บทความสุขภาพ

Knowledge

มะเร็ง…รู้เร็ว รักษาได้ ผลลัพธ์ดี

โรคมะเร็ง (cancer) เป็นโรคที่น่ากลัวและร้ายแรง และเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของโลก โดยองค์การอนามัยโลกรายงานว่าในปี 2022 มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก ในประเทศไทย โรคมะเร็งถือว่าเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี 2022 มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเกือบ 120,000 คนต่อปี


เนื่องจากโรคมะเร็งมักไม่แสดงอาการในระยะแรก ๆ จึงทำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจนเกิดการลุกลามของมะเร็ง และทำให้รักษายาก และเสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้น


โรคมะเร็งคืออะไร?


มะเร็ง (cancer) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย เซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดได้ทัน ส่งผลให้เซลล์มะเร็งรวมตัวกันเป็นก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ ไปกดเบียดเนื้อเยื่ออวัยวะข้างเคียง และหากไม่ได้รับการรักษา เซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายผ่านระบบเลือดและน้ำเหลือง ทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะ ส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้


เนื้องอกอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป เนื้องอกบางชนิดเป็นเพียงเนื้องอกธรรมดา ไม่ได้ลุกลามหรือทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง การวินิจฉัยว่าเนื้องอกนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ ต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


โรคมะเร็งที่พบได้บ่อย


มะเร็งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่พบมากในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป จากสถิติจากองค์การอนามัยโลก รายงานจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยปี 2022 แบ่งตามเพศดังนี้


โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย 5 อันดับแรก


  1. มะเร็งเต้านม
  2. มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
  3. มะเร็งตับและท่อน้ำดี
  4. มะเร็งปากมดลูก
  5. มะเร็งปอด

โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายไทย 5 อันดับแรก


  1. มะเร็งตับและท่อน้ำดี
  2. มะเร็งปอด
  3. มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
  4. มะเร็งต่อมลูกหมาก
  5. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

อาการ สัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง


มะเร็งระยะแรกมักไม่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน หลายครั้งที่พบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไรก็ตาม มะเร็งบางชนิดอาจแสดงอาการบางอย่างในระยะเริ่มต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและตำแหน่งของก้อนมะเร็ง โดยอาจมีอาการต่าง ๆ ดังนี้


  • มีไข้
  • มีเลือดออกผิดปกติที่อวัยวะต่าง เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด มูก หรือมูกเลือด มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอดในวัยหมดประจำเดือน หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ มีรอยจ้ำ เป็นห้อเลือดง่าย หรือมีจุดแดงตามผิวหนัง
  • มีอาการปวดของอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปวดหลัง หรือปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง
  • ท้องอืด ปวดเสียด ท้องเฟ้อแน่น อึดอัดท้อง เรื้อรัง หรือ ท้องผูกสลับท้องเสีย
  • น้ำหนักลดลงมาก โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเล็ด โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • แขนและ/หรือขาอ่อนแรง มีอาการชัก โดยที่ไม่มีประวัติของโรคอื่น ๆ ที่ทำให้มีอาการชัก
  • กลืนลำบาก เสียงแหบ ไอเรื้อรัง
  • แผลหายยาก รักษาไม่หาย
  • มีการเปลี่ยนแปลงของหูดและไฝตามร่างกาย มีก้อนหรือตุ่มต่าง ๆ ตามร่างกาย

ปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็ง


โรคมะเร็ง เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกายและภายในร่างกาย


ปัจจัยภายนอกร่างกาย เป็นปัจจัยที่เราสามารถหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงได้ ดังนี้


  • สารเคมีต่าง ๆ
    • สารเคมีในอาหาร: เช่น สารอะฟลาทอกซินจากเชื้อราในอาหารแห้ง สีผสมอาหาร สารกันบูด
    • ควันบุหรี่และเขม่ารถยนต์
    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • สารเคมีจากเนื้อสัตว์แปรรูป: เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน
    • สารเคมีในอุตสาหกรรม:
  • รังสีต่าง ๆ
    • รังสีจากแสงแดด
    • รังสีเอกซเรย์
    • รังสีจากวัสดุอุปกรณ์กัมมันตภาพรังสี
  • การติดเชื้อเรื้อรัง
    • ไวรัสตับอักเสบบีและซี
    • เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร
    • ไวรัส Epstein-Barr
    • ไวรัส Human papillomavirus (HPV) ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
    • พยาธิใบไม้ตับ ทำให้เกิดมะเร็งตับและท่อน้ำดี

ปัจจัยภายในร่างกาย เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่สามารถดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงได้ ดังนี้


  1. อายุ
  2. พันธุกรรม
  3. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
  4. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  5. การระคายเคืองเรื้อรัง
  6. ภาวะทุพโภชนาการ

อย่างไรก็ตามหากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง


การวินิจฉัยโรคมะเร็ง


การวินิจฉัยโรคมะเร็งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อจะช่วยยืนยันว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งชนิดใด ระยะใด และเพื่อการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แพทย์จะใช้วิธีการวินิจฉัยหลายวิธีประกอบกัน ดังนี้


  • การตรวจร่างกายโดยแพทย์: แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยละเอียด คลำหาต่อมน้ำเหลืองที่โต ก้อนเนื้อผิดปกติ หรือรอยโรคอื่น ๆ ในบางชนิดของมะเร็งผู้ป่วยสามารถตรวจด้วยตัวเองเบื้องต้นได้ เช่น การตรวจเต้านม
  • การตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ หรือเสมหะ เพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็ง หรือเซลล์มะเร็ง ตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
  • การตรวจทางพยาธิวิทยา: โดยจะเป็นการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรือเซลล์จากบริเวณที่สงสัยว่าเป็นมะเร็ง แล้วส่งตรวจเพื่อวิเคราะห์ลักษณะของเซลล์ ตรวจสอบว่าเซลล์เหล่านั้นเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ และเพื่อระบุชนิดของมะเร็ง
  • การตรวจทางรังสี: เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะอวัยวะ (MRI) การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยเทคนิคเหล่านี้ช่วยให้แพทย์มองเห็นก้อนเนื้อ มะเร็ง การแพร่กระจายของมะเร็ง และช่วยระบุระยะของโรค
  • การตรวจโดยใช้เครื่องมือพิเศษ: เช่น การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร การตรวจอัลตราซาวด์อวัยวะต่าง ๆ

โดยแพทย์จะเลือกวิธีการตรวจที่เหมาะสม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค อาการ และประวัติของผู้ป่วย


การตรวจคัดกรองมะเร็ง


การตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นวิธีการที่สำคัญ ช่วยให้พบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ส่งผลต่อแนวทางการรักษาและโอกาสหายจากโรค เพราะการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ ทำให้มีโอกาสรักษาหายสูง การรักษามีความซับซ้อนน้อยลง รวมทั้งผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยลง


ปัจจุบัน โปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งมักรวมอยู่ในโปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไปหรืออาจมีโปรแกรมเฉพาะโรคเพื่อการตรวจที่ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของโรคมะเร็งทำได้โดย


  • การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง
    • AFP: ตรวจคัดกรองมะเร็งตับ
    • CEA: ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้
    • PSA: ตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
    • CA153: ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
  • การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
    • ThinPrep Pap Test: ตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูก

การรักษาโรคมะเร็ง


ในการรักษาโรคมะเร็ง แพทย์จะวางแผนการรักษาโดยพิจารณาตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ตำแหน่ง ระยะของโรคและความรุนแรงของโรค ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องได้รับการรักษาหลายวิธีประกอบกันเพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด การรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการตรวจพบและรักษาที่ระยะรุนแรงแล้ว วิธีการรักษาโรคมะเร็งโดยทั่วไป มีดังนี้


  • การผ่าตัด: เป็นการผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อมะเร็งออก เหมาะสำหรับมะเร็งระยะแรก ๆ หรือมะเร็งที่ยังไม่ลามไปยังอวัยวะอื่น
  • การให้ยาเคมีบำบัด: เป็นการใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย อาจใช้ยาเพียงชนิดเดียว หรือหลายชนิดร่วมกัน มักใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การผ่าตัด หรือการฉายรังสี
  • การฉายรังสี: เป็นการใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง อาจฉายรังสีจากภายนอกร่างกาย หรือสอดเครื่องมือฉายรังสีเข้าไปในร่างกาย มักใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การผ่าตัด หรือยาเคมีบำบัด
  • การรักษาด้วยฮอร์โมน: เป็นการใช้ยาฮอร์โมนเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เหมาะสำหรับมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
  • การรักษาแบบผสมผสาน: เป็นการรักษาร่วมกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค

การป้องกันโรคมะเร็ง


ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการป้องกันโรคมะเร็งที่จำเพาะเจาะจง แต่บุคคลทั่วไปสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพ ดังนี้


  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ สารเคมี แสงแดด
  • จัดการความเครียด
  • ตรวจสุขภาพและคัดกรองมะเร็งเป็นประจำ

สรุป


โรคมะเร็งคือการเกิดเซลล์ผิดปกติที่เติบโตอย่างไม่ปกติและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมหรือปัจจัยเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับหรือสัมผัสสารเคมี การควบคุมปัจจัยเสี่ยงและการตรวจคัดกรองเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง


ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) หมดความสงสัย วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ

การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) คือวิธีที่นิยมในการวินิจฉัยมะเร็ง เนื่องจากความแม่นยำและละเอียดในการบ่งชี้ประเภทของมะเร็ง ทำได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!

ตรวจเต้านมด้วยตนเอง เพื่อรู้ทันมะเร็งเต้านม

การคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ ช่วยให้เราสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติของมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะแรก ๆ วิธีการคลำเต้านมทำง่ายๆได้ด้วยตัวเองดังนี้

มะเร็ง โรคที่ใครก็ไม่อยากเจอ

มะเร็งโรคที่ใครก็ไม่อยากเจอ มะเร็ง หรือ เนื้องอกร้าย เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย กล่าวคือจะมีการแบ่งตัวของเซลล์อย่างควบคุมไม่ได้จนกลายเป็นก้อนเนื้อร้ายที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะในส่วนต่างๆ ของร่าง

ตรวจแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ เพื่อรู้ทันมะเร็งเต้านมก่อนจะลุกลาม

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำ ด้วยการทำแมมโมแกรม และอัลตร้าซาวด์

มะเร็งปอดรักษาหายไหม มาฟังคำตอบกัน!

มะเร็งปอดรักษาหายไหม” คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของโรค ประเภทของมะเร็ง และสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งหากมะเร็งปอดถูกตรวจพบตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็จะสูงกว่า การรักษามะเร็งปอดนั้นมีหลายวิธี ได้แก่ การผ่าตัด การฉายแสง เคมีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งการเลือกวิธีที่เหมาะสมแพทย์ต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย

การตรวจยีนมะเร็ง ค้นหาความเสี่ยงเพื่อการป้องกันโรคมะเร็ง

การตรวจยีนมะเร็งเป็นเทคโนโลยีในการประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของตนเอง ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งมาก่อน หรือผู้ที่มีอาการที่สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็ง การตรวจยีนมะเร็งยังสามารถช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมได้

ตรวจเลือดมะเร็ง ตรวจอย่างไร บอกอะไรได้บ้าง?

การตรวจเลือดมะเร็งเป็นการตรวจที่สามารถตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ การตรวจเลือดมะเร็งเป็นวิธีที่สะดวกและเจ็บตัวน้อยสำหรับการตรวจหามะเร็งเบื้องต้น

รักษาโรคมะเร็งวิธีใหม่ ด้วยภูมิต้านทาน

(น.พ.วิโรจน์ เหล่าสุนทรสิริ) ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความรู้ใหม่ๆ และยารุ่นใหม่ที่ ถูกนำมาใช้เพื่อประสิทธิผลการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งมีมากขึ้น ยาเดิมๆ ที่เคยใช้อยู่ก็กำลังเริ่มใช้น้อยลง ขณะ เดียวกันยาที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เริ่มแสดงบทบาทสำคัญในการรักษาโรคมะเร็งร้ายเหล่านี้อย่างชัดเจนขึ้น ความหลากหลายของการรักษาโรคเหล่านี้มีมากก็จริงอยู่ แต่ที่แพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกให้ความสำคัญ ถึง หรือฝากความหวังว่า “การเปลี่ยนแปลงภูมิคุ้มกัน หรือภูมิต้านทานของร่างกาย” อาจจะมีประสิทธิผลใน การรักษาโรคมะเร็งให้หาย หรือรักษาให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวออกไปได้ การรักษาเหล่านี้มักจะมีผลข้าง เคียงน้อยลง แต่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

มะเร็งเต้านม มฤตยูเงียบ

จากข้อมูลระบาดวิทยาของมะเร็งเต้านม พบอุบัติการณ์มากอันดับแรกในหญิงไทยและหญิงทั่วโลก และสามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ผู้ป่วยส่วนมากมักพบโรคในช่วงอายุ 50-60 ปี โดยแตกต่างกันตามเชื้อชาติ สำหรับข้อมูลในประเทศไทยพบมากในช่วงอายุ 45-50 ปี ซึ

ตรวจคัดกรองมะเร็ง…กันไว้ดีกว่าแก้

“กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะถ้าแย่เดี๋ยวจะแก้ไม่ทัน” สุภาษิตโบราณนี้เข้ากับทุกยุคสมัย โดยเฉพาะแนว นิยมด้านสุขภาพในปัจจุบันที่เน้นเชิงป้องกันมากขึ้น ทั้งการออกกําลังกาย อาหารการกิน อาหารเสริม และการตรวจสุขภาพประจําปี หนึ่งในหัวข้อสําคัญ สําหรับการ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital