บทความสุขภาพ

Knowledge

วิธีการรับประทานยาที่ถูกต้อง

วิธีการรับประทานยาที่ถูกต้อง


  • ยาก่อนอาหาร ให้รับประทานยาก่อนอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้ดี หากลืมรับประทานยาในช่วงเวลาดังกล่าว ให้รับประทานยาเมื่อผ่านอาหารมื้อนั้นไปแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง สำหรับยาที่ใช้รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน จะออกฤทธิ์ไปเพิ่มการเคลื่อนไหว
  • ของกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งควรรับประทานก่อนอาหารเพื่อลดการคลื่นไส้อาเจียน
  • ยาหลังอาหาร ให้รับประทานยาหลังอาหารประมาณ 15 -30 นาที ยาที่ให้รับประทานหลังอาหารมักเป็นยาทั่วๆไป ซึ่งอาหารที่ทานเข้าไปจะไม่รบกวนการดูดซึมของยาและอาจเพิ่มการดูดซึมของยาบางชนิดได้
  • ยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที สามารถรับประทานยาหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จทันทีหรือรับประทานยาไปพร้อมๆกับมื้ออาหารได้ เพราะยาประเภทนี้มักเป็นยาที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะอาหาร อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อรับประทานขณะท้องว่าง ดังนั้นจึงต้องทานอาหารหรือน้ำเพื่อช่วยในการทำให้ฤทธิ์ของยาเจือจาง
  • ยาก่อนนอน ให้รับประทานยาในช่วงก่อนเข้านอนตอนกลางคืนประมาณ 15-30 นาที
  • ยาที่รับประทานตอนท้องว่าง ให้รับประทานยาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ดี
  • ยาที่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน เป็นยาที่ต้องการออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
  • ยาที่ห้ามบด ห้ามเคี้ยว เป็นยาประเภทเม็ดเคลือบให้ออกฤทธิ์ที่ลำไส้ (Enteric Coated Tablet) ยาที่ทำรูปแบบนี้จะเป็นตัวยาที่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร โดยจะเคลือบเม็ดยาเพื่อให้ยาแตกตัวในลำไส้ หากบดหรือเคี้ยวยาชนิดนี้จะทำให้เกิดการระคายเคืองที่กระเพาะอาหาร หรืออาจเป็นยาที่ออกแบบพิเศษ เพื่อให้คงการออกฤทธิ์ตลอดเวลา หากเราบดหรือเคี้ยวยาจะทำให้คุณสมบัติของยาเปลี่ยนแปลงไป
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยากับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน เช่น เหล้า ไวน์ เบียร์ ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม ควรรับประทานยาพร้อมกับน้ำเปล่าที่สะอาดและไม่ควรเป็นน้ำอุ่น
  • ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเป็นประจำ สม่ำเสมอ ไม่ปรับเพิ่มหรือลดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
  • ควรมาพบแพทย์ตามเวลานัด เพื่อติดตามผลการรักษา ปัญหาการใช้ยาหรือปัญหาข้างเคียงต่างๆที่อาจเกิดได้จากการรับประทานยา

อย่าลืมนะคะ…ว่ายาที่ใช้ได้สำหรับเรา ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ได้ผลดีกับผู้ป่วยท่านอื่น แม้ว่ายาจะสามารถใช้รักษาให้หายป่วยและทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นได้ แต่สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักไว้เสมอ คือ ยาทุกชนิดล้วนแล้วแต่มีอันตราย เช่นเดียวกับที่มีคุณประโยชน์ ดังนั้น ก่อนใช้ยาควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนใช้ทุกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

รู้ทันอาการเตือนไทรอยด์เป็นพิษ ที่อาจเป็นอันตรายต่อทุกระบบ

ไทรอยด์เป็นพิษ คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกระบบ หากอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้

มดลูกหย่อน กับอาการเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากเผชิญ

มดลูกหย่อน ภาวะที่มดลูกหย่อนตัวลงไปในช่องคลอด สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่สามารถยึดให้มดลูกอยู่ในตำแหน่งปกติ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก

ปัสสาวะเป็นเลือด สัญญาณเตือนอันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย

ปัสสาวะเป็นเลือด คือภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมากับปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณโรคร้ายแรงที่ต้องรีบสาเหตุ และรับการรักษาอย่างตรงจุดก่อนสายเกินแก้

สมองขาดเลือด ภาวะเร่งด่วนต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต

อันตรายจากสมองขาดเลือดอาจทำให้เซลล์สมองตาย จนทำให้สมองส่วนที่ขาดเลือดเกิดอาการผิดปกติหรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไป ก่อให้พิการหรือเสียชีวิตได้ในที่สุด

ไตวายเรื้อรัง รีบรักษาตั้งแต่วันนี้ ก่อนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

ทำความรู้จัก ‘ไตวายเรื้อรัง’ ภาวะที่ไตไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และเป็นอันตรายถึงชีวิต

ไตวายเฉียบพลันไม่ทันตั้งตัว! ภาวะอันตรายที่ต้องรีบรักษา

ไตวายเฉียบพลัน ภาวะที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลต่อการทำงานของไตอย่างรุนแรง หากไม่รักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มีข้อควรรู้อะไรบ้าง อ่านได้ที่นี่

สาเหตุอาการปวดหัวเรื้อรังคืออะไร แก้ไขและรักษาได้อย่างไรบ้าง

อาการปวดหัวเรื้อรังเป็นอาการปวดหัวที่ไม่ยอมหาย โดยอาจจะไม่มีไข้และกินยาแล้วก็ไม่หาย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เป็นแล้วแก้ไขได้มั้ย รักษาอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ!

อัมพาต คืออะไร? อาการเป็นแบบไหน? รวมข้อมูลที่ควรรู้

อัมพาต คือโรคที่สูญเสียการเคลื่อนไหวของร่างกายบางส่วน ซึ่งจริง ๆ แล้วมีลักษณะอาการแบบไหน สามารถรักษาได้ไหม หรือมีข้อมูลที่ควรรู้อะไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้!

โรคช็อกโกแลตซีสต์ อันตรายไหม? รู้จักสาเหตุ อาการ และการรักษา

ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) มีสาเหตุมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่ มักทำให้มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง หากไม่รับการรักษาอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

หมอนรองกระดูกเสื่อม ต้นเหตุอาการปวดหลังเรื้อรังที่อายุน้อยก็พบได้

หมอนรองกระดูกเสื่อมคือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกจนไม่สามารถทำหน้าที่ลดแรงกระแทกได้ ทำให้กระดูกรอบ ๆ สึกและอักเสบขึ้นจนเกิดอาการปวดเรื้อรัง

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital