ความผิดปกติของต่อม “ไทรอยด์” ทำให้เกิดโรคของต่อมไทรอยด์ได้หลายโรค เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมน มะเร็งไทรอยด์ หรือโรคไทรอยด์อักเสบ ซึ่งมักสังเกตเห็นเป็นก้อนที่ต่อมไทรอยด์
เนื่องจากโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของต่อมไทรอยด์มีหลายประเภท ทำให้มีอาการการวินิจฉัยและการรักษาที่ต่างกันออกไป ในบางโรคของต่อมไทรอยด์อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ดังนั้นการทราบถึงความผิดปกติที่เกิดกับต่อมไทรอยด์เบื้องต้น จะช่วยทำให้เราสามารถสังเกตตัวเองว่ามีความผิดปกติที่อาจเป็นโรคของต่อมไทรอยด์หรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เข้ารับการตรวจ และหากตรวจพบว่าเป็นโรคของต่อมไทรอยด์ ก็จะได้เข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ไทรอยด์คืออะไร?
ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกายมีรูปร่างคล้ายปีกผีเสื้อ อยู่บริเวณกึ่งกลางของลำคอ ด้านหน้าหลอดลมต่ำกว่าลูกกระเดือกเล็กน้อย ต่อมไทรอยด์มี 2 ข้าง น้ำหนักประมาณ 15 – 25 กรัม
ต่อมไทรอยด์มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์และหลั่งเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อควบคุมการเจริญเติบโต การเผาผลาญและใช้พลังงานของร่างกาย (เมตาบอลิซึมของร่างกาย) ต่อมไทรอยด์จะหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ที่สำคัญ 2 ชนิด คือ thyroxine (T4) และ triiodothyronine (T3) ซึ่งการผลิตฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดจะใช้ ไอโอดีนเป็นสารตั้งตั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสารไอโอดีนจึงมีความสำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์
ทั้งฮอร์โมน T3 และ T4 ที่อยู่ในกระแสเลือดจะไปควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ควบคุมการใช้พลังงาน ควบคุมการเผาผลาญ ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ควบคุมอุณภูมิร่างกาย และยังมีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ฮอร์โมนไทรอยด์ยังมีผลต่อพัฒนาการด้านสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ การเจริญเติบโตของกระดูก ดังนั้นหากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลต่อหลายระบบในร่างกายตามมาได้
โรคไทรอยด์คืออะไร?
โรคไทรอยด์ คือ โรคที่มีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ซึ่งอาจมีหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนก็ได้ ส่วนใหญ่มักจะพบว่าต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ซึ่งอาจสร้างมากหรือน้อยเกินไป ถ้าต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ร่างกายใช้พลังงานมาก ผู้ป่วยจะอาการเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว เรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน” ในทางกลับกัน ถ้าต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อยเกินไป ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้น ร่างกายใช้พลังงานน้อย เรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะพร่องไทรอยด์” โรคไทรอยด์เป็นโรคที่มีแนวโน้มพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่อย่างไรก็ตามโรคไทรอยด์เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้
โรคไทรอยด์ที่พบบ่อย
- ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (hyperthyroidism) หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (overactive thyroid) เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากกว่าปกติ ทำให้ฮอร์โมนเกิน
- ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (hypothyroidism) เป็นภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ ภาวะนี้จะตรงข้ามกับภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
- ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง (thyroid nodules) เป็นโรคที่มีก้อนของต่อมไทรอยด์ ส่วนใหญ่จะมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดปกติ เพราะส่วนใหญ่แล้วเนื้องอกนี้มักไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ แต่อาจพบเนื้องอกที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ทำให้มีฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ แต่พบได้น้อย
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ (thyroid cancer) พบได้หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดคือชนิด papillary thyroid cancer
- ภาวะไทรอยด์อักเสบ (thyroiditis) เป็นโรคที่มีการอักเสบของต่อมไทรอยด์ ที่สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบได้บ่อยจะเป็นแบบเรื้อรัง (chronic thyroiditis) หรือเรียกว่า Hashimoto disease ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่มีผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ทำให้มีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ และชนิดแบบกึ่งเฉียบพลัน (thyroiditis subacute) ที่มักเกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ
- คอพอก (goiter) คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์มีขนาดโตขึ้นกว่าปกติซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ
อาการของโรคไทรอยด์
- ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (overactive thyroid) อาการที่พบได้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน กระสับกระส่าย เหงื่อออกง่าย มีปัญหาการนอนหลับ มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง น้ำหนักลด ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีปัญหาเกี่ยวกับตา ระคายเคืองตา ไวต่อแสง มองเห็นภาพไม่ชัด เนื้อเยื่อรอบดวงตาบวม ตาโปน โรคที่พบบ่อยในกลุ่มนี้คือโรคเกรฟส์ (Graves’ disease) เป็นโรคที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อต่อมไทรอยด์กระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากผิดปกติ เป็นภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปชนิดหนึ่ง
- ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ อาการแสดงมักไม่ชัดเจน โดยผู้ป่วยมักมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ในผู้ป่วยบางรายจะไม่มีอาการผิดปกติที่ชัดเจนในช่วงแรก อาจมีเพียงแค่อาการเหนื่อยง่าย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และพบอาการอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง เช่น มีความรู้สึกไวต่ออากาศเย็น ผมแห้ง ผมบาง ผิวแห้ง เสียงแหบ หน้าบวม มีปัญหาเรื่องความจำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดเมื่อย ประจำเดือนมาไม่ปกติและไม่สม่ำเสมอ มีภาวะซึมเศร้า อย่างไรก็ตามอาการจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
- ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ แต่จะเห็นเป็นก้อนที่คอ หากก้อนมีขนาดใหญ่หรือมีหลายก้อนอาจทำให้กลืนอาหารลำบาก แต่ในผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกชนิดที่มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ด้วย ก็จะมีอาการของภาวะไทรอยด์เป็นพิษร่วมด้วย
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ มีตั้งแต่ก้อนขนาดเล็ก ๆ ไปจนถึงก้อนขนาดใหญ่ หากก้อนมะเร็งใหญ่อาจสังเกตเห็นได้จากภายนอก โดยจะสังเกตเห็นว่าคอโต มีความรู้สึกแน่น ๆ ที่คอ อาจมีอาการหายใจลำบากกลืนลำบาก หรือมีเสียงแหบ
- ภาวะไทรอยด์อักเสบ โดยอาการของไทรอยด์อักเสบชนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่
- แบบเรื้อรัง ที่เรียกว่า Hashimoto disease ที่ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งจะมีการดำเนินโรคอย่างช้า ๆ ผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการในช่วงแรก ไม่มีอาการเจ็บ แต่ต่อมไทรอยด์จะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น คอด้านหน้าดูบวม ในระยะต่อมาผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการแสดงให้เห็น เช่น เหนื่อย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หัวใจเต้นช้า ปวดกล้ามเนื้อ ท้องผูก ตาและใบหน้าบวม ผิวแห้ง ผิวบาง ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมามาก ตั้งครรภ์ยาก มีปัญหาด้านความจำ สมาธิ มีภาวะซึมเศร้า
- แบบกึ่งเฉียบพลัน มักมีอาการไข้ ต่อมไทรอยด์โตขึ้น และคลำแล้วมักรู้สึกเจ็บ
- คอพอก เนื่องจากโรคคอพอกเป็นภาวะที่มีการโตขึ้นของต่อมไทรอยด์จากสาเหตุใด ๆ ก็ได้ ดังนั้นอาการของโรคคอพอกจะมีอาการแสดงหลายแบบ ขึ้นอยู่กับสาเหตุ และความผิดปกติที่พบ เช่น หากเป็นโรคคอพอกที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ก็จะแสดงอาการต่าง ๆ ของภาวะพร่อมฮอร์โมนไทรอยด์ หรือหากเป็นคอพอกที่เกิดจากการมีฮอร์โมนไทรอยด์เกิน ก็จะแสดงอาการของไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น หรือหากต่อมไทรอยด์โตขึ้นมาก ๆ ก็อาจพบอาการอื่น ๆ เช่น ผู้ป่วยอาจรู้สึกแน่นบริเวณคอ มีเสียงแหบ ไอ หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดัง หรือกลืนลำบาก เป็นต้น ดังนั้นหากสงสัยว่าต่อมไทรอยด์โตขึ้น หรือมีอาการผิดปกติที่อาจเป็นโรคของต่อมไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาอย่างถูกต้อง
สาเหตุโรคไทรอยด์
โรคไทรอยด์บางชนิดอาจมีสาเหตุของโรคร่วมกัน โดยอาจแบ่งสาเหตุของโรคไทรอยด์ได้ดังนี้
- ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (overactive thyroid) ทำให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายมากผิดปกติ มักมีสาเหตุจาก
- โรคเกรฟส์ (Graves’ disease) เป็นโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน ที่มีปัจจัยบางอย่างไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตภูมิคุ้มกันต่อต่อมไทรอยด์ทำให้มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ เป็นโรคที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากความบกพร่องทางพันธุกรรมและปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น ความเครียด การติดเชื้อไวรัส หรือการตั้งครรภ์ หรือหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน
- มีก้อนที่ต่อมไทรอยด์ ที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนที่ผิดปกติของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ ทำให้ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากเกินความต้องการของร่างกาย
- มีการบริโภคหรือได้รับไอโอดีนมากเกินไป ซึ่งอาจได้รับผ่านการรับประทาน การได้ยา หรือสารทึบรังสีผ่านทางหลอดเลือดดำ ซึ่งสารทึบรังสีเหล่านี้มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากขึ้น และต่อมไทรอยด์ทำงานหนัก
- มีการอักเสบของต่อมไทรอยด์ ทำให้มีการผลิดฮอร์โมนไทรอยด์มากขึ้น ซึ่งอาจพบภาวะนี้ได้หลังการคลอดบุตร (มักเกิดภายใน 1 ปีหลังคลอด)
- ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากการที่มีภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายต่อมไทรอยด์ (Hashimoto’s disease) ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายลดลง
- ไทรอยด์อักเสบ โดยการอักเสบของต่อมไทรอยด์บางชนิดทำให้มีระดับของฮอร์โมนไทรอยด์ลดลง
- มีภาวะขาดสารไอโอดีน หรือผ่านการรักษาโรคที่ต้องมีการฉายรังสี ต้องผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออก หรือมีการทำงานของต่อมใต้สมองผิดปกติ ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ลดลง
- ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง สาเหตุมักเกิดจากมีการเจริญหรือแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ สามารถพบได้หลายประเภท เช่น ถุงน้ำ (thyroid cysts) ก้อนคอลลอยด์ (colloid nodule) หรือ ก้อนอะดีโนมา (thyroid adenoma) ซึ่งบางประเภทไม่มีผลต่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์ แต่บางประเภทอาจทำให้มีการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มขึ้นจนทำให้มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษได้
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของมะเร็งไทรอยด์ แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การได้รับรังสีต่าง ๆ ได้รับไอโอดีนจากอาหารไม่เพียงพอ มียีนที่ผิดปกติ มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์หรือมะเร็งต่อมไทรอยด์ ไทรอยด์อักเสบ เป็นต้น
- ไทรอยด์อักเสบ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดมาจากโรคของระบบภูมิคุ้มกันหรือแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรค Hashimoto disease ที่มีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อต่อมไทรอยด์ทำให้เกิดการอักเสบและทำให้มีภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ส่วนไทรอยด์อักเสบประเภทกึ่งเฉียบพลันสาเหตุมักมาจากการติดเชื้อ
- คอพอก เนื่องจากคอพอกเป็นชื่อเรียกของภาวะมีขนาดของต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้น ซึ่งเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ ดังนั้นสาเหตุของโรคคอพอกจึงขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะนั้น ๆ เช่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ภาวะขาดสารไอโอดีน มีก้อนของต่อมไทรอยด์ทั้งชนิดที่เป็นมะเร็งและไม่ใช่มะเร็ง มีการอักเสบของต่อมไทรอยด์ หรือจากการตั้งครรภ์ เป็นต้น
โรคไทรอยด์วินิจฉัยอย่างไร?
การตรวจวินิจฉัยโรคไทรอยด์สามารถทำได้โดย
- การซักประวัติ และการตรวจร่างกาย โดยแพทย์อาจคลำบริเวณคอเพื่อตรวจดูขนาดของต่อมไทรอยด์
- การตรวจเลือด เพื่อวัดระดับไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือด โดยแพทย์อาจส่งตรวจเลือดเพื่อหาระดับของค่าเหล่านี้
- ระดับฮอร์โมน TSH
- Triodothyronine (T3)
- Thyroxine (T4)
- Free T3 หรือ free triiodothyronine
- Free T4 หรือ free thyroxine
- ไทรอยด์แอนติบอดีหรือ anti-thyroidperoxidase (Anti-TPO)
- แคลซิโทนิน (calcitonin) เพื่อวินิจฉัยมะเร็งต่อมไทรอยด์
- ไทโรโกลบูลิน (Thyroglobulin) เพื่อวินิจฉัยไทรอยด์อักเสบ
- อัลตราซาวนด์ต่อมไทรอยด์ เพื่อดูขนาด รูปร่างของต่อมไทรอยด์ หรือค้นหาก้อนที่ต่อมไทรอยด์
การรักษาโรคไทรอยด์
โรคไทรอยด์สามารถรักษาให้หายได้ โดยระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยแนวทางในการรักษาโรคไทรอยด์มีดังนี้
- ยาต้านไทรอยด์ (antithyroid drugs) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (hyperthyroidism) ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
- การกลืนแร่ไอโอดีน (radioactive iodine therapy) เพื่อทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ให้ไม่ให้สร้างฮอร์โมนมากเกินไป ใช้ในการรักษา hyperthyroidism เช่น Graves’ disease ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง (nontoxic nodular goiter)และ มะเร็งต่อมไทรอยด์
- ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ (กลุ่มต้านเบต้า; beta blocker) เพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับปกติ เพื่อลดอาการใจสั่น เหนื่อยง่ายในผู้ป่วยโรคไทรอยด์
- การผ่าตัดไทรอยด์ ใช้รักษาผู้ป่วยในกลุ่มไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ และก้อนที่ต่อมไทรอยด์ (ทั้งกรณีที่เป็นและไม่เป็นมะเร็ง) ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องทางช่องปาก เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ยาฮอร์โมนไทรอยด์ (thyroid hormone treatment) ใช้รักษาในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน (hypothyroid) หรือในกลุ่มที่มีการผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออก หรือผู้ป่วยที่ต้องมีการกดการเจริญเติบโตของเซลล์ในต่อมไทรอยด์
การใช้คลื่นไมโครเวฟทำลายก้อนไทรอยด์ (microwave ablation) เป็นวิธีใหม่ล่าสุด สามารถใช้ทำลายเนื้องอกไทรอยด์ (thyroid nodule) โดยไม่ต้องผ่าตัดรักษา ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย ไม่ต้องทานยา
การป้องกันโรคไทรอยด์
แม้ว่าการป้องกันโรคไทรอยด์ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดในปัจจุบัน เนื่องจากในบางโรคมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของพันธุกรรม หรือการทำงานที่ผิดปกติของภูมิคุ้มกัน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ คือ
- ป้องกันภาวะการขาดสารไอโอดีน เช่น บริโภคเกลือที่เสริมไอโอดีนหรือรับประทานอาหารที่มีไอโอดีน เช่น อาหารทะเล เพื่อป้องกันภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้เป็นปกติ เช่น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูปบางชนิด
- รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กให้เพียงพอ เช่น เนื้อสัตว์ที่มีสีแดงตามธรรมชาติ อาหารทะเล ธัญพืช ซีเรียล เป็นต้น เพราะหากขาดธาตุเหล็กแล้วอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ได้
สรุป
ต่อมไทรอยด์เป็นต่อมไร้ท่อที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ หากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลต่อระบบภายในร่างกายได้ โรคไทรอยด์มีอาการแสดงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของความผิดปกติ การรักษาโรคไทรอยด์ควรทำการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านไทรอยด์ เพื่อผลการรักษาที่ดี โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาโดยขึ้นกับความรุนแรงและอาการของผู้ป่วย โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย การหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ หรือสังเกตขนาดที่ผิดปกติของต่อมไทรอยด์ หรือการตรวจสุขภาพประจำปีก็จะช่วยให้ทราบความผิดปกติของไทรอยด์ได้ตั้งแต่แรก ๆ และทำให้ได้รับการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ของโรค และช่วยลดความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้