คลินิกแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนคืออะไร?

แพทย์แผนจีน เป็นศาสตร์การแพทย์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การสังเกต ทดลอง นำมาใช้รักษาผู้ป่วย และมีการจดบันทึกเป็นองค์ความรู้ในรูปแบบของคัมภีร์จีน ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงปัจจุบัน การรักษาของแพทย์แผนจีนเป็นการรักษา ส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูแบบองค์รวม ซึ่งเน้นการปรับสมดุลภายในร่างกายเป็นหลัก โดยใช้วิธีการตรวจวินิจฉัยเพื่อวิเคราะห์สภาวะโรคและกลุ่มอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ผลการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสภาวะโรค

แพทย์แผนจีนจะให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มนุษยวิทยา และสังคมวิทยาเป็นหลัก โดยการรักษาจะเป็นลักษณะมองผู้ป่วยเป็นองค์รวม เพราะมนุษย์เกิดขึ้นจากธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และดำรงอยู่เป็นสังคม ดังนั้น เมื่อมีปัจจัยก่อโรคที่เกิดจากภายนอกร่างกายเข้ามากระทบก็จะมีผลต่ออวัยวะภายในของมนุษย์และก่อเกิดเป็นโรคฉับพลันและเรื้อรังตามระยะเวลาของโรคนั้นๆ แพทย์แผนจีนจะเน้นการรักษาที่ต้นตอของโรค แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยที่จะรักษาอาการปลายทางของโรคไปด้วยเช่นกัน

พื้นฐานที่สำคัญของการแพทย์แผนจีน คือ ทฤษฎีหยิน-หยาง ซึ่งเป็นปรัชญาจีนโบราณที่กล่าวถึงสิ่งที่อยู่กันเป็นคู่ มีความแปรเปลี่ยนและแยกจากกันไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีหลักการ 5 ธาตุที่ประกอบไปด้วยธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทอง และธาตุน้ำ ที่เป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง องค์ความรู้เหล่านี้ได้พัฒนามาเป็นศาสตร์การแพทย์แผนจีนที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยแบบเฉพาะตัวบุคคลหรือ Personalized Medicine เป็นสำคัญ

แนวคิดตามหลักแพทย์แผนจีน

ในทางแพทย์แผนจีนมีแนวคิดจุดเด่นหลัก 2 ประการ คือ

1. แนวคิดมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม (整体观念) แพทย์แผนจีนมองว่าคนกับธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ฤดูกาล ต่างส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของมนุษย์ และอวัยวะในร่างกายต่างเชื่อมโยงกันผ่านทางระบบเส้นลมปราณ อวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ มีหน้าที่เฉพาะ พึ่งพาและควบคุมซึ่งกันและกัน โดยอาศัยเลือดและลมปราณมาหล่อเลี้ยงภายใต้การควบคุมจิตใจเพื่อให้ดำรงชีวิตได้เป็นปกติ หากมีความผิดปกติของอวัยวะหนึ่งก็จะมีผลต่อการทำงานของอวัยวะอื่นด้วย
2. การวินิจฉัยและรักษาตามกลุ่มอาการ (辨证论治) เป็นการนำข้อมูลอาการและอาการแสดงจากการตรวจทางแพทย์แผนจีน มาวิเคราะห์แยกกลุ่มอาการ เพื่อหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง เนื่องจากแนวทางการรักษาของแต่ละกลุ่มอาการก็จะแตกต่างกันออกไป ในทางแพทย์แผนจีน โรคเดียวกันจะรักษาต่างกันหากกลุ่มอาการแสดงต่างกัน เช่น โรคหวัด จะแยกแยะว่าเป็นกลุ่มอาการที่มีสาเหตุจากลมร้อน หรือลมเย็นมากระทบ เพราะการใช้ยาหรือการเลือกใช้จุดฝังเข็มรักษาก็แตกต่างกัน แต่ถ้าโรคต่างกันแต่แสดงกลุ่มอาการเหมือนกับอีกโรคหนึ่งก็จะใช้แนวทางรักษาเดียวกัน

การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน พระรามเก้า

แพทย์แผนจีน โรงพยาบาลพระรามเก้า จะใช้วิธีการตรวจวินิจฉัยโรคแบบองค์รวม คือ วิธีการมอง ฟัง ดม ถาม สัมผัส จับชีพจร เพื่อให้เข้าใจสภาพร่างกายผู้ป่วยอย่างละเอียด นำไปสู่การวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องแม่นยำตามระยะของโรค โดยในผู้ป่วยคนเดียวกันแต่ละครั้งที่มาพบแพทย์ อาจมีชีพจรที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพร่างกาย ณ ขณะนั้น ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิต สภาพแวดล้อม และจิตใจที่แปรเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา โรคที่เกิดขึ้นจะอ้างอิงตามหลักการความไม่สมดุลภายในร่างกาย เช่น ภาวะหยิน-หยาง ไม่สมดุลก่อให้เกิดโรค

การรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน พระรามเก้า

การรักษาด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน โรงพยาบาลพระรามเก้า จะเน้นไปที่การปรับสมดุลของร่างกาย การป้องกันการเป็นซ้ำ ซึ่งการปรับสมดุลหยิน-หยาง เย็น-ร้อน พร่อง-แกร่ง อาจต้องใช้เวลา แต่หากทำได้สำเร็จจะทำให้ผู้ป่วยเข้าใจการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลพระรามเก้า มีบริการการรักษา ดังนี้

1. รักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม
2. รักษาด้วยวิกธีการฝังเข็มพร้อมกระตุ้นไฟฟ้า
3. รักษาด้วยวิธีการอบโคมร้อน

สถานที่ตั้ง

คลินิกแพทย์แผนจีน พระรามเก้า ชั้น 8 อาคาร A โรงพยาบาลพระรามเก้า

เวลาทำการ

เปิดให้บริการ เวลา 08.00-18.00 น. ทุกวัน

เว้น เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด เปิดให้บริการ เวลา 08.00-16.00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรศัพท์ : 1270