คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด
หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วันก็หายเองได้ ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โพรงจมูกอักเสบ-หลอดลมอักเสบ หวัดธรรมดาไม่มีสภาพเรื้อรัง ถ้ามีอาการทุกเดือนหรือแต่ละครั้งนานเกินกว่า 10 วัน ให้สงสัยว่าไม่ใช่หวัด
โรคภูมิแพ้ เกิดจากร่างกาย เยื่อบุจมูก-ตา , หลอดลม สัมผัสกับสารอินทรีย์ ในสิ่งแวดล้อม เช่น เกสรดอกไม้ , ซากแมลง-ฝุ่น , เชื้อรา , ขนสัตว์ ฯลฯ เกิดปฏิกิริยาจำเพาะ (Specific) ทำให้เยื่อบุบวม มีน้ำมูกไหล จาม หลอดลมอักเสบ เกิดกับผู้ที่แพ้ต่อสิ่งสัมผัสเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะแพ้และจะมีอาการเหมือนกันหมด ผู้ที่ไม่แพ้ อาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้
ผู้ที่สัมผัสกับควันบุหรี่ ควันไอเสียรถยนต์ หรือสารเคมี กลิ่นฉุนๆ แล้วคัดจมูก แสบจมูก แน่นหน้าอก อาการเหล่านี้ไม่ใช่โรคภูมิแพ้ แต่เป็นผลของสารพิษที่มีต่อเยื่อบุทางเดินหายใจโดยตรง ทุกคนที่สัมผัสก็จะมีอาการเหมือนกันหมด ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การทานยาแก้แพ้ (Antihistamine) หรือพ่นยา (topical steroid) จะลดอาการโรคภูมิแพ้ได้แต่จะไม่สามารถป้องกันอากาศเป็นพิษ หรือกลิ่นไอที่ฉุนๆ ได้
โรคภูมิแพ้ที่พบบ่อย มักเกิดในช่วงเวลาเฉพาะ เช่น กลางคืน หรือตอนเช้า หรือมีมากในช่วงหนึ่งช่วงใดของปี ที่มีเกสรดอกไม้ ต้นหญ้าในอากาศหนาแน่นมาก โรคหวัดช่วง 1 – 2 วันแรกแยกได้ยากกับอาการโรคภูมิแพ้ฉับพลัน
คนส่วนมากเข้าใจว่า ถ้าจามบ่อยๆ มีน้ำมูกใสๆ คัดจมูก ไอ เจ็บคอ เสลดลงคอเรื้อรัง เป็นโรคภูมิแพ้ แต่ที่จริงเป็นอาการของโรคโพรงจมูกอักเสบได้ ถ้ารักษาทางโรคภูมิแพ้ คือ กินยา ฉีดยา เป็นเวลาหลายๆ เดือนแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์หู – คอ – จมูก เพื่อตรวจให้ละเอียดว่ามีโรคไซนัส ริดสีดวงจมูก โครงสร้างจมูกตีบแคบหรือไม่ รวมทั้งต่อม Adenoid หลังจมูกโตมากในเด็กเล็ก อายุ 3 – 6 ปี เหล่านี้ เป็นต้น เพราะวิธีการรักษาจะแตกต่างกัน อย่าปล่อยให้มีอาการเรื้อรังหลายๆปี จะทำให้รักษาให้หายได้ยากยิ่งขึ้น การตรวจมีทั้งการส่องกล้องในจมูก และ X-RAY
คนจำนวนไม่น้อย ที่รักษาด้วยยาภูมิแพ้เป็นเวลานาน อาการไม่ดีขึ้น พอเปลี่ยนมารักษาด้วยยาไซนัส ทานยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่อง 2 – 3 สัปดาห์ อาการก็ดีขึ้นมาก และจมูกก็หายบวมได้ หายใจได้คล่องขึ้น
ผู้ที่ช่องจมูกแคบ ผนังกั้นจมูกคด หรือช่องเปิดไซนัสตีบแคบ เวลาอากาศเปลี่ยนฉับพลัน อากาศเย็น จะคัดจมูก จาม ปวดศีรษะ อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่โรคภูมิแพ้ มีหลายคนที่พบว่าหลังผ่าตัดแก้ไขช่องจมูกให้กว้างขึ้น เปิดช่องไซนัสให้สะดวก อาการจาม คัดจมูก ปวดศีรษะ ก็จะหายไปได้
เด็กเล็ก อายุ 3 – 6 ขวบ น้ำมูกไหลตลอดปี ใสบ้างข้นบ้าง มีขี้มูกมาก ไอบ่อย นอนอ้าปากหายใจ อาจไม่ใช่โรคภูมิแพ้อย่างเดียว แต่เป็นเพราะต่อม Adenoid โต ขวางช่องหลังจมูก หรือมีโพรงจมูกอักเสบร่วมด้วย บางคนปวดหู หูอื้อ การผ่าตัดเอาต่อม Adenoid ออก จะช่วยให้อาการส่วนใหญ่ดีขึ้นได้
ที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ที่ช่องจมูกกว้าง โพรงจมูกมีช่องระบายดี แม้จะมีโรคภูมิแพ้ ก็มักจะมีอาการน้อย และมักไม่ค่อยไปพบแพทย์ ซื้อยาแก้แพ้ทานเองก็เพียงพอ ส่วนผู้ที่มีปัญหาช่องจมูกแคบ โพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง ร่วมกับอาการภูมิแพ้ จะมีอาการรุนแรง และทนทุกข์ทรมาน จึงควรที่ต้องรักษาให้ถูกต้อง อย่ามัวแต่รักษาโรคภูมิแพ้แพียงอย่างเดียว
ลักษณะอาการ |
โพรงจมูกอักเสบ |
โรคหวัด |
โรคภูมิแพ้ |
ปวดใบหน้า-จมูก หรือกระบอกตา | พบบ่อย | บางครั้ง | บางครั้ง |
ระยะเวลาของโรค | มากกว่า 10-14 วัน | น้อยกว่า 10 วัน | เป็นๆหายๆ ไม่แน่นอน |
น้ำมูก | ข้น หรือ เขียว-เหลือง | ใส – ไหลมาก เป็นน้ำ | เหนียว-ใส หรือสีขาว |
ไข้ตัวร้อน | บางครั้ง | บางครั้ง | ไม่มี |
หายใจมีกลิ่นเหม็น | พบบางครั้ง | ไม่มี | ไม่มี |
อาการไอ | พบบางครั้ง | พบบ่อย | พบบางครั้ง |
คัดจมูก | พบได้มาก | พบบ่อย | พบบางครั้ง |
จาม | พบน้อย | พบบ่อย | พบบ่อย |
ปวดศีรษะ | พบบ่อย | พบบ่อย | พบบางครั้ง |