้งการบริการหลัก การบริการผ่านเว็บไซต์ หรือการบริการผ่านแอพลิเคชัน บริษัทมีหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความเป็นส่วนตัว หรือความปลอดภัยของข้อมูล ที่ใช้บังคับและมีผลบังคับอยู่ในประเทศไทย การจัดทำนโยบายฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของบริษัทที่จะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายและปฏิบัติหน้าที่ของตนตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าว
ขอบเขตของนโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทในเรื่องความเป็นส่วนตัว วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย วิธีที่บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผย ข้อมูลให้ทราบ การจัดเก็บรวบรวม และรักษาข้อมูลส่วนบุคคล วิธีที่ท่านสามารถเข้าถึง และขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บไว้ และวิธีที่ท่านอาจ ร้องเรียนหากเห็นว่าบริษัทกระทำขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
กรุณาอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยละเอียด
บทนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัทโรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
“บริษัทในเครือ” หมายถึง บริษัทในเครือหรือบริษัทในกลุ่มของ โรงพยาบาล พระรามเก้า จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลนั้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสามารถแยกความแตกต่างหรือสามารถสืบค้นกลับไปที่ตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยลำพังหรือโดยรวมเข้ากับข้อมูลอื่น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น) รวมถึงข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้กับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่มีการเก็บรวบรวมจากและเกี่ยวข้องกับบุคคลแต่ละรายดังต่อไปนี้ ได้แก่ ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน บุคคลที่อยู่ในความดูแลหรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ ผู้สมัครงาน และ/หรือพนักงานซึ่งผู้สมัคร และ/หรือพนักงาน ระบุชื่อให้แก่บริษัท บุคคลที่กระทำการแทนพนักงาน และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว ช่องทางที่ใช้เก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเอกสาร เว็บไซต์ของบริษัท หรือแอปพลิเคชันใด ๆ สำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทจัดให้มีขึ้น และช่องทางของบุคคลภายนอก ที่ท่านทำการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้
1. ข้อมูลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน
บริษัทเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล” เท่าที่จำเป็นตามสมควรสำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ พนักงานและผู้สมัครงาน เช่น บุคลากรทางแพทย์ พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน รวมถึงบุคคลที่อยู่ในความดูแลหรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้สมัครงานและ/หรือพนักงานซึ่งผู้สมัครและ/หรือพนักงานระบุชื่อให้แก่บริษัท บุคคลที่กระทำการแทนพนักงาน และ บุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว (เรียกรวมกันว่า “พนักงานและผู้สมัครงาน”)
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมที่ท่านมีกับบริษัท และสถานที่และวิธีการที่เก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ พนักงานและผู้สมัคร
- ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล อาทิเช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือรายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/บัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลระบุทรัพย์สินของท่าน เช่น ทะเบียนรถยนต์ รายละเอียดบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่าน ข้อมูลการเดินทาง เช่น การขอวีซ่า กำหนดการเดินทาง ข้อมูลเที่ยวบิน และยังรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ความเชื่อทางศาสนา ข้อมูลที่เกี่ยวกับสภาวะสุขภาพทางร่างกาย ประวัติอาชญากรรม การกระทำการ (หรือการถูกกล่าวหาว่ากระทำการ) ที่เป็นความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี หรือข้อมูลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และข้อมูลทางชีวมิติ เช่น รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ
- ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน อาทิเช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน/มหาวิทยาลัย ประวัติการเรียน การทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง
- รายละเอียดการทำงานพื้นฐาน อาทิเช่น รายละเอียดการติดต่อสถานที่ทำงานของท่าน หมายเลขพนักงาน ตำแหน่งงาน รายละเอียดของงาน สายการบังคับบัญชา ชั่วโมงการทำงานและระเบียบและเงื่อนไขของการจ้างงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานของท่าน อาทิเช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ
- ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าจ้าง อาทิเช่น รายละเอียดการจ่ายเงินเดือนและผลประโยชน์อื่นของท่าน ประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับการเกษียณอายุ/บำนาญ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลทางภาษี ข้อมูลของท่านที่เกี่ยวกับสหกรณ์ออมทรัพย์ และข้อมูลของบุคคลภายนอกผู้ได้รับผลประโยชน์
- ประวัติเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการทำงาน รวมถึง การประเมินผลการทำงาน ความเห็นของบริษัทต่อการทำงานของพนักงาน ผลตอบรับ ข้อมูลเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับการทำงานหรือการร้องทุกข์ ประวัติวันหยุดประจำปี ประวัติการลาป่วยหรือขาดงาน ประวัติข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การตรวจร่างกายและสุขภาพ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในสถานประกอบการและความปลอดภัย รวมถึงการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยง
- ข้อมูลเกี่ยวกับความเท่าเทียมและความหลากหลาย ซึ่งบริษัทจะจัดเก็บเฉพาะกรณีที่ท่านสมัครใจ
- ข้อมูลภาพหรือเสียงของพนักงาน หากต้องมีการบันทึกเพื่อการดำเนินการกระบวนการทางวินัย เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานการสอบสวน
- ข้อมูลด้านกฎหมายและประวัติอาชญากรรม ในกรณีที่มีการกำหนดให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับและในบางสถานการณ์โดยเฉพาะ
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องที่กระทำโดยสมัครใจ ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลที่บริษัทร้องขอ แต่การไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผล ให้บริษัทไม่สามารถจัดสวัสดิการบางอย่างให้แก่ท่าน หรือบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ หรือท่านอาจไม่ได้รับการบริการตามที่ท่านต้องการ
ข้อมูลบางอย่างที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจถือเป็น “ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” บริษัทมุ่งหมายที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน เฉพาะในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งและเท่าที่จำเป็นต้องใช้ตามสมควรในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือในกรณีที่กฎหมาย หรือศาล หรือหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือในกรณีที่ท่านได้จงใจเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณชนแล้วเท่านั้น และมุ่งหมายที่จะแบ่งปัน ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่าน หากเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
- เพื่อการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงานให้แก่สมาชิก
- เพราะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน
- เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ
– เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่ใช่การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพหรือผู้มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เป็นความลับตามกฎหมาย ต้องเป็นการปฎิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์
– ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
– การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจ าเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
– การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
– ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญอื่น ๆ
2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
โดยทั่วไป บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ใบกรอกประวัติเพื่อลงทะเบียนผู้ป่วย ใบสมัครงาน (Application Form) หรือเอกสารใด ๆ เพื่อเป็นบุคลากรหรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท เอกสารหรือระบบการลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ขายสินค้าให้แก่บริษัท ช่องทางการกรอกข้อมูลผ่านระบบของบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการแจ้งต่อบริษัทไม่ว่าด้วยใด ๆ ทางวาจา เช่น ทางโทรศัพท์หรือ video / virtual conference ช่องทางการรับส่งข้อมูลผ่านทางอีเมล์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน รวมถึงได้รับข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทหรือบริษัทใด ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือจัดให้มีขึ้น
บริษัทไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่มีการให้ข้อมูลเอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ตามที่กล่าวไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท โดยท่านอาจมีความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยตรงหรือไม่ก็ได้ เช่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก
- บุคคลที่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นเครือญาติหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลของท่านแก่บริษัท
- นายจ้างของท่าน หากบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูลติดต่อของท่าน
- โรงพยาบาลในเครือข่าย โรงพยาบาลอื่น ๆ บริษัทในเครือข่าย ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
- หน่วยงานที่ท่านเป็นสมาชิก
- พนักงานในกลุ่มบริษัท โดยผ่านการแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ หรือทางอีเมลล์ หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ
- หุ้นส่วนทางธุรกิจ อาทิเช่น บริษัทประกัน บริษัทรถเช่า โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ หรือผู้แทนของบุคคลดังกล่าว พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ และบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการแก่ท่าน หรือตอบสนองตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
- บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือ ธนาคาร สถาบันการเงิน
- ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการ
- ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
- เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
- หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
- หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
- ผู้แทนของท่าน และ
- แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมาย และการทำการตลาดที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และจัดทำขึ้นเพื่อการค้าทั้งของภาคเอกชน สมาคมการค้าใด ๆ และ/หรือหน่วยงานของรัฐ (เช่น เว็บไซต์ต่าง ๆ) รวมถึง Social Media อื่น ๆ เช่น Facebook LinkedIn ฯลฯ
3. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใด
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้เยี่ยมชม และผู้แทน เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการของตนได้ โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้เยี่ยมชม และผู้แทน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เป็นต้น
กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ พนักงานและผู้สมัคร
- เพื่อการบริหารและจัดการพนักงานและธุรกิจตลอดจนการประกอบกิจการของบริษัท
- เพื่อการจัดการด้านทรัพยากรบุคคล เช่น การช่วยเหลือพนักงานในการปรับตัวเข้ากับงานใหม่ (onboarding) การวางแผนและ การดำเนินการเกี่ยวกับการจ้างพนักงานและการฝึกอบรม การเลื่อนขั้น การย้ายงาน การมอบหมายให้พนักงานไปทำงานที่อื่น การวางแผนกำลังคน เป็นต้น
- เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของพนักงานเมื่อเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้ระบบเทคโนโลยี ดิจิทัลของพนักงาน โดยอ้างอิงจากนโยบายสำหรับผู้ใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของบริษัท
- เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน เช่น การส่งเสริมการขาย การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแก่ลูกค้า หรือคู่ค้า ลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท เช่น ปัญหาการใช้บริการ การเรียกร้องสัมภาระหรือความสูญหายใด ๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนา สินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม หรือทำการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทำการสำรวจผู้บริโภค เพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความปลอดภัย
- เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการ กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ เป็นการปฏิบัติตามที่กฏหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้น โดยหน่วยงาน กำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กำกับดูแล ธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
- เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัท และกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
- เพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดการจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย ผลประโยชน์ แผนค่าตอบแทน ข้อเสนอในอนาคต รางวัล บัญชีค่าตอบแทน
- เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างงานรายเดือนหรือรายวัน
- เพื่อการติดต่อสื่อสารภายใน การแจ้งการนัดหมายแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล์ หรือไปรษณีย์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่นแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่สามารถใช้ในการติดต่อได้ หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อเป็นการสื่อสาร ให้พนักงานทราบ
- เพื่อการประเมินใบสมัครงานสำหรับโอกาสในงานใหม่และการตัดสินใจในการจ้างงาน รวมถึงการประเมินการเลื่อนตำแหน่ง
- เพื่อการทำแบบสำรวจ สถิติของรัฐบาล หรือ การตอบแบบฟอร์มคำร้องใด ๆ ของรัฐ ไม่ว่าด้วยเหตุใด
- เพื่อการตรวจสอบข้อมูลของท่านตามกฎหมาย ข้อมูลทางกายภาพ หรือความสามารถในการทำงานของท่าน การตรวจสอบโอกาส ที่เท่าเทียมกัน
- เพื่อการตรวจสอบข้อร้องเรียนและประเด็นของการประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ทางวินัย
- เพื่อใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัททั้งภายในและภายนอก
- เพื่อจัดทำบันทึกข้อมูลลูกจ้าง การทำประกัน ประวัติทางการแพทย์และแผนประกัน
- เพื่อการตรวจสอบการอ้างอิงและประวัติโดยพนักงานใด ๆ ของบริษัท หรือบุคคลอื่น การหลีกเลี่ยงการขัดกัน ของผลประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยง แนวโน้มที่จะเกิดการขัดกันของผลประโยชน์ การปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อบังคับ หรือ ผู้มีอำนาจทางปกครองที่อยู่ในหรือนอกประเทศของท่าน และเพื่อตรวจสอบข้อตกลงการจ้างโดยสมาชิกใด ๆ ของบริษัท
- เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่กฎหมาย เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ และ การดำเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และ ข้อกำหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือ ตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
- เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชี และการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท หรือการติดตามทวงหนี้ กรณีที่พนักงานมีหนี้ต่อบริษัท
- เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัย ว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบ ด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควร เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบ ต่อความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
- เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทำธุรกรรมขององค์กร ซึ่งเป็นผลทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจขององค์กร
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
- เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- การดำเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
- เพื่อการดำเนินการอื่น ๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น
หากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด บริษัทมุ่งหมายที่จะแจ้งให้ท่านทราบ ถึงวัตถุประสงค์นั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ๆ
4. บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้อื่นในกรณีใดและอย่างไร
บริษัทไม่ได้ขายข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกในลักษณะนิรนาม หรือในลักษณะข้อมูลรวม ที่ไม่สามารถระบุหรือทราบตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
บริษัทมุ่งหมายให้การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดอยู่เพียงเพื่อวัตถุประสงค์แต่เดิมที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อการดำเนินการทางธุรกิจและการบริหารจัดการของบริษัท รวมถึงกรณี ที่จำเป็นต้องเปิดเผย เพื่อจัดให้สินค้าหรือบริการ ตามที่ท่านขอรับให้แก่ท่าน เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัย ดังรายละเอียดข้างต้น
นอกจากนี้ ในบางครั้งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานภายนอกบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกับที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อจัดให้สินค้า บริการ หรือกิจกรรมให้แก่ท่านตามที่ท่านขอ เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัยหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลต่อไปนี้
- บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัทโรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน)
- โรงพยาบาลในเครือข่าย โรงพยาบาลอื่น ๆ บริษัทในเครือข่าย ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
- หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ และผู้แทนของบุคคลดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนท์ หรือนิทรรศการ บริษัทรถเช่า บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการให้บริการแก่ท่าน หรือตอบสนองตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
- ผู้ถือหุ้น รวมถึงผุ้บริหารของผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล บริษัทในกลุ่มในเครือของผู้ถือหุ้น
- ผู้จัดงาน ผู้ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และผู้สนับสนุนงานอีเวนท์หรือนิทรรศการ
- ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ และซัพพลายเออร์และตัวแทนลักษณะอื่น ๆ ที่ดำเนินการในนามของบริษัท หรือถูกว่าจ้างโดยบริษัท เช่น หน่วยงานที่จัดให้สินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนท์ บริการด้านการธนาคารหรือการเงิน บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชันระบบคลาวด์หรือเครือข่ายข้อมูล บริการลงทะเบียนเข้าร่วมงานอีเวนท์ บริการการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ บริการรักษาความปลอดภัย บริการสอบบัญชี บริการด้านกฎหมาย บริการประกันภัย บริการวิจัยตลาด และบริการจัดการอีเมลหรือไปรษณีย์ และผู้แทนและตัวแทนที่ขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในนามของบริษัท บริการจัดการประมูลสินค้า ทั้งนี้ หน่วยงานเหล่านี้บางรายอาจไม่อยู่ในประเทศไทย และในประเทศนั้นอาจไม่มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ใช้บังคับในประเทศ หรือมีแต่ไม่เพียงพอหรือได้มาตรฐานเทียบเท่ากับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
- บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ธนาคารหรือสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต หรือบริษัท platform ผู้ให้บริการในลักษณะเดียวกัน แล้วแต่กรณี
- บุคคลใดก็ตามที่ท่านให้ความยินยอมในการรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ผู้ที่ซื้อหรือขาย หรือจะซื้อหรือจะขาย หากบริษัทขายธุรกิจหรือกิจการของบริษัทบางส่วน ควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อธุรกิจหรือบริษัทอื่น และ
- บุคคลใดหรือหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย ตามคำสั่งศาล หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานของรัฐ หรือองค์การเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ในการดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ทราบ
บริษัทอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเพื่อพัฒนา หรือบำรุงรักษาระบบของบริษัท ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทจะควบคุมและวางมาตรการเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นทำการเก็บรักษา ใช้เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายส่วนบุคคลฉบับนี้ ดำเนินการเพื่อให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขด้านความมั่นคงปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
5. การเก็บรักษาความปลอดภัยในข้อมูลและระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทได้มีมาตรการ ดังนี้
- กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด
- บริษัทได้กำหนดวิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- ในการส่งการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรข้างนอก หรือยังต่างประเทศ รวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด เก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
- กรณีที่บริษัทมีการจ้างหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ของพนักงาน เช่น บริษัทรับฝากเอกสารต่างๆ ที่ทางบริษัทได้ใช้บริการ บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงานที่ถูกว่าจ้างในการดำเนินการดังกล่าวให้จัดเก็บข้อมูล เป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและมิให้มีการนำเอกสารดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากการดำเนินงานของทางบริษัทเท่านั้น
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีความสัมพันธ์กับท่าน เช่น ตลอดระยะเวลาที่มีการให้บริการแก่ท่าน ตลอดการจ้างแรงงาน ตลอดการซื้อขายสินค้าของบริษัท และเมื่อท่านยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แต่ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป ไม่เกินระยะเวลา 10 ปีนับแต่การติดต่อครั้งสุดท้ายหรือจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัทจะสิ้นสุดลง เว้นแต่ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษา ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปนานกว่า 10 ปี หรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้บนเครือข่ายใช้เซิร์ฟเวอร์อยู่ที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจต้องมีการโอนข้อมูลไปนอกประเทศไทย เพื่อให้บรรลุประสงค์ตามที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6. เว็บไซต์ของบริษัท
เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในหน้าที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ของบริษัทจะบันทึกการเยี่ยมชมนั้น และเก็บข้อมูลต่อไปนี้
- ที่อยู่ไอพีของท่าน (ซึ่งหากอธิบายโดยใช้คำทั่วไป หมายถึงข้อมูลเฉพาะที่กำหนดขึ้นสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ของท่านเมื่อมีการเชื่อมต่อ เข้ากับอินเทอร์เน็ต)
- คำค้นหาที่ใช้
- ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ที่ท่านกำลังใช้ และ
- ข้อมูลที่ท่านดาวน์โหลด (เช่น หน้าเว็บ หรือไฟล์เอกสารหรือซอฟต์แวร์อื่น) และเวลาที่ทำการดาวน์โหลด
ข้อมูลข้างต้นนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสถิติเท่านั้น เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัท ที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ ของบริษัทเยี่ยมชมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้บริษัททราบได้ว่าจะปรับปรุงบริการของบริษัทได้อย่างไร
หากท่านติดต่อบริษัท ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท หรือแอพปลิเคชันที่บริษัทใช้ในการติดต่อสื่อสารกับท่าน หรืออีเมลถึงบริษัท บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่ท่านขอหรือเพื่อตอบข้อสอบถามของท่านเท่านั้น นอกจากนี้ หากท่านให้ความยินยอม ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทอาจเพิ่มที่อยู่อีเมลของท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บันทึกบนแอพปลิเคชันไว้ในรายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมายหรือข้อมูลเพื่อการติดต่อสื่อสารของบริษัท อย่างไรก็ดี ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้ หากท่านไม่ต้องการรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท งานอีเวนท์ การส่งเสริมการขายบริการ/ สินค้าของบริษัทอีก
คุกกี้
สำหรับในส่วนของเว็บไซต์ที่จำกัดการเข้าถึง บริษัทจะใช้ “คุกกี้” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จดจำอุปกรณ์ของท่าน และเก็บข้อมูลบางประเภท ในระหว่างที่มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์จากอุปกรณ์เครื่องเดิม เว็บไซต์ของบริษัทใช้คุกกี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองท่านได้ดีขึ้นเมื่อท่านเข้าใช้บริการบางส่วนของ เว็บไซต์ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและวิเคราะห์จะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อของท่าน เช่น ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ และภาษาที่เลือกใช้ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ และไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้งานรายใด ๆ ได้ ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ไม่ให้ตรวจหาคุกกี้ หรือเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้ได้ หากท่านต้องการ
สิ่งสำคัญคือท่านต้องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านและเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านควรออกจากระบบทุกครั้ง หากท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น
การบันทึกผู้เข้าถึงระบบ
บริษัทอาจดำเนินการบันทึกผู้เข้าถึงระบบหรือชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน (Log Files) โดยเก็บบันทึกการเข้า ออกแบบอัตโนมัติ รวมถึงที่อยู่ IP, รายงานข้อขัดข้อง กิจกรรมระบบ ตลอดจนวันที่ เวลา และ URL ของผู้ใช้ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวกับข้อมูลซึ่งระบุตัวบุคคลได้ พร้อมทั้งจัดเก็บบันทึกตาม ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
กล้องวงจรปิด
บริษัทใช้กล้องวงจรปิดในการบันทึกภาพของบุคคลและยานพาหนะของบุคคลในและรอบ ๆ สถานที่ของบริษัท เพื่อผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยสาธารณะและเพื่อการป้องกันและตรวจจับอาชญากรรม กล้องวงจรปิดของบริษัทตรวจสอบทางเข้า ห้องโถง ระเบียง ที่จอดรถด้านนอกของอาคาร รอบรั้วของอาคารและสถานที่ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงสถานที่ของบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมงและมีการบันทึกและ เขียนทับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ตำแหน่งกล้องถูกเลือกเพื่อลดการจับภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ที่ถูกต้อง สำหรับการตรวจสอบและระบบเฝ้าระวังไม่ได้ใช้บันทึกเสียง
การป้อนข้อมูลสด (Live feeds) จากกล้องวงจรปิดจะได้รับการตรวจสอบเฉพาะในกรณีที่จำเป็นโดยผู้มีอำนาจของบริษัทเท่านั้น บริษัทให้ความเชื่อมั่นว่าการป้อนข้อมูลสดและภาพที่บันทึกจากกล้องสามารถเข้าถึงได้โดยพนักงานของบริษัทที่ผ่านการอนุมัติเท่านั้น เนื่องด้วยพนักงานดังกล่าวมีหน้าที่ความรับผิดโดยตรงจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยจะไม่มีกล้องวงจรปิดวางในบริเวณที่พึงคาดหมายได้ว่าต้องมีความเป็นส่วนตัว เช่น ในห้องน้ำ
เว็บไซต์หรือแอปลิเคชันอื่น ๆ
เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งในกรณีดังกล่าว บริษัทไม่ใช่ผู้ควบคุมเว็บไซต์ เหล่านั้น และไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้ดำเนินการเว็บไซต์เหล่านั้นในเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนเว็บไซต์ที่มีลิงค์ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท หรือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันนั้นก่อน
7. ผู้เยาว์
บริษัทไม่อาจทราบอายุของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้ หากท่านเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตน แก่บริษัทโดยที่ท่านไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม ท่านอาจติดต่อบริษัทและขอให้บริษัทลบข้อมูลนั้นได้ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
8. การให้ความยินยอม
เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับอนุญาต เมื่อท่านใช้หรือเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท หรือแอพปลิเคชันที่บริษัทใช้บริการ หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท จะถือว่า
- ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดอื่นใดตามที่ระบุข้างต้น (ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้เป็นครั้งคราว) เว้นแต่และจนกว่าท่านจะแจ้งเพิกถอน ความยินยอมนั้น ต่อบริษัท ท่านอาจขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้โดยการแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือว่าท่านขอเพิกถอนความยินยอม ทั้งนี้ บริษัทอาจไม่ดำเนินตามคำขอของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายอนุญาต และ
- ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกและบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มบริษัทบริษัท ตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดอื่นใดตามที่ระบุข้างต้น วิธีการที่ระบุข้างต้น ท่านอาจขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยการแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือว่าท่านขอเพิกถอนความยินยอม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นก่อน และท่านรับรองและรับประกันว่า ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นแล้ว หรือมีสิทธิโดยประการอื่นที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น แก่บริษัท จะถือว่าท่านให้คำรับประกันว่าบุคคลนั้นทราบและให้ความยินยอมตามข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แล้ว
หากกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมเพิ่มเติม บริษัทหรือผู้ให้บริการแก่บริษัทรายใด ๆ ที่เป็นบุคคลภายนอก จะดำเนินการให้ได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น
ท่านมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัทเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามคำขอของท่าน หรือ จัดให้บริการที่ท่านขอรับให้แก่ท่านได้ การที่ท่านไม่อนุญาตให้เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลบุคคลบางประเภทตามที่บริษัทได้แจ้งหรือขอ อาจทำให้บริษัทไม่สามารถ ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ ไม่สามารถประกอบธุรกิจ ดำเนินการทางธุรกรรมกับท่าน หรือให้บริการแก่ท่านตามที่ท่านร้องขอได้
9. สิทธิของท่าน
- สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายทก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
- สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
- สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
- สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัท จะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว สิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการร้องขอ ให้บริษัทจำกัดการประมวลผลข้อมูล โดยผู้ควบคุมข้อมูลสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ แต่ไม่สามารถนำไปประมวลผล ข้อมูลได้อีกต่อไป เว้นแต่พนักงานจะให้ความยินยอมหรือได้รับการยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัท จะดำเนินการตามคำขอของท่าน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัท จะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
- สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านพบว่าบริษัท หรือบุคลากรของบริษัทใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านไม่เป็นไปตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือไม่เป็นการประมวลผล ตามที่มีสิทธิตามกฎหมาย ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
10. ติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลพระรามเก้า 99 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 / E-mail [email protected] หรือเบอร์โทรศัพท์ 1270
ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องแจ้งให้บริษัททราบ ได้แก่
- ชื่อ สกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน / เลขหนังสือเดินทาง
- เรื่องที่ต้องการติดต่อสอบถาม รายละเอียดของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
- เบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งที่อยู่สำหรับการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของท่าน
11. การทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือบริษัทของบริษัท ท่านควรตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว ที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบหากมีการปรับปรุงนโยบายฉบับaนี้ ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ ผู้ใช้งานทราบโดยการแสดงข้อความว่า “ปรับปรุงใหม่” ไว้ที่ลิงค์ของนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเวลา 30 วัน และบริษัทอาจขอความยินยอมจากท่าน (หากจำเป็น)
นโยบายความเป็นส่วนตัว (กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ พนักงานและผู้สมัครงาน) นี้ ให้มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ
กรรมการผู้อำนวยการ
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน)
ข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจ
โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Sustainability Disclosure Award 2024 ตอกย้ำสู่ความยั่งยืน
โรงพยาบาลพระรามเก้า เข้ารับรับรางวัลเกียรติคุณการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนประจำปี 2567 หรือ Sustainability Disclosure Recognition 2024 ในงานประกาศผลของประชาคมการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน จัดตั้งโดยสถาบันไทยพัฒน์
รพ.พระรามเก้า คว้ารางวัลเ SET AWARDS 2024 ประเภท “Highly Commended Sustainability Awards”
นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้า ประกาศความสำเร็จการดำเนินธุรกิจอย่
รพ.พระรามเก้า ร่วมกับ สมาคมกีฬาผู้เปลี่ยนอวัยวะแห่งประเทศไทย สนับสนุนตรวจร่างกายให้กับนักกีฬาผู้เปลี่ยนอวัยวะสำหรับการแข่งขัน 5th Hong Kong Transplant and Dialysis Games
ขอบคุณทีมจาก สมาคมกีฬาผู้เปลี่ยนอวัยวะแห่งประเทศไทย ที่ไว้วางใจให้โรงพยาบาลพระรามเก้า ดูแลสุขภาพหัว