โดยทั่วไปแล้วเซลล์ที่สร้างกระดูกจะเริ่มทำงานน้อยลงตั้งแต่อายุ 35 ปี ซึ่งเกิดได้กับ
คนทุกเชื้อชาติ ในแต่ละส่วนภูมิประเทศของโลก ลักษณะการรับประทานอาหาร และลักษณะ
กิจกรรม หรือการออกกำลังกายจะช่วยลดอัตราการเสียมวลกระดูกได้ ในผู้สูงอายุมักจะมี
ปัญหาของกระดูกที่มีมวลกระดูกน้อยอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ความทนทานหรือความแข็งแรงต่อ
กระดูกหักมีน้อยลง ภาวะกระดูกสันหลังทรุดพบได้น้อยในผู้สูงอายุที่มีปัญหาของโรคกระดูก
พรุน ซึ่งบางครั้งพบโดยบังเอิญจากการตรวจถ่ายภาพรังสีโดยที่ไม่มีอาการแสดงความเจ็บปวด
การที่มีกระดูกสันหลังทรุดทำให้เกิดหลังโกง หรือในรายที่มีอาการหลังโกงมาก ๆ จะทำให้ทำหน้าที่
ของปอดน้อยลง เหนื่อยง่ายกว่าปกติ และนอกจากนี้แล้วทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายเปลี่ยนไปข้างหน้า
ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการหกล้มได้สูง และอาจเกิดกระดูกหักในส่วนต่างๆ ของร่างกายตามมาได้ อาการ
ปวดหลังจากกระดูกทรุดพบได้เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยในช่วงแรกๆ และถ้าอาการปวดเป็นเรื้อรังอาจจะ
เกิดจากกล้ามเนื้อหลังที่อ่อนแรง ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการทำให้เกิดกระดูกพรุน คือ การไม่ค่อยเคลื่อนไหว
หรือทำกิจกรรมน้อยในแต่ละวัน
ผลของการออกกำลังกายต่อโรคกระดูกพรุน
การออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนมีข้อคำนึงอยู่ 2 ข้อใหญ่ ข้อแรก คือ ภาวะสมรรถภาพทาง
ร่างกายที่ไม่ค่อยมากเนื่องจากไม่มีการออกกำลังกายมาก่อน หรือกิจกรรม กิจวัตรประจำวันที่น้อยการออก
กำลังกายจึงเป็นขั้นต่ำๆ ในช่วงแรกไม่ให้หักโหมมาก ข้อสอง คือ ภาวะโรคทางกระดูกต่าง ๆ เช่น ข้อเสื่อม
หรือเอ็นอักเสบ ซึ่งทำให้การออกกำลังกายทำได้ไม่เต็มที่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้นช่วยให้การ
เสื่อมสลายของมวลกระดูกให้ช้าลง และในปัจจุบันนี้ยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันได้ว่าการออกกำลังกายจะทำให้
มวลกระดูกเพิ่มขึ้น ดังนั้นการออกกำลังกายจึงควรประกอบไปกับการใช้ยาในการรักษา หรือป้องกันโรค
กระดูกพรุน
ข้อแนะนำในการออกกำลังกาย
มีข้อควรระวังในผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจอยู่ด้วย ถ้าไม่เคยตรวจหรือไม่เคยทราบว่ามีโรคหัวใจมาก่อน
ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ ทำการทดสอบเพิ่มเติมต่อไป ก่อนจะทำการออกกำลังกายอยู่จริงจัง ในผู้ป่วย
ที่มีภาวะกระดูกทรุดและหลังโก่งควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายโดยการใช้เครื่องวิ่งสายพาน เนื่องจากจุด
สมดุลของร่างกายที่เปลี่ยนไป ทำให้การทรงตัวในเครื่องวิ่งไม่คงที่อาจจะล้มและเป็นอันตรายได้ ควรจะ
เปลี่ยนมาเป็นการใช้จักรยานปั่นอยู่กับที่แทน การประเมินความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเป็นสิ่งที่สำคัญใน
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ เพื่อค้นหากลุ่มกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง และเน้นการออก กำลังกายไปยังกลุ่มกล้ามเนื้อนั้น ๆ
การทดสอบความประสานงาน และความสมดุลของร่างกายก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อช่วยให้การออกกำลังกาย
เป็นไปด้วยความปลอดภัยและได้ประโยชน์สูงสุด
โปรแกรมในการออกกำลังกาย
ควรจะมีทั้งอาการออกกำลังกายเพื่อหวังผลทั้งทางด้าน แอโรบิค เช่น การเดินเร็ว วิ่งเบาๆ และ
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อควบคู่กันไป การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะช่วยให้การทรงตัว
ดีขึ้น และทำให้มวลกระดูกไม่เสื่อมสลายเร็ว การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ให้ได้ผลดีนั้น ควรใช้น้ำหนักที่เหมาะสมและจำนวนครั้งที่พอเหมาะ เน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทั้ง
ส่วนบนและส่วนล่าง และกล้ามเนื้อ ลำตัว เป็นหลัก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหลังควรระวังท่าการออกกำลังกาย
ที่ทำให้มีการงอของสันหลังในผู้ป่วยที่มีการะดูกพรุนอยู่แล้ว เพราะจะทำให้เกิดกระดูกทรุดใหม่ได้
ในรายที่มีกระดูกทรุดหลายระดับ กระดูกบางมาก หรือปวดหลัง ไม่สามารถจะทำการออกกำลัง
กายตามปกติได้ อาจมีทางเลือกในการออกกำลังกายโดยไม่ทำให้เกิดอาการปวดมากขึ้น เช่น การว่ายน้ำ
เกิดในน้ำ หรือ แอโรบิคในน้ำ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความสมดุลของร่างกาย และลด
อัตราการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
โปรแกรมในการออกกำลังกายในผู้ป่วยแต่ละท่านจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ภาวะโรคประจำตัวที่มี
อยู่ หรือภาวะโรคทางกระดูก หรือภาวะสมรรถภาพเดิม ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลของการออกกำลังกายที่ดีและ
เหมาะสม หากท่านไม่แน่ใจในโปรแกรมการออกกำลังกาย ควรเข้ารับการแนะนำจากแพทย์ เพื่อป้องกัน
อันตรายอันอาจเกิดจากการออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้อง และเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ของการออกกำลังกาย
ได้ดีที่สุด