บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา
ตาพร่ามัว เห็นภาพเบลอภาพซ้อน โดยปกติมักนึกถึงภาวะทางสายตาที่ไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่อาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงอาการทางสมองที่ควรรักษาทันที โดยเฉพาะอาการตาพร่ามัวที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือตาพร่าตามัวข้างเดียวที่หากไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด อาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการมองเห็นถาวร หรือเสียชีวิตได้ในที่สุด
Key Takeaways
ตาพร่ามัว คือ ภาวะที่ผู้ป่วยรับรู้ถึงการมองเห็นผิดปกติ ที่เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะในการมองเห็นโดยตรง หรืออาจเกิดจากสมองไม่สามารถประมวลสัญญาณที่ได้รับจากดวงตาได้เป็นปกติ ทำให้ภาพที่เห็นอาจมีความพร่ามัว เลือนราง ไม่คมชัด หรือซ้อนกัน เสมือนภาพถ่ายที่หลุดโฟกัส ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวที่เกิดจากสมอง และถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว เพื่อลดความเสียหายจากสมองที่อาจนำมาสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวร หรือเสียชีวิตไปในที่สุด
ตาพร่ามัวเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง ความผิดปกติของดวงตา และการมองเห็นพร่ามัวจากปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
ผู้ป่วยที่มีตาพร่ามัว อาจพบอาการดังต่อไปนี้
หากพบอาการตาพร่ามัวในลักษณะดังต่อไปนี้ หรือมีอาการร่วมดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็ว
การตรวจวินิจฉัยอาการตาพร่ามัว ในเบื้องต้นจะต้องประเมินแยกโรคทางตาและกลุ่มอาการทางสมอง ซึ่งแพทย์จะมีการซักประวัติ ตรวจร่างกายผู้ป่วย หากมีสัญญาณหรือแนวโน้มที่ตาพร่ามัวเป็นอาการทางสมอง จะมีการส่งตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งจะมีแนวทางการตรวจดังต่อไปนี้
แพทย์จะสอบถามอาการตาพร่ามัวเกิดขึ้นเมื่อไร มีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือเป็นอย่างเฉียบพลัน นอกจากตาพร่ามัวมีอาการอื่น ๆ ร่วมอีกหรือไม่ เช่น อาเจียน ปวดศีรษะ มีปัญหาการสื่อสาร มีอาการชา ฯลฯ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ส่วนมากมักเป็นอาการทางสมอง ช่วยให้แพทย์สามารถจำกัดขอบเขตของการวินิจฉัยและพิจารณาการตรวจเพิ่มเติมที่จำเป็นได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
แพทย์จะประเมินการทำงานระบบประสาทส่วนต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนไหวลูกตา การมองเห็นภาพซีกซ้ายขวา เพื่อสังเกตถึงความผิดปกติ ซึ่งสามารถบ่งชี้ถึงบริเวณที่สมองเกิดผิดปกติได้
เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan), การถ่ายภาพหลอดเลือดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRA) เพื่อให้แพทย์สามารถเห็นตำแหน่งที่เกิดความผิดปกติภายในสมอง
การรักษาอาการตาพร่ามัวขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด โดยบางกรณีสามารถดูแลได้ด้วยตนเอง แต่อาการที่เกี่ยวข้องกับสมองมักต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ทันที เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยแนวทางการรักษามีดังนี้
การรักษาจะขึ้นอยู่กับประเภทของหลอดเลือดสมอง และระยะเวลาที่เกิดอาการ
สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเนื้องอกในสมองออก กรณีที่เป็นเนื้องอกมะเร็งอาจต้องได้รับการฉายรังสีหรือให้เคมีบำบัดร่วมด้วย
สมองที่ได้รับความเสียหายจนส่งผลต่อการมองเห็นอาจต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อเข้าไปซ่อมแซมจุดที่เสียหาย
กรณีที่ตาพร่ามัวจากการใช้สายตามากเกินไปสามารถดูแลตนเองได้ด้วยการพักสายตา หมั่นบริหารกล้ามเนื้อบริเวณดวงตา ทานอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพตา และหากมีปัญหาตาแห้งสามารถใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการได้
แต่หากตาพร่ามัวจากโรคทางตาจะต้องได้รับการตรวจคัดกรองโรคและรับการรักษาโดยจักษุแพทย์ ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับโรค มีตั้งแต่การใช้ยา ไปจนถึงการผ่าตัด
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว
หลายครั้งที่อาการตาพร่ามัวเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะตาพร่ามัวที่มาจากอาการทางสมอง อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ซึ่งจะมีแนวทางการป้องกันดังนี้
อาการตาพร่ามัวอาจเกิดเพียงชั่วครู่ชั่วคราว หรือเป็นปัญหาค่าสายตาที่อาจไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่หากเป็นบ่อย ๆ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วยอาจต้องระวังกลายเป็นสัญญาณเตือนโรคร้าย แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ความสำคัญกับอาการเพียงเล็กน้อยที่อาจกลายเป็นสัญญาณโรคร้าย เราพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำขึ้นด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยทีมแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรสนับสนุนประจำศูนย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ตาพร่ามัวเสี่ยงโรคอันตรายทั้งทางสมอง ดวงตา และระบบอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง, เนื้องอกในสมอง, ต้อหิน, จอประสาทหลุดลอก, โรคไมเกรน, ไซนัส, เบาหวานขึ้นตา เป็นต้น
อาการตาพร่ามัวหรือสูญเสียการมองเห็นที่เกิดจากความผิดปกติทางสมอง มักก่อให้เกิดความเสียหายถาวร และไม่สามารถฟื้นฟูการมองเห็นให้กลับมาเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการฟื้นฟูเพื่อปรับตัวและใช้ชีวิตประจำวันให้ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด
References
Zokaeim, D. (n.d.). Vision Suddenly Blurry? You May Be Having a Medical Emergency. AGEI. https://assileye.com/blog/causes-of-blurry-vision/
Lipner, M. (2024, October 9). What Causes Sudden Blurry Vision? Verywell health. https://www.verywellhealth.com/sudden-blurry-vision-5092267
Seed, S. (2024, July 3). Why Is My Vision Blurry? WebMD. https://www.webmd.com/eye-health/why-is-my-vision-blurry
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital