บทความสุขภาพ

Knowledge

ผ่าตัดไส้ติ่งคืออะไร รักษาถาวรได้ไหม ดูแลยังไงถึงฟื้นตัวเร็ว?

นพ. ธนพงศ์ ว่องวิริยกุล

การผ่าตัดไส้ติ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนทางการแพทย์ที่หลายคนอาจต้องเผชิญในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ถึงแม้จะเป็นการรักษาที่ไม่ได้หายากนัก แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายจนมีคำถามและความกังวลเกิดขึ้นเสมอ เช่น กระบวนการรักษามีกี่แบบ? ต้องดูอาการอย่างไรจึงรู้ว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ? และผ่าตัดไส้ติ่งต้องพักกี่วันถึงหาย? บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมด


Key Takeaways


  • การผ่าตัดไส้ติ่งมีสองวิธีหลัก คือ การผ่าตัดแบบเปิดและการผ่าตัดผ่านกล้องซึ่งการเลือกวิธีขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยและความรุนแรงของไส้ติ่งอักเสบ
  • หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยมักใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน
  • ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากการอุดตันในไส้ติ่ง ซึ่งอาจเกิดจากเศษอาหารหรือสิ่งแปลกปลอมในระบบทางเดินอาหาร
  • อาการที่พบได้บ่อยเมื่อไส้ติ่งอักเสบก็จะมีหลายอย่าง เช่น ปวดท้องเฉียบพลันบริเวณขวาล่าง คลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้

การผ่าตัดไส้ติ่งคืออะไร ผ่าตัดแบบไหนได้บ้าง?


การผ่าตัดไส้ติ่งคือการผ่าตัดเพื่อนำไส้ติ่งออก ซึ่งมักทำในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) ที่ไม่สามารถหายได้เองและหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไส้ติ่งที่อักเสบอาจแตกและทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงในช่องท้องได้ ซึ่งการผ่าตัดไส้ติ่งก็จะแบ่งออกได้สองแบบคือ การผ่าตัดแบบเปิดและการผ่าตัดแบบส่องกล้อง


การผ่าตัดแบบเปิด (Open Appendectomy)


การผ่าตัดแบบเปิด หรือ Open Appendectomy เป็นวิธีการผ่าตัดแบบมาตรฐาน โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณหน้าท้องด้านขวาล่าง ขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร เพื่อเข้าถึงตำแหน่งของไส้ติ่งโดยตรง วิธีนี้มักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะไส้ติ่งอักเสบรุนแรง เช่น ไส้ติ่งแตก หรือมีการติดเชื้อในช่องท้อง (Peritonitis) รวมถึงผู้ป่วยที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เช่น ผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดช่องท้องมาก่อน และอาจมีพังผืดหรือเนื้อเยื่อที่ขัดขวางการส่องกล้อง


การผ่าตัดแบบเปิดมีข้อดีในแง่ของการเข้าถึงอวัยวะได้โดยตรง ทำให้แพทย์สามารถจัดการกับไส้ติ่งที่อักเสบ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนจากไส้ติ่งอักเสบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การผ่าตัดวิธีนี้มักทำให้ผู้ป่วยมีแผลขนาดใหญ่กว่า ฟื้นตัวช้ากว่า และมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าการผ่าตัดแบบส่องกล้อง


การผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery)


การผ่าตัดส่องกล้อง หรือที่เรียกว่าการผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery - MIS) เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ โดยผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะมีระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นกว่า ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็ว และแผลผ่าตัดไส้ติ่งยังมีขนาดเล็ก ช่วยลดความเจ็บปวดหลังผ่าตัดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้อีกด้วย


การผ่าตัดแบบส่องกล้องยังช่วยให้แพทย์มองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจนผ่านกล้อง ทำให้เพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัดมากขึ้น ถึงอย่างนั้นวิธีนี้ก็อาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ที่มีไส้ติ่งอักเสบเป็นก้อนหรือมีพังผืดในช่องท้องจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้การส่องกล้องทำได้ยากและเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน


อาการไส้ติ่งอักเสบสังเกตได้อย่างไร?


ไส้ติ่งอักเสบ

อาการของไส้ติ่งอักเสบจะสังเกตได้หลายอย่าง โดยหากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ไส้ติ่งแตกและการติดเชื้อในช่องท้อง (Peritonitis) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยอาการที่ชี้ว่าอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบก็จะมีดังนี้


  • ปวดท้องน้อยด้านขวา : อาการปวดมักเริ่มต้นที่บริเวณรอบสะดือ ก่อนจะย้ายลงมาปวดที่ท้องด้านขวาล่างซึ่งเป็นตำแหน่งของไส้ติ่ง
  • ปวดท้องเฉียบพลันและต่อเนื่อง : อาการปวดท้องแบบเฉียบพลัน 1-3 วัน มีอาการปวดต่อเนื่องรุนแรงขึ้นและไม่เบาลงแม้จะพัก กินอาหาร กินยาแก้ปวด เข้าห้องน้ำหรือเปลี่ยนท่าทางแล้วก็ตาม
  • มีไข้และหนาวสั่น : การอักเสบของไส้ติ่งมักทำให้มีไข้ต่ำ ๆ และอาจเกิดอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
  • คลื่นไส้อาเจียน : ไส้ติ่งอักเสบอาจทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และไม่อยากอาหาร

เมื่อสังเกตพบอาการเหล่านี้ก็อาจจะเริ่มไปพบแพทย์เพื่อที่จะทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยอาจจะดูแผนการรักษาอย่างโปรแกรมผ่าตัดรักษาไส้ติ่งควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะให้การรักษาเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วที่สุด


ข้อดีของการผ่าตัดไส้ติ่ง


ข้อดีของการผ่าตัดไส้ติ่ง

การผ่าตัดไส้ติ่ง (Appendectomy) เป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่สำคัญและปลอดภัย การผ่าตัดไส้ติ่งไม่เพียงช่วยบรรเทาอาการปวดเฉียบพลัน แต่ยังมีข้อดีที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพดีในระยะยาวอีกด้วย


  • รักษาอาการไส้ติ่งอักเสบได้อย่างถาวร : หลังผ่าตัดไส้ติ่ง ผู้ป่วยจะไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไส้ติ่งอักเสบซ้ำในอนาคต
  • ลดความเสี่ยงจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง : การปล่อยให้ไส้ติ่งอักเสบโดยไม่รับการรักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ไส้ติ่งแตก ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อในช่องท้องและภาวะช็อกได้ การผ่าตัดไส้ติ่งจึงช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
  • ระยะฟื้นตัวรวดเร็ว : การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยเทคนิคส่องกล้องจะช่วยให้แผลมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย และผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วขึ้น
  • ช่วยให้แพทย์ตรวจพบภาวะอื่น ๆ ในช่องท้องได้ : ในระหว่างการผ่าตัด แพทย์สามารถตรวจดูความผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่องท้อง ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนรักษาเพิ่มเติมได้ทันที

7 วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดไส้ติ่งเพื่อให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว


การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดไส้ติ่ง เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ลดความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด โดยวิธีดูแลตัวเองก็จะมีดังนี้


  1. แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันทีหากมีอาการผิดปกติ : หากมีอาการปวดแผลรุนแรง มีไข้สูง แผลบวมแดง หรือมีหนองซึม ควรรีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที เพื่อตรวจดูภาวะแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
  2. รักษาความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด : หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแกะแผลโดยไม่จำเป็น ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการอักเสบและการติดเชื้อ
  3. กินยาให้ตรงเวลาและครบถ้วน : กินยาตามเวลาที่กำหนด ช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  4. พบแพทย์ตามนัดหมาย : การตรวจติดตามอาการเป็นสิ่งสำคัญหลังการผ่าตัด หากพบความผิดปกติก่อนถึงวันนัด เช่น มีไข้สูง แผลบวมแดง หรือหนองซึม ควรรีบพบแพทย์โดยไม่ต้องรอ
  5. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก : ควรงดยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัดไส้ติ่ง
  6. งดออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าท้องตึงตัว : การออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าท้องเกร็ง อาจส่งผลให้แผลหายช้า
  7. หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยากหรือก่อให้เกิดแก๊ส : เช่น อาหารมัน ของทอด หรือเครื่องดื่มอัดลม เพื่อป้องกันอาการท้องอืดและไม่สบายตัว

ผ่าตัดไส้ติ่งแล้วหายขาด หมดกังวลไปทั้งชีวิต!


ไส้ติ่งอักเสบเป็นภาวะที่มักมาพร้อมกับอาการที่หลายคนคุ้นเคย เช่น ปวดท้อง มีไข้ คลื่นไส้ หรือเบื่ออาหาร ซึ่งอาการเหล่านี้ก็อาจดูคล้ายกับปัญหาสุขภาพทั่วไปจนทำให้หลายคนละเลยหรือปล่อยเอาไว้โดยหวังว่าอาการจะบรรเทาลงเอง และหากไม่รักษาไส้ติ่งอักเสบอย่างทันท่วงที ก็อาจลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ไส้ติ่งแตก ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต


ทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการผ่าตัดไส้ติ่งออก ซึ่งเป็นการรักษาที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างถาวร และผู้ป่วยจะไม่ต้องกังวลเรื่องไส้ติ่งอักเสบอีกต่อไป และสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างมั่นใจ


โดยที่โรงพยาบาลพระราม 9 ก็จะมี ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก (MIS) ที่พร้อมให้บริการผ่าตัดไส้ติ่ง ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและเครื่องมือ High-Definition ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง แผลขนาดเล็กเพียง 1-2 เซนติเมตร ลดการบาดเจ็บและฟื้นตัวเร็ว ดังนั้นอย่าลังเลที่จะเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนเข้าโปรแกรมผ่าตัดรักษาไส้ติ่ง เพราะการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลาจะช่วยตัดปัญหานี้ออกไปได้อย่างถาวร


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดไส้ติ่ง


1. หลังผ่าตัดไส้ติ่งพักฟื้นกี่วัน?


ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดไส้ติ่งขึ้นอยู่กับวิธีการผ่าตัดและสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยทั้งสองวิธีจะมีเวลาพักฟื้นคร่าว ๆ ดังนี้


  • การผ่าตัดแบบเปิด : ผู้ป่วยอาจต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล 2-3 วัน และใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ก่อนจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ
  • การผ่าตัดแบบส่องกล้อง : ผู้ป่วยมักฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับบ้านได้ภายใน 1-2 วัน และกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 1-2 สัปดาห์

2. ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากอะไร?


ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากการอุดตันภายในไส้ติ่ง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้


  • เศษอุจจาระแข็ง (Fecalith) : เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
  • ต่อมน้ำเหลืองบวม : มักเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
  • การติดเชื้อ : เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือ เชื้อไวรัส
  • สิ่งแปลกปลอม : เช่น เมล็ดผลไม้ เศษกระดูกหรือของแข็งขนาดเล็กที่เข้าไปอุดตัน

References


Appendectomy. (2024, June 11). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/procedures/21922-appendectomy


Nall, R. (2022, January 5). Is an appendectomy painful, and all else you need to know. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/323805#outlook


Watson, S. (2022, October 24). What you need to know about appendectomy. Healthline. https://www.healthline.com/health/appendectomy

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital