บทความสุขภาพ

Knowledge

เนื้องอกต่อมใต้สมอง ยิ่งตรวจพบเร็ว มีโอกาสรักษาหายได้ไว

พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา

ต่อมใต้สมอง เป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยควบคุมสมดุลฮอร์โมนโดยรวม ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้เป็นปกติ แต่เมื่อใดที่ร่างกายมีการแสดงอาการผิดปกติแบบไม่มีสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะรุนแรง, การมองเห็นลดลง, มีอาการชัก, น้ำนมไหลทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์, ร่างกายโตกว่าคนทั่วไปมาก ฯลฯ อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจาก ‘เนื้องอกต่อมใต้สมอง’ ที่ควรรีบวินิจฉัย และรับการรักษาโดยเร็ว เพื่อให้ระบบในร่างกายกลับมาทำงานได้เป็นปกติอีกครั้ง


Key Takeaways


  • ต่อมใต้สมอง เป็นอวัยวะสำคัญของระบบต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนหลายชนิด ซึ่งทำงานภายใต้การควบคุมของสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus)
  • เนื้องอกต่อมใต้สมอง เป็นความผิดปกติของกลุ่มเซลล์ต่อมใต้สมอง มีทั้งรูปแบบที่สามารถสร้างฮอร์โมนได้ และแบบที่ไม่สร้างฮอร์โมน
  • อาการเนื้องอกต่อมใต้สมองที่เกิดจะขึ้นอยู่กับชนิดเนื้องอกและขนาดของเนื้องอก หากเป็นเนื้องอกที่สร้างฮอร์โมนได้จะทำให้ระดับฮอร์โมนสูงกว่าปกติ และหากเป็นเนื้องอกขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดการกดเบียดของอวัยวะรอบข้าง
  • การรักษาเนื้องอกต่อมใต้สมองขึ้นอยู่กับอาการที่เกิดขึ้น สามารถรักษาได้โดยการใช้ยา และการผ่าตัด กรณีที่ไม่มีอาการผิดปกติก็ไม่จำเป็นต้องรักษา

ต่อมใต้สมอง อวัยวะสุดสำคัญต่อระบบต่อมไร้ท่อ ที่ร่างกายจำเป็นต้องมี


ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) คือ อวัยวะขนาดเล็กประมาณเม็ดถั่ว ตั้งอยู่ที่ฐานสมองกลางศีรษะ ใกล้ ๆ กับหลังสันจมูกและหลังดวงตา เป็นส่วนหนึ่งของระบบไร้ท่อ มีหน้าที่สร้างและหลั่งฮอร์โมนเพื่อควบคุมการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย และยังทำหน้าที่สั่งการให้ต่อมไร้ท่ออื่น ๆ ผลิตและหลั่งฮอร์โมนอีกด้วย


โดยต่อมใต้สมองมี 2 ส่วน คือ ต่อมใต้สมองส่วนหน้า และต่อมใต้สมองส่วนหลัง ซึ่งแต่ละส่วนมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน ดังนี้


ต่อมใต้สมองส่วนหน้า (Anterior Pituitary)


ต่อมใต้สมองส่วนหน้า เป็นส่วนที่มีการผลิตและหลั่งฮอร์โมนหลากหลายชนิด ทั้งฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของต่อมไร้ท่ออื่น ๆ (Tropic Hormone) และฮอร์โมนที่มีผลต่อร่างกายโดยตรง (Peptide Hormone) ได้แก่


  • Thyroid-Stimulating Hormone (TSH) : กระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์
  • Follicle-Stimulating Hormone (FSH) : กระตุ้นให้รังไข่ผลิตเอสโตรเจน และกระตุ้นการเจริญของไข่ในเพศหญิง หรือกระตุ้นการผลิตสเปิร์มในเพศชาย
  • Luteinizing Hormone (LH) : กระตุ้นให้เกิดการตกไข่ในเพศหญิง หรือกระตุ้นการผลิตเทสโทสเตอโรนในเพศชาย
  • Adrenocorticotropic Hormone (ATCH) : กระตุ้นให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol)
  • Growth Hormone (GH) : ควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย
  • Prolactin : ควบคุมการผลิตและหลั่งน้ำนมในหญิงตั้งครรภ์

การผลิตฮอร์โมนเหล่านี้จะถูกกระตุ้นหรือยับยั้งภายใต้การควบคุมของสมองส่วนไฮโปทาลามัส ด้วยสารเคมีที่สื่อสารไปยังต่อมใต้สมองโดยตรง


ต่อมใต้สมองส่วนหลัง (Posterior Pituitary)


ต่อมใต้สมองส่วนหลัง ทำหน้าที่จัดเก็บและปล่อยฮอร์โมนที่ผลิตโดยสมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่


  • Vasopressin หรือ Antidiuretic Hormone (ADH) : ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
  • Oxytocin : มีผลต่อการบีบตัวของมดลูกเพื่อคลอดบุตร และยังมีผลต่อการผลิตน้ำนมด้วย

เนื้องอกต่อมใต้สมอง ความผิดปกติที่ทำลายความสมดุลระบบต่อมไร้ท่อ


เนื้องอกต่อมใต้สมอง

เนื้องอกต่อมใต้สมอง (Pituitary Tumor) คือ ความผิดปกติของกลุ่มเซลล์บริเวณต่อมใต้สมอง ทำให้ลักษณะทางกายภาพของต่อมใต้สมองมีกลุ่มเซลล์ส่วนเกิน โดยปกติแล้วเนื้องอกต่อมใต้สมองมักจะไม่ใช่เนื้อร้าย และบางครั้งเนื้องอกต่อมใต้สมองก็อาจไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเลย แต่ก็มีโอกาสส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายหลาย ๆ ระบบ ขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดของเนื้องอกต่อมใต้สมอง


เนื้องอกต่อมใต้สมองสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่


  • เนื้องอกต่อมใต้สมองชนิดสร้างฮอร์โมน : เนื้องอกชนิดนี้จะกระทบต่อการสร้างฮอร์โมนโดยตรง โดยทำให้ปริมาณฮอร์โมนมีมากขึ้น จนส่งผลให้ร่างกายทำงานผิดปกติ
  • เนื้องอกต่อมใต้สมองชนิดไม่สร้างฮอร์โมน : เนื้องอกชนิดนี้จะไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย แต่การเจริญเติบโตของเนื้องอกอาจไปกดเบียดเนื้อเยื่อสมอง จนส่งผลกระทบต่อระบบประสาทใกล้เคียง

เนื้องอกต่อมใต้สมอง ก่อให้เกิดอาการอะไรได้บ้าง


ความผิดปกติที่เกิดจากเนื้องอกต่อมใต้สมอง จะขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเนื้องอก ซึ่งอาการที่สามารถพบได้มีดังต่อไปนี้


อาการผิดปกติที่ส่งผลต่อระบบไร้ท่อ


เกิดจากเนื้องอกต่อมใต้สมองชนิดสร้างฮอร์โมน ที่ทำให้ปริมาณฮอร์โมนสูงกว่าปกติ ซึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นอยู่กับชนิดฮอร์โมนที่เนื้องอกต่อมใต้สมองสร้างเพิ่มขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น


  • ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์เกิน เกิดภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์ ทำให้ผู้ป่วยน้ำหนักลด, เหงื่อออกง่าย, หัวใจเต้นเร็ว, ท้องเสีย, ขี้ร้อน, หงุดหงิดง่าย ฯลฯ
  • ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เช่น รอบเดือนผิดปกติ, เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ, มีบุตรยาก ฯลฯ
  • การเจริญเติบโตที่มากผิดปกติ หากเป็นในเด็ก ทำให้ตัวใหญ่และสูงมากกว่าคนปกติ แต่หากเป็นในผู้ใหญ่ จะทำให้มือเท้าใหญ่
  • เกิดภาวะคุชชิ่ง (Cushing’s Syndrome) จากคอร์ติซอลมากเกินไป ทำให้อ้วนลงพุง, หน้ากลม, ผิวบาง, ผมร่วง ฯลฯ
  • น้ำนมไหลแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งครรภ์
  • สมดุลน้ำและเกลือแร่ผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะเบาจืด

อาการผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะใกล้เคียง


เนื้องอกต่อมใต้สมองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะไปกดเบียดอวัยวะรอบข้างจนอาจส่งผลให้เนื้องอกในสมองทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น


  • ปวดศีรษะรุนแรง
  • ใบหน้าชา การกลอกตาผิดปกติ
  • การมองเห็นผิดปกติ เช่น ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน ภาพเบลอ ลานสายตาแคบลง

หลายครั้งผู้ป่วยมักไม่ทราบว่ามีเนื้องอกต่อมใต้สมอง เนื่องจากไม่มีอาการผิดปกติแสดงให้เห็นชัด หรือมีอาการบ้างแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก จึงไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด


การวินิจฉัยความผิดปกติของต่อมใต้สมอง


ตรวจต่อมใต้สมอง

ความผิดปกติของต่อมใต้สมองจะแสดงอาการออกมาในลักษณะความผิดปกติของฮอร์โมน หรืออาการมองเห็นผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากดวงตา ซึ่งการตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้โดยวิธีดังนี้


  • การตรวจระดับฮอร์โมน เพื่อดูว่าระดับฮอร์โมนในร่างกายมีมากเกินหรือน้อยกว่าปกติหรือไม่
  • การตรวจด้วยรังสีวินิจฉัย เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อดูลักษณะของต่อมใต้สมองว่ามีเนื้องอกหรือไม่ หรือใช้การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อดูรายละเอียดภายในเนื้องอก และการกดเบียดของเนื้องอกกับเส้นประสาทต่าง ๆ รอบข้าง

แนวทางการรักษาเนื้องอกต่อมใต้สมอง


การรักษาเนื้องอกต่อมใต้สมองจะขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเนื้องอก กรณีที่เนื้องอกต่อมใต้สมองมีขนาดเล็กมาก และไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตฮอร์โมน ก็ไม่จำเป็นต้องรักษา เพียงแค่คอยติดตามอาการอยู่เสมอก็เพียงพอ


หากเนื้องอกต่อมใต้สมองเป็นชนิดสร้างฮอร์โมน การรักษาก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของฮอร์โมนที่ผิดปกติ อย่างเช่น ฮอร์โมน Prolactin สูงที่ทำให้น้ำนมไหลผิดปกติ ก็สามารถรักษาด้วยการใช้ยาโดยไม่ต้องผ่าตัด


แต่ถ้าเนื้องอกต่อมใต้สมองทำให้การผลิตฮอร์โมนผิดปกติ และส่งผลให้ร่างกายแสดงอาการผิดปกติมาก ไม่สามารถใช้ยารักษา หรือเนื้องอกมีขนาดใหญ่ไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง ก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการผ่าตัดจะมีทั้งการผ่าตัดสมองเปิดกะโหลกศีรษะ และการผ่าตัดผ่านโพรงจมูกเข้าไปที่ฐานกะโหลก ซึ่งจะใช้วิธีไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอกต่อมใต้สมอง


ตรวจพบเนื้องอกต่อมใต้สมอง ไม่ต้องกังวลใจ รักษาหายขาดได้


ต่อมใต้สมอง นอกจากจะมีหน้าที่สร้างและหลั่งฮอร์โมนเองแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์สั่งการของระบบต่อมไร้ท่อ ที่คอยควบคุมการสร้างและการหลั่งฮอร์โมนของต่อมไร้ท่ออื่น ๆ ด้วย หากมีความผิดปกติขึ้นอาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ และส่งผลกระทบต่อการทำงานโดยรวมได้ การติดตามอาการและเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ตรวจพบเนื้องอกต่อมใต้สมองได้ไว และสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว


ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้การประเมินและวินิจฉัยโรคมีความถูกต้อง แม่นยำ และนำไปสู่การรักษาที่ตรงจุด ให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง


1. ต่อมใต้สมองทำหน้าที่อะไร?


ต่อมใต้สมองทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนและส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ผ่านกระแสเลือด เพื่อควบคุมการทำงานส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย


2. เนื้องอกต่อมใต้สมอง จำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่?


เนื้องอกต่อมใต้สมองไม่จำเป็นต้องผ่าตัดในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็ก และเป็นชนิดไม่สร้างฮอร์โมน ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม


References


About the Pituitary Gland. (n.d.). Barrow Neurological Institute. https://www.barrowneuro.org/resource/about-the-pituitary-gland/


Pituitary Gland. (2022, April 4). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/body/21459-pituitary-gland


Pituitary gland and hormones. (n.d.). Healthdirect. https://www.healthdirect.gov.au/pituitary-gland

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา

พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา

ศูนย์สมองและระบบประสาท

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

การตรวจ EEG วินิจฉัยเนื้องอก ภัยเงียบที่ต้องรีบรักษาก่อนสาย

EEG คือ การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองโดยติดขั้วไฟฟ้าบนหนังศีรษะ เพื่อบันทึกสัญญาณไฟฟ้าของสมอง ช่วยตรวจหาความผิดปกติ เช่น โรคลมชัก เนื้องอกในสมอง เป็นต้น

บ้านหมุน น่ากลัวไหม? เช็กสาเหตุอาการบ้านหมุน พร้อมวิธีรักษา

เข้าใจอาการบ้านหมุน เวียนหัวเกิดจากอะไร? ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม เช็กสาเหตุ วิธีป้องกันบ้านหมุน และวิธีการรักษาโรคบ้านหมุน ทำอย่างไรให้ห่างไกลความเสี่ยง

อาการเวียนหัว เกิดจากสาเหตุใด ควรดูแลรักษายังไงเมื่อมีอาการ

อาการเวียนหัว เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้รู้สึกหมุนหรือโคลงเคลง มึนงง หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม อาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเสียการทรงตัวได้

ตาพร่ามัว อาการหนึ่งของโรคทางสมองที่หลายคนคาดนึกไม่ถึง

ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน อาจไม่ใช่เพียงปัญหาสายตา แต่อาจมีสาเหตุจากความผิดปกติสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เนื้องอกสมอง สมองได้รับการกระทบกระเทือน

แขนขาอ่อนแรง อาจเป็นอาการโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

แขนขาอ่อนแรง เป็นหนึ่งในสัญญาณที่เกิดขึ้นได้เมื่อป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบตันซึ่งอันตรายถึงชีวิต และควรรีบรักษาโดยไว หากมีอาการควรเข้ารับการวินิจฉัยโดยเร็ว

สมองขาดเลือด ภาวะเร่งด่วนต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต

อันตรายจากสมองขาดเลือดอาจทำให้เซลล์สมองตาย จนทำให้สมองส่วนที่ขาดเลือดเกิดอาการผิดปกติหรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไป ก่อให้พิการหรือเสียชีวิตได้ในที่สุด

เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) รู้ทันอาการปวดหัว แบบไหนเสี่ยงเป็นเนื้องอก

เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) คือ ภาวะที่ก้อนเนื้อในสมองเจริญเติบโตผิดปกติจนไปเบียดเนื้อสมองและเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหัวเรื้อรัง อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือการมองเห็นผิดปกติ

CT Scan คืออะไร ต่างจาก MRI ไหม วินิจฉัยอะไรได้บ้าง?

CT Scan คือเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 3 มิติ ใช้สำหรับตรวจวินิจฉัยทางรังสี สามารถตรวจโรคได้ทั้งกระดูก อวัยวะภายใน ใช้เวลาตรวจเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น

MRI คืออะไร? ตรวจร่างกายส่วนไหน วินิจฉัยโรคอะไรได้บ้าง?

Magnetic Resonance Imaging หรือ MRI คือวิธีตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะในร่างกาย โดยภาพถ่ายที่ได้จะมีความคมชัดสูง ช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แม่นยำกว่าวิธีการอื่น ๆ

โรคพาร์กินสัน มีลักษณะอาการแบบไหน สาเหตุคืออะไร รักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง?

หากพบว่าบุคคลในครอบครัว มีอาการมือสั่น แขนสั่น เคลื่อนไหวตัวช้า หรือเดินเซ อาจเป็นสัญญาณว่าท่านกำลังเผชิญอยู่กับ “โรคพาร์กินสัน” อยู่ก็เป็นได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนมักเข้าว่าโรคพาร์กินสันนั้นต้องเป็นในผู้สูงอายุเท่านั้น

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital