บทความสุขภาพ

Knowledge

อัลไซเมอร์ กับการรับมือที่ไม่ง่ายของผู้ป่วยและคนใกล้ชิด

โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) หรือที่เรียกกันว่า โรคความจำเสื่อม หรือโรคสมองเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างของเซลล์สมอง ทำให้เซลล์สมองฝ่อและเสียการทำงานไป ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดภาวะสมองเสื่อม พบได้บ่อยในผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยอัลไซเมอร์จะแสดงอาการออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่


  1. มีความผิดปกติด้านความทรงจำและทักษะต่าง ๆ ที่เคยทำได้ เช่น ลืมชื่อ ลืมวันเวลา ลืมสถานที่ ลืมสิ่งทำไปแล้ว พูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ ทักษะความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ลดลง เช่น ทักษะการขับรถผิดปกติ สับสนทิศทาง เป็นต้น
  2. มีอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไป เช่น ขี้โมโห ก้าวร้าว มีพฤติกรรมขาดความยับยั้งชั่งใจ ขาดความคิดผิดชอบชั่วดี มีพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับ หรือมีพฤติกรรมการนอนผิดปกติไป เป็นต้น
  3. ไม่สามารถทำกิจวัตรในชีวิตประจำวันได้ เช่น ลืมวิธีการอาบน้ำ การแต่งตัว หรือกิจวัตรที่เคยทำได้ ซึ่งในที่สุดอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และจำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา เป็นต้น

ในระยะที่อาการรุนแรงผู้ป่วยจะสูญเสียความทรงจำและทักษะการทำกิจวัตรประจำวัน รวมไปถึงกิจกรรมง่าย ๆ ที่คนปกติทำได้ เช่น การล้างจาน ถูบ้าน ซักผ้า หรือแค่การเดินไปหยิบของ


นอกจากนี้ผู้ป่วยจะมีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์ ทำให้ขี้โมโห โกรธแบบไม่มีเหตุผล คิดว่าคนอื่นจะมาทำร้าย หรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควรต่าง ๆ และผลจากการเสื่อมของเซลล์สมองจะทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหว จนทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีคนดูแลช่วยเหลือตลอดเวลา


โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่รักษาไม่หายและผู้ป่วยจะมีอาการต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย


ดังนั้น การรับมือกับโรคทั้งของผู้ป่วยเอง และคนดูแลจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนัก ผู้ดูแลต้องมีความเข้าใจว่าสิ่งที่ผู้ป่วยเป็นหรือพฤติกรรมแปลก ๆ นั้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของผู้ป่วย ผู้ป่วยไม่มีสติสัมปชัญญะในการทำพฤติกรรมที่ผิดปกตินั้น ๆ และเป็นอาการของโรคอัลไซเมอร์


และเนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หาย การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์จึงเน้นไปที่การรักษาอาการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้ผู้ป่วยยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ ควบคุมให้การดำเนินโรคให้เป็นไปอย่างช้าที่สุด ญาติ และผู้ดูแลต้องมีความเข้าใจ พร้อมทั้งหาวิธีการรับมืออย่างเหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและสภาพจิตใจของผู้ดูแลด้วย

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

การตรวจ EEG วินิจฉัยเนื้องอก ภัยเงียบที่ต้องรีบรักษาก่อนสาย

EEG คือ การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองโดยติดขั้วไฟฟ้าบนหนังศีรษะ เพื่อบันทึกสัญญาณไฟฟ้าของสมอง ช่วยตรวจหาความผิดปกติ เช่น โรคลมชัก เนื้องอกในสมอง เป็นต้น

เนื้องอกต่อมใต้สมอง ยิ่งตรวจพบเร็ว มีโอกาสรักษาหายได้ไว

ต่อมใต้สมอง เสมือนหอสั่งการให้ต่อมไร้ท่ออื่น ๆ ผลิตฮอร์โมนตามความต้องการของร่างกาย ความผิดปกติอาจทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม

บ้านหมุน น่ากลัวไหม? เช็กสาเหตุอาการบ้านหมุน พร้อมวิธีรักษา

เข้าใจอาการบ้านหมุน เวียนหัวเกิดจากอะไร? ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม เช็กสาเหตุ วิธีป้องกันบ้านหมุน และวิธีการรักษาโรคบ้านหมุน ทำอย่างไรให้ห่างไกลความเสี่ยง

อาการเวียนหัว เกิดจากสาเหตุใด ควรดูแลรักษายังไงเมื่อมีอาการ

อาการเวียนหัว เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้รู้สึกหมุนหรือโคลงเคลง มึนงง หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม อาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเสียการทรงตัวได้

ตาพร่ามัว อาการหนึ่งของโรคทางสมองที่หลายคนคาดนึกไม่ถึง

ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน อาจไม่ใช่เพียงปัญหาสายตา แต่อาจมีสาเหตุจากความผิดปกติสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เนื้องอกสมอง สมองได้รับการกระทบกระเทือน

แขนขาอ่อนแรง อาจเป็นอาการโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

แขนขาอ่อนแรง เป็นหนึ่งในสัญญาณที่เกิดขึ้นได้เมื่อป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบตันซึ่งอันตรายถึงชีวิต และควรรีบรักษาโดยไว หากมีอาการควรเข้ารับการวินิจฉัยโดยเร็ว

สมองขาดเลือด ภาวะเร่งด่วนต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต

อันตรายจากสมองขาดเลือดอาจทำให้เซลล์สมองตาย จนทำให้สมองส่วนที่ขาดเลือดเกิดอาการผิดปกติหรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไป ก่อให้พิการหรือเสียชีวิตได้ในที่สุด

เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) รู้ทันอาการปวดหัว แบบไหนเสี่ยงเป็นเนื้องอก

เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) คือ ภาวะที่ก้อนเนื้อในสมองเจริญเติบโตผิดปกติจนไปเบียดเนื้อสมองและเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหัวเรื้อรัง อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือการมองเห็นผิดปกติ

CT Scan คืออะไร ต่างจาก MRI ไหม วินิจฉัยอะไรได้บ้าง?

CT Scan คือเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 3 มิติ ใช้สำหรับตรวจวินิจฉัยทางรังสี สามารถตรวจโรคได้ทั้งกระดูก อวัยวะภายใน ใช้เวลาตรวจเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น

MRI คืออะไร? ตรวจร่างกายส่วนไหน วินิจฉัยโรคอะไรได้บ้าง?

Magnetic Resonance Imaging หรือ MRI คือวิธีตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะในร่างกาย โดยภาพถ่ายที่ได้จะมีความคมชัดสูง ช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แม่นยำกว่าวิธีการอื่น ๆ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital