บทความสุขภาพ

Knowledge

ความรู้เรื่องยาคุม



สูตินารี: ความรู้เรื่องยาคุม โดยฝ่ายเภสัชกรรม


โดย ฝ่ายเภสัชกรรม


สภาพแวดล้อมทางสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้มีผลให้แต่ละครอบครัวจำเป็นต้องมีการวางแผนครอบครัว คนรุ่นใหม่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการคุมกำเนิด เพื่อกำหนดเวลาและจำนวนบุตรที่เหมาะสม การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีการคุมกำเนิดชั่วคราวที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน แต่การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดจะออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ ก็ต่อเมื่อรับประทานยาอย่างถูกต้องเท่านั้น


วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผง 21,22 เม็ด ให้เริ่มรับประทานยาในวันแรกของรอบเดือน (อาจเริ่มรับประทานยาช้ากว่านี้ได้ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 5 ของรอบประจำเดือน) รับประทานยาติดต่อกันทุกวันจนหมดแผง ในเวลาใดก็ได้แต่ควรรับประทานเวลาเดียวกันทุกวัน จากนั้นหยุดยา 7 วัน สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิด 21 เม็ด และ หยุด 6 วัน สำหรับผู้ที่ใช้ยาชนิด 22 เม็ด ในระหว่างนี้ควรมีเลือดประจำเดือนมา และเมื่อหยุดยาครบ 7 วัน หรือ 6 วัน ให้เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ ถึงแม้ว่าประจำเดือนจะหมดหรือยังก็ตาม


สำหรับวิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผง 28 เม็ด ให้เริ่มรับประทานยาในวันแรกของรอบประจำเดือนเช่นกัน โดยรับประทานยาเม็ดแรกในส่วนที่ระบุบนแผงว่าเป็นจุดเริ่มต้นใช้ยา และรับประทานตามวันกำกับตามทิศลูกศรจนหมดแผง และเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ต่อได้ทันที ถึงแม้ประจำเดือนจะหมดหรือยังก็ตาม


เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นยาที่ต้องรับประทานติดต่อกันทุกวัน การลืมรับประทานยาเป็นเรื่องที่พบบ่อยๆ แม้ว่าไม่เป็นอันตรายแต่ก็มีผลเสีย เช่น ทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกระปริบกระปรอย และถ้าลืมบ่อยๆ อาจเกิดการตั้งครรภ์ได้ จึงควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน เก็บยาในที่เห็นง่ายๆ เพื่อช่วยเตือนไม่ให้ลืมรับประทานยา และในกรณีที่ลืมรับประทานยามีวิธีแก้ไขโดย


1. ลืม 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ 2. ลืม 2 เม็ด ติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรก ให้รับประทานยาครั้งละ 2 เม็ด ติดต่อ 2 วัน และรับประทานยาต่อไปตามปกติจนหมดแผง ให้ใช้ถุงยางอนามัย ร่วมด้วย หรืองดร่วมเพศ 7 วัน 3. ลืม 2 เม็ด ติดต่อกันในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือลืมมากกว่า 2 เม็ด ในช่วงใดก็ตามให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่าจะมีเลือดประจำเดือน จึงเริ่มยาแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหรืองดร่วมเพศ ตั้งแต่เริ่มหยุดยา จนรับประทานยาแผงใหม่ไปได้ 2 สัปดาห์



เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สัญญาณเตือนที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

รวมสาเหตุที่ต้องผ่าตัดมดลูก พร้อมเคล็ดลับการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด

การผ่าตัดมดลูกคือการแก้ปัญหาที่มีสาเหตุจากมดลูกจนทำให้เกิดความอันตรายต่อชีวิต มาทำความเข้าใจกันว่าดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างไรให้ไม่ต้องกังวลปัญหาแทรกซ้อน

“ซีสต์” หรือ ถุงน้ำรังไข่ อาการเป็นยังไง? พร้อมเจาะลึกหาสาเหตุและวิธีรักษา

ซีสต์ (Cyst) มีหลายชนิด สามารถเกิดได้ทั่วร่างกาย แต่สำหรับผู้หญิงควรระวังซีสต์รังไข่หรือถุงน้ำรังไข่ เพราะอาจทำให้มีอาการปวดหน่วงท้องน้อย ประจำเดือนมาไม่ปกติได้

คุณแม่ตั้งครรภ์กับการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายที่เหมาะสมและเพียงพอในคุณแม่ตั้งครรภ์จะช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามไม่ควรออกกำลังกายหักโหมและหนักเกินไป ควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม และอยู่ในการดูแลและแนะนำจากสูตินรีแพทย์

ทำอย่างไร เมื่อหลังคลอด ไม่มีความรู้สึกทางเพศ

ปัญหาของคุณแม่หลังคลอดที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งมีผลต่อทางร่างกายและจิตใจ ปัญหาด้านอารมณ์ทางเพศที่ลดลงหลังคลอดเป็นอีกปัญหาที่ทำให้คุณผู้หญิงหลายคนกังวล การพูดคุยทำความเข้าใจกับคู่ครองจะช่วยให้ความสัมพันธ์ยังคงดีเหมือนเดิมได้

อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง เพื่อวินิจฉัยโรคต่างๆ ในช่องท้องที่ตามองไม่เห็น

ผ่าตัดปลูกถ่ายไตซ้ำ มาจากปัจจัยสำคัญอะไรบ้าง เสี่ยงกว่าครั้งแรกมากน้อยแค่ไหนต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนผ่าตัด

ตรวจเต้านมด้วยตนเอง เพื่อรู้ทันมะเร็งเต้านม

การคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ ช่วยให้เราสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติของมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะแรก ๆ วิธีการคลำเต้านมทำง่ายๆได้ด้วยตัวเองดังนี้

มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายของผู้หญิงทุกคน

การติดเชื้อไวรัส HPV สาเหตุหลักการเกิดมะเร็งปากมดลูก ในระยะเริ่มต้นส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่เมื่อเป็นมากขึ้นมักมีอาการแสดงให้พบได้บ้าง ควรตรวจคัดกรองและฉีดวัคซีนป้องกันเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง

ตั้งครรภ์ช่วงโควิด เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน?

โควิด 19 จะส่งผลอะไรต่อลูกน้อยในครรภ์ไหม ต้องป้องกันหรือรักษาอย่างไร

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital