โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิด “ศูนย์นิทรารมณ์ (Sleep center)” พร้อมระดมทีมแพทย์มือหนึ่ง ด้านโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบทางเดินหาย และอายุรศาสตร์การนอนหลับ และด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา ให้คำปรึกษาการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการนอนหลับ, บริการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ตามคำสั่งแพทย์ ตลอดจน รักษาโรคและอาการที่เกี่ยวกับการนอนและระบบการหายใจ เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาการนอนหลับที่ผิดปกติ ลดความเสี่ยง ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (obstructive sleep apnea; OSA)’ ด้วยแนวทางการรักษาที่ล้ำสมัย ลดปัจจัยเสี่ยงก่อนนำไปสู่โรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
ศ.นพ.ณัฐพงษ์ เจียมจริยธรรม แพทย์หัวหน้าศูนย์นิทรารมณ์ (Sleep center)” โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า “ปัจจุบัน อาการนอนไม่หลับหรือภาวะคุณภาพการนอนที่ไม่ปกติ เป็นปัญหาที่พบบ่อยถึงร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมด และ 1 ใน 3 เป็นการนอนไม่หลับเรื้อรัง คือมีอาการนอนไม่หลับอย่างน้อยนาน 1 เดือน หากปล่อยให้เกิดขึ้นเป็นเวลานานอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นอาการอย่างหนึ่งของกลุ่มอาการภาวะหายใจผิดปกติขณะนอนหลับ อย่างเช่น มีการหยุดหายใจขณะหลับ หรือเกิดการหยุดหายใจเป็นพักๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายขาดออกซิเจน จนเป็นสาเหตุของโรคนอนไม่หลับและอื่นๆ อีกหลายโรค ซึ่งหากปล่อยไว้เรื้อรังมีโอกาสนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรงได้
ดังนั้น โรงพยาบาลพระรามเก้าจึงมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์นิทรารมณ์ Sleep Center ขึ้น เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาอาการดังกล่าว โดยให้บริการดูแลแบบองค์รวม ตั้งแต่การทั้งการดูแลก่อนเจ็บป่วย การรักษา และการดูแลสุขภาพหลังการรักษา รวมถึงการวางแผนการรักษา เพื่อรองรับการวินิจฉัยและรักษาอาการต่างๆ ก่อนนำไปสู่ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้”
“ศูนย์ Sleep Center โรงพยาบาลพระรามเก้า ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ป่วยที่ปัญหาด้านการนอนที่ควรได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพและเฉพาะทางโดยให้บริการที่ครอบคลุมครบวงจร ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับมาตรฐาน เราให้คำปรึกษาการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการนอนหลับ ให้บริการการรักษาโรค และอาการที่เกี่ยวกับการนอนและระบบการหายใจ ตลอดจนให้บริการตรวจการนอนหลับ(Sleep Test) ตามคำสั่งแพทย์ ครอบคลุมทั้งการให้บริการในด้านสถานที่สำหรับการทดสอบ Sleep Lab ตอบโจทย์ผู้รับบริการที่ต้องการมารับการดูแลที่โรงพยาบาล โดยห้อง Sleep Lab จะให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย และมีความปลอดภัย อุ่นใจเปรียบเสมือนอยู่ที่บ้าน พร้อมทั้งยังมีการติดตามผลการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังการรักษา
ซึ่งการตรวจ Sleep Test จะเป็นการตรวจการนอนหลับเพื่อสังเกตการทำงานของร่างกาย และหาสาเหตุของความผิดปกติต่างๆ ในระหว่างการนอนหลับ เป็นการตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (obstructive sleep apnea; OSA) การกระตุกของกล้ามเนื้อต่าง ๆ รวมถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างการนอนหลับ เพื่อให้แพทย์สามารถนำผลการตรวจไปวางแผน หรือติดตามการรักษาได้อย่างถูกต้อง
โดยจะมีการติดอุปกรณ์เฉพาะที่ใช้บันทึกการทำงานของร่างกายขณะนอนหลับ ได้แก่ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด การหายใจเข้าออกทั้งทางจมูกและทางปาก คลื่นไฟฟ้าสมอง คลื่นไฟฟ้าหัวใจ การขยับของกล้ามเนื้อตา แขนขาและกราม รวมทั้งบันทึกวิดีโอเพื่อสังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างนอนหลับ โดยส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่ประจำห้องตรวจ จะเริ่มทำการติดตั้งเครื่องและตัวตรวจวัดต่างๆ โดยจะใช้เวลาประมาณ 45 – 60 นาที เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น แพทย์จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแปลผลการตรวจ เพื่อวินิจฉัยความผิดปกติต่าง ๆ พร้อมทั้งประเมินความรุนแรงต่อไป”
Sleep center มีการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรียกว่า ‘เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกชนิดต่อเนื่อง หรือเครื่อง CPAP: Continuous Positive Airway Pressure’ มาช่วยในการรักษาผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอน ซึ่งเป็นการรักษาที่นิยมและได้ผลดีวิธีหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนขณะหลับทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหานอนกรนธรรมดา หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งมีความรุนแรงตั้งแต่ระดับน้อยถึงรุนแรง
โดยหลักการการทำงานของ เครื่อง CPAP นี้ จะใช้แรงดันอากาศในการช่วยเปิดทางเดินหายใจให้โล่งขึ้น เพื่อช่วยให้ออกซิเจนในอากาศ ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่ายกายได้อย่างเพียงพอ จากนั้น แพทย์จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแปลผลการตรวจเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติต่าง ๆ พร้อมทั้งประเมินความรุนแรง เช่น การหยุดหายใจขณะหลับ ระดับออกซิเจนในเลือดขณะหลับ ภาวะเคลื่อนไหวและพฤติกรรมผิดปกติขณะหลับ นอนแขนขากระตุกขณะหลับ การละเมอ ภาวะนอนไม่หลับ และความผิดปกติของการนอนหลับอื่น ๆ ได้”
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับคำปรึกษา เพื่อเข้ารับการตรวจ Sleep test สามารถพิจารณาว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยสังเกตอาการผิดปกติดัง ต่อไปนี้
- นอนกรน
- มีเสียงกรนหยุดเป็นพักๆ พลิกตัวบ่อยๆ
- หายใจลำบากและสงสัยว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับ
- ง่วงนอนช่วงกลางวันมากผิดปกติ ทั้งที่ได้ผักผ่อนอย่างเพียงพอ
- ตื่นเช้าไม่สดชื่น มีอาการปวดหัวหลังตื่นนอน และรู้สึกอ่อนเพลียหลังตื่นนอนบ่อยๆ
- มีพฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติ เช่น แขนขากระตุกระหว่างนอนหลับ นอนกัดฟัน นอนละเมอ หรือสะดุ้งตื่นเป็นประจำ
- นอนหลับยาก หรือรู้สึกนอนหลับได้ไม่เต็มที่บ่อย ๆ มากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ดังนี้ กลุ่มผู้ที่เสี่ยงจะเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น(obstructive sleep apnea; OSA), ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวเกิน, ผู้ที่แพทย์สงสัยว่าอาจมีภาวะชักขณะนอนหลับหรือเป็นโรคลมหลับ(narcolepsy), ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับที่ยังรักษาไม่ได้ หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ เช่น หัวใจวาย ไตวาย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น สำหรับผู้ที่จะเข้ารับบริการด้วยเครื่อง CPAP นี้ ต้องได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อน โดยผู้รับบริการสามารถทดลองใช้เครื่องก่อนตัดสินใจรับบริการได้
“การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือมากจนเกินไป ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณร้ายก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น รวมทั้งยังกระทบไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ สมาธิลดลง, ความจำลดลง, ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง, ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ความรู้สึก เช่น หงุดหงิด เบื่อหน่าย ท้อแท้ ผลกระทบเหล่านี้ หากเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาได้ ทั้งโรคทางร่างกาย และโรคทางจิตใจ ดังนั้น หากมีอาการนอนไม่หลับและไม่สามารถกลับสู่การนอนหลับตามปกติได้ด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่ปัญหาการนอนจะมีผลกระทบในด้านอื่นๆ”
สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการหรือมีความเสี่ยง
สามารถติดต่อเพื่อเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและนัดหมายได้ที่ Website: https://bit.ly/3xJUA3f
Line: https://lin.ee/vR9xrQs หรือ@praram9hospital
Facebook: www.facebook.com/praram9Hospital
หรือ โทร.1270
โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital