ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

...

เวลาทำการ

เปิดทุกวัน: เวลา 8.00 - 20.00 น.

ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้บริการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมสหสาขาวิชาชีพเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู นักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัด โดยมุ่งเน้นทั้งการ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การบริการ

  • แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู (Physical Medicine & Rehabilitation Doctor)

ให้การตรวจวินิจฉัย วางแผน และติดตามการรักษา โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายอย่างเป็นระบบ


  • กายภาพบำบัด (Physical Therapy)

บริการบำบัดโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือทางกายภาพบำบัด บรรเทาอาการเจ็บปวด เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหว


  • ฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Rehabilitation)

การฟื้นฟูสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางกายและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน


  • กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy)

ให้การบำบัดรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีทางกิจกรรมบำบัด ในกลุ่มผู้ที่มีความบกพร่องทางกาย เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน กลุ่มผู้ที่มีความเจ็บปวดทางจิต กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อฟื้นฟูความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน การทำงาน และการทำกิจกรรมในยามว่าง โดยกระบวนการตรวจประเมิน ส่งเสริม ป้องกัน บำบัด และฟื้นฟูสมรรถภาพ ให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามศักยภาพ


การรักษา

  • การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound Therapy)

เป็นการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เปลี่ยนเป็นความร้อนในชั้นกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการปวด บวม และอักเสบของเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้ฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น


  • การรักษาด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูง (Laser Therapy)

เป็นการส่งพลังงานแสงทะลุผ่านชั้นผิวหนังลงไปถึงเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่มีการบาดเจ็บ กระตุ้นให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ


  • การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency)

เป็นการส่งผ่านพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงของคลื่นวิทยุ ไปยังเนื้อเยื่อและเหนี่ยวนำให้เกิดความร้อนที่เหมาะสม กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ ช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เนื้อเยื่อหรือพังผืดที่บาดเจ็บเฉียบพลันหรือเรื้อรัง


  • การรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นระบบประสาทส่วนปลายด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation: PMS)

เป็นการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทและกล้ามเนื้อในระดับลึกได้ถึง 10 เซนติเมตร ส่งผลให้การฟื้นฟูโครงสร้างและการทำงานของเส้นประสาทดีขึ้น ลดอาการปวด ชา เกร็ง และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้


  • การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy)

เป็นการรักษาโดยใช้คลื่นกระแทก ไปยังบริเวณเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่ออย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวด และส่งเสริมการฟื้นฟูสมรรถภาพของกล้ามเนื้อ เอ็น และกระดูกในบริเวณที่รักษา


  • การดึงกระดูกคอ (Cervical Traction)

เป็นการรักษาด้วยการดึง โดยใช้อุปกรณ์ดึงบริเวณศีรษะ โดยมีทิศทางที่ดึงขึ้นตามสรีระของกระดูกคอในทิศที่ปลอดภัย ทำให้เกิดการยืดของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อและข้อต่อเล็กๆบริเวณคอ


  • การออกกำลังกายเพื่อการบำบัดรักษา (Therapeutic Exercise)

โปรแกรมการออกกำลังกายที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความคล่องตัวของกล้ามเนื้อ รวมถึงฟื้นฟูการทำงานของระบบร่างกายอย่างเหมาะสม


  • การตรวจอัลตราซาวนด์กล้ามเนื้อและกระดูกข้อต่อ (MSK Ultrasound) ร่วมกับการฉีดยาโดยใช้อัลตร้าวซาวน์นำทาง

ช่วยประเมินความผิดปกติของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรือรอยฉีกขาดของเอ็น ได้แบบเรียลไทม์ สามารถตรวจพบความผิดปกติขนาดเล็กที่อาจไม่เห็นจากภาพเอกซเรย์ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องใช้รังสี ซึ่งสามารถทำควบคู่กับการฉีดยาลดอาการปวด ลดอาการอักเสบ หรือฉีดยาลดเกร็ง โดยใช้อัลตราซาวนด์นำทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยและรักษา


  • การตรวจไฟฟ้าวินิจฉัย (Electrodiagnostic Study)

เป็นวิธีที่ช่วยในการประเมิน การทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือเฉพาะเพื่อวัดการนำกระแสไฟฟ้าและกิจกรรมไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ ประกอบด้วย


    • Nerve Conduction Study (NCS) ตรวจเส้นประสาทด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า
    • Electromyography (EMG) ตรวจความผิดปกติของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อด้วยการตรวจสัญญาณความผิดปกติในกล้ามเนื้อจากเข็มรับสัญญาณขนาดเล็ก
    • Repetitive Nerve Stimulation (RNS) ตรวจการทำงานของรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ (neuromuscular junction)

การตรวจไฟฟ้าวินิจฉัย มีประโยชน์การช่วยวินิจฉัยแยกโรค เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สงสัยมีความผิดปกติของระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ รวมถึงภาวะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือศัลยกรรม ช่วยในการระบุ ตำแหน่งและความรุนแรงของความผิดปกติ รวมถึงใช้ในการติดตามและวางแผนการรักษา ประเมินความคืบหน้าและพยากรณ์โรคและใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนผ่าตัดหรือหัตถการ


  • การส่องกล้องตรวจระบบกลืนน้ำลายและอาหาร (Fiberoptic Endoscopic Evaluation of Swallowing: FEES)

ช่วยวินิจฉัยและวางแผนฟื้นฟูสมรรถภาพการกลืน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก (Dysphagia) จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ภาวะบาดเจ็บทางสมอง (Traumatic brain injury) โรคพาร์กินสันหรือโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดบริเวณศีรษะและลำคอ รวมถึงผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบาก ซึ่งการตรวจ FEES จะช่วยประเมินกลไกการกลืนได้โดยตรง เห็นภาพจริงของการกลืนผ่านกล้องส่องทางจมูก สามารถใช้ประกอบการวางแผนบำบัดและฝึกการกลืนที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย และช่วยลดความเสี่ยงต่อการสำลักและภาวะแทรกซ้อนจากภาวะกลืนลำบากได้

สถานที่ตั้ง:

ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 1 อาคาร A โรงพยาบาลพระรามเก้า

เวลาทำการ:

เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 20.00 น.

แพทย์ประจำศูนย์

แพทย์ทั้งหมดในศูนย์

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด