“เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกด้วยวิตามินดี”
ข้อมูลจากการศึกษาทางการแพทย์ชี้ให้เห็นโอกาสที่ดีในการดูแลสุขภาพกระดูก นพ.พีรพงษ์ สวัสดิพงษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลพระรามเก้า แนะนำว่าการรับแสงแดดอย่างเหมาะสม เป็นวิธีง่ายๆ ที่ ช่วยเสริมสร้างวิตามินดีให้ร่างกาย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพกระดูก จากการศึกษาพบว่าแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าและเย็นเป็นช่วงเวลาทองที่จะช่วยเสริมสร้างวิตามินดีให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย นพ.พีรพงษ์ สวัสดิพงษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม โรงพยาบาลพระรามเก้า เผยว่า
การศึกษาทางการแพทย์แสดงให้เห็นความสำคัญของแสงแดดต่อสุขภาพกระดูก โดยพบว่าแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าเป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติที่ดีที่สุด เมื่อแสงแดดสัมผัสผิวหนัง ร่างกายจะสร้างวิตามินดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
จากข้อมูลการตรวจสุขภาพในปัจจุบันคนไทยมีภาวะขาดวิตามินดีสูงมาก พบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉลี่ยคนไข้ 100 คนจะตรวจพบว่าคนไข้มีภาวะขาดวิตามินดีประมาณ 30-40% มีสาเหตุมาจากคนไทยกังวลการถูกแสงแดดมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้กระดูกเปราะบางและเสี่ยงต่อการหักได้ง่ายจึงเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมสุขภาพกระดูกของคนไทย เพราะการรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการป้องกันโรคกระดูกพรุนและเสริมสร้างสุขภาพกระดูกที่ดีในระยะยาว
วิตามินดีคืออะไร? สำคัญกับโรคกระดูกพรุนอย่างไร?
“วิตามินดี” คือวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกาย วิตามินดีเป็นตัวช่วยดูดซึมแคลเซียมที่รับประทานเข้าไปเพื่อเสริมสร้างกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังมีประโยชน์อื่น ๆ ที่คาดไม่ถึง เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ อีกทั้งยังคลายความเครียด ลดอาการโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

วิตามินดีใกล้ตัวหาได้ง่าย ๆ จาก:
- แสงแดดอ่อน ๆ (ช่วงเวลายามเช้า 06:00-09:00 ช่วงเวลาเย็น 16:00 น.เป็นต้นไป)
- ปลาตัวเล็ก เช่น แซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล
- ผักใบเขียวเข้ม
- ผลไม้สีเหลือง สีส้ม
- ตับ
- เห็ด
- นม ชีส
- ไข่แดง
คนไทยอาจ “กระดูกพรุน” เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี
เมื่อคนไทยเกิดภาวะขาดวิตามินดี แน่นอนว่า “กระดูกของเรา” จะไม่แข็งแรง เปราะบาง เกิดการหักได้ง่าย โดยปกติร่างกายจะสามารถสร้างเซลล์กระดูกที่ดีและแข็งแรงได้ถึงอายุ 30 ปี แต่หลังจากนี้ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะค่อย ๆ เสื่อมถอยลง และเมื่อเข้าสู่วัย 60 ปี หรือผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน กระดูกจะเปราะบางและหักง่าย มีการประมาณการว่าในปี 2568 จะมีผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักในประเทศไทยมากถึง 3 หมื่นกว่าราย และเพิ่มขึ้นปีละ 2% จนในอนาคตอีก 25 ปี อาจมีผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักมากถึง 5 หมื่นรายต่อปี โดยพบสัดส่วนผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 2 เท่า

โรคกระดูกพรุนใช้เวลาสะสมถึง “สิบปี”
“โรคกระดูกพรุน” เป็นเหมือนภัยเงียบ เพราะจะไม่แสดงอาการของโรค จนกว่าจะเกิดกระดูกหัก นพ.พีรพงษ์เปิดเผยข้อมูลต่อว่า จากการศึกษาทางการแพทย์ เริ่มมีการศึกษาเรื่องกระดูกพรุนอย่างจริงจังในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่า “อาการกระดูกหัก เปราะบาง ในผู้สูงอายุ และผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน” คือ “โรคกระดูกพรุน” ที่สะสมมานานเป็นเวลาหลายสิบปี
“โรคกระดูกพรุน” เกิดจากการสลายของเนื้อกระดูกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลกระดูกลดลง ส่งผลให้กระดูกไม่แข็งแรง เปราะบางทำให้มีโอกาสกระดูกหักผิดรูปได้ง่าย ระยะเวลาในการเกิดโรคหลายปี โดยปกติในร่างกายคนเราจะมี “เซลล์สร้างกระดูกและเซลล์ทำลายกระดูก” ที่ทำหน้าที่สร้างและสลายกระดูกอย่างสมดุลกัน โดยเซลล์สร้างกระดูกจะทำหน้าที่นำแคลเซียมที่ร่างกายดูดซึมมาใช้สร้างกระดูกให้แข็งแรง แต่เมื่อกระดูกได้รับบาดเจ็บหรือเสื่อมสภาพตามอายุ เซลล์ทำลายกระดูกก็จะทำหน้าที่ย่อยสลายกระดูกในส่วนนั้น เพื่อให้เซลล์สร้างกระดูกมาทำหน้าที่สร้างกระดูกใหม่ชดเชยกระดูกส่วนที่ถูกสลายไป
“เซลล์สร้างกระดูกและเซลล์ทำลายกระดูก” ทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้อย่างไร?
@praram9hospital อายุเท่านี้.. 🕣 กระดูกเริ่มพรุนหรือยังนะ 🤔‼️🦴 #กระดูกพรุน #กระดูกเสื่อม #โรงพยาบาลพระรามเก้า #Praram9Hospital ♬ A fun song with an exciting atmosphere(944577) - yanagamo
สรุป
โรคกระดูกพรุนมีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นในคนไทย สาเหตุหนึ่งเกิดจากการขาดวิตามินดีจากแสงแดด โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น ส่งผลให้มีภาวะขาดวิตามินดีสูง ทำให้กระดูกเปราะบาง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการหักของกระดูกเพราะวิตามินดีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายผลิตวิตามินดีที่มีความจำเป็นอย่างมากในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุน
การป้องกันกระดูกพรุนสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการรับแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้าและเย็น รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีให้เพียงพอ
โรคกระดูกพรุนถือเป็นภัยเงียบที่ใช้เวลาสะสมเป็นเวลานานถึงสิบปี โดยส่วนมากกว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองกระดูกพรุนก็อาจกระดูกหักไปแล้ว เพราะเมื่อเป็นแล้วจะทำให้กระดูกเปราะบางและหักง่ายจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หากกระดูกหักในส่วนที่สำคัญมาก ๆ เช่น สะโพกหัก หรือหกล้มโดนส่วนที่สำคัญก็อาจทำให้ทุพพลภาพหรือเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีการดูแลสุขภาพกระดูกตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันภาวะนี้ในอนาคต