บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. สลิษา ประดิษฐบาทุกา
แขนขาอ่อนแรง อาจดูเหมือนเป็นอาการเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่รู้หรือไม่ว่าอาการนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน ที่ต้องรีบรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออันตรายถึงชีวิตได้
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุว่าแขนขาอ่อนแรงเกิดจากอะไร วิธีวินิจฉัย วิธีรักษาแขนขาอ่อนแรง และการฟื้นฟูอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณและคนใกล้ตัวปลอดภัยจากภาวะนี้
Key Takeaways
แขนขาอ่อนแรง คือภาวะที่กล้ามเนื้อบริเวณแขนหรือขาสูญเสียแรงในการเคลื่อนไหว ทำให้ยกแขนไม่ขึ้น กำมือไม่อยู่ หรือหยิบจับของแล้วหล่นง่าย ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาการมักเริ่มจากแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งก่อน และเมื่ออาการรุนแรงขึ้นก็จะเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในบางรายอาจมีอาการอื่นร่วม เช่น พูดไม่ชัด หรือกลืนลำบาก
สาเหตุที่ว่าทำไมแขนขาจึงอ่อนแรง เกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
แขนขาอ่อนแรง เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อแขนหรือขาไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ มักเริ่มจากแขน ขา หรือเท้าไม่มีแรงข้างเดียวก่อน อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งยังอาจแสดงออกในรูปแบบอื่น ๆ ดังนี้
แขนขาอ่อนแรง เป็นหนึ่งในอาการสำคัญที่มักเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะภาวะสมองขาดเลือด เมื่อหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองเกิดการตีบหรืออุดตัน ทำให้เนื้อสมองบางส่วนขาดออกซิเจนและเริ่มเสื่อมสภาพ ส่งผลให้การควบคุมกล้ามเนื้อแขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงลง หรือรุนแรงถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาต
โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (Ischemic stroke) ถือเป็นสาเหตุหลักของภาวะแขนขาอ่อนแรง และมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด หรือพูดไม่ได้ หากปล่อยไว้นาน อาการอ่อนแรงอาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว การกินอาหาร กลืนลำบาก ความคิด ความจำ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
การสังเกตอาการแขนขาอ่อนแรงตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน
เมื่อมีอาการแขนขาอ่อนแรงก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดในสมองเสมอไป เพื่อหาสาเหตุว่าเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมองตีบตันหรือไม่ แพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความแม่นยำและละเอียด เพื่อประเมินตำแหน่งและความรุนแรงของความผิดปกติในสมอง เช่น
อาการแขนขาอ่อนแรงที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมองตีบตันสามารถรักษาได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้เนื้อสมองที่ยังไม่เสียหายฟื้นตัวได้ โดยการรักษามีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของแต่ละราย
แพทย์จะใช้ยาละลายลิ่มเลือด (rtPA) เพื่อเปิดหลอดเลือดที่อุดตันให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองได้เร็วที่สุด วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต และทำให้อาการแขนขาอ่อนแรงดีขึ้นได้เร็ว โดยผู้ป่วยควรได้รับยาภายใน 4.5 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หากผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลภายใน 6-24 ชั่วโมง แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีใส่ขดลวดผ่านสายสวนเข้าไปถึงตำแหน่งที่มีการอุดตันในหลอดเลือดสมอง แล้วนำลิ่มเลือดออก วิธีนี้ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและอาการแขนขาอ่อนแรงมักดีขึ้นหลังการรักษา
ในกรณีที่หลอดเลือดแตกจนสมองบวมกดทับส่วนสำคัญ แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดเพื่อลดความดันในกะโหลกศีรษะ ป้องกันไม่ให้สมองส่วนดีถูกทำลาย ช่วยรักษาชีวิตและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
แม้อาการแขนขาอ่อนแรงที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมองจะเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและวิธีฟื้นฟูที่ทันสมัยหลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้แขนขาได้ใกล้เคียงปกติที่สุด โดยเฉพาะการฟื้นฟูด้วยเครื่องมือเฉพาะทางและการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง
การกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อน หรือ TDCS (Transcranial Direct Current Stimulation) เป็นวิธีฟื้นฟูแขนขาอ่อนแรงที่ใช้กระแสไฟฟ้าระดับต่ำประมาณ 1-2 mA ผ่านอิเล็กโทรดที่ติดบริเวณศีรษะ จุดประสงค์คือช่วยกระตุ้นสมองส่วนที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น
วิธีนี้จะช่วยเพิ่มการตอบสนองของเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อแขนขา ช่วยเพิ่มแรงบีบของนิ้วมือหรือการเคลื่อนไหวของแขนขาข้างที่อ่อนแรง ใช้เวลาในการกระตุ้นแต่ละครั้งประมาณ 10-30 นาที ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
หุ่นยนต์ฟื้นฟูมือ หรือ Hand Robotic Rehabilitation System เป็นอุปกรณ์ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือและนิ้วมือ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการแขนขาอ่อนแรง หรือมือไม่สามารถขยับได้ดีจากโรคหลอดเลือดสมอง อุปกรณ์นี้จะช่วยออกแรงดึง-งอนิ้วมือ ให้สามารถบริหารกล้ามเนื้อได้อย่างปลอดภัย ช่วยเพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ทำให้การเคลื่อนไหวของมือเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
กายภาพบำบัดถือเป็นวิธีพื้นฐานที่ใช้ในการฟื้นฟูแขนขาอ่อนแรง ผู้ป่วยจะได้รับการฝึกบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ฝึกการเดิน การทรงตัว และการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น กล้ามเนื้อลีบหรือข้อยึดติด การทำกายภาพอย่างสม่ำเสมอภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัด จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างใกล้เคียงปกติ
แขนขาอ่อนแรงอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ การสังเกตอาการผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ และรีบพบแพทย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสฟื้นตัวและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
หากเริ่มมีอาการแขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด หรือปากเบี้ยว แนะนำให้เข้ารับการตรวจที่ศูนย์สมองและระบบประสาทโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาจากทีมแพทย์อย่างทันท่วงที พร้อมฟื้นฟูร่างกายให้สามารถใช้งานได้ดีอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ควรเลือกทานผัก ผลไม้ เนื้อปลา อาหารไขมันต่ำ และธัญพืช หลีกเลี่ยงอาหารทอด ไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด เช่น อาหารหมักดองหรือกระป๋อง เพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
สามารถลดความเสี่ยงแขนขาอ่อนได้ด้วยการงดบุหรี่ แอลกอฮอล์ ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมเบาหวาน ความดัน และตรวจสุขภาพประจำปี
สามารถช่วยได้ เพราะการทำกายภาพบำบัดและออกกำลังกายเฉพาะส่วนช่วยเพิ่มแรงกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบประสาท และช่วยให้เคลื่อนไหวดีขึ้นเมื่อทำอย่างต่อเนื่อง
References
Erica Hersh. (2024, April 11). What Is an Ischemic Stroke and How Do You Identify the Signs?. Healthline. https://www.healthline.com/health/stroke/cerebral-ischemia
Hemiparesis. (2023, May 4). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/24952-hemiparesis
Ischemic Stroke. (2024, November 14). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/24208-ischemic-stroke-clots
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital