บทความสุขภาพ

Knowledge

ภาวะธาตุเหล็กเกิน (Hemochromatosis)

นพ. บุญชู สุนทรโอภาส

ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง โปรตีนกล้ามเนื้อ และเอนไซม์ในปฏิกิริยาเคมีของเซลล์ หากธาตุเหล็กในร่างกายไม่เพียงพอจะเกิดโรคโลหิตจาง และหากธาตุเหล็กในร่างกายเกิน สะสมในอวัยวะต่าง ๆ เกิดโรคได้เช่นกัน


ในการควบคุมสมดุลเหล็กในร่างกายนั้น ร่างกายมีกลไกควบคุมได้เพียงการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่ลำไส้ โดยที่ร่างกายไม่มีกลไกขับธาตุเหล็กส่วนเกินออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้เมื่อมีภาวะธาตุเหล็กเกินร่างกายจะไม่สามารถจัดการด้วยตัวเองได้



สาเหตุของภาวะธาตุเหล็กเกิน


สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะธาตุเหล็กเกิน คือ การได้รับเลือดมากสะสม ซึ่งพบในผู้ป่วยโรคโลหิตจางที่ต้องได้รับเลือดบ่อย เพราะเลือด 1 ถุงมีปริมาณธาตุเหล็กมากกว่าอาหารถึง 100-200 เท่า สำหรับคนที่ไม่ได้รับเลือดบ่อย แต่มีโอกาสเกิดภาวะธาตุเหล็กเกินได้ คือ กลุ่มโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ที่พบบ่อยในคนไทย มีฮีโมโกลบินซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงในไขกระดูกไม่มีประสิทธิภาพ เม็ดเลือดแดงแตกเร็วขึ้น และลำไส้ดูดซึมธาตุเหล็กมากผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กเกินได้แม้ไม่ได้รับเลือดบ่อย สาเหตุอื่น เช่น โรคทางกรรมพันธุ์ที่ทำให้ดูดซึมธาตุเหล็กทางลำไส้มากขึ้น เช่น Hereditary hemochromatosis (HH) โรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคตับจากสุรา โรคตับอักเสบจากไขมันพอกตับ ทำให้ตับสะสมธาตุเหล็กมากผิดปกติ และปล่อยสาร ferritin มากขึ้นทำให้เกิดธาตุเหล็กเกินที่อวัยวะอื่น ๆ ตามมาด้วย สาเหตุอื่นที่พบได้น้อย คือ การได้รับวิตามินแร่ธาตุเหล็กมากเกินไป



อาการของภาวะธาตุเหล็กเกิน


อาการของภาวะธาตุเหล็กเกิน เกิดจากการสะสมของธาตุเหล็กทั่วร่างกาย มีมากที่ตับ หัวใจ ข้อต่อ ต่อมไร้ท่อ เช่น ตับอ่อน อัณฑะหรือรังไข่ ธาตุเหล็กที่สะสมทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเกิดสารอนุมูลอิสระ (reactive oxygen species; ROS) ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบ ทำลายเซลล์และเกิดพังผืด ที่เราคุ้นเคยกันดี คือ การเกิดสนิมเหล็กนั่นเอง โดยอาการของภาวะธาตุเหล็กเกินจะแสดงอาการช้าหรือเร็วขึ้นกับสาเหตุของโรคที่ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กเกิน เช่น กลุ่มที่เกิดจากการรับเลือดมากจะเริ่มมีปัญหาธาตุเหล็กเกินเมื่อได้รับเลือดมากกว่า 20-30 ถุง ส่วนสาเหตุอื่นมักแสดงอาการเมื่ออายุ 40-50 ปี เนื่องจากใช้เวลาสะสม ผู้หญิงแสดงอาการช้ากว่าเนื่องจากมีการเสียธาตุเหล็กไปทางประจำเดือนบ้าง อาการของอวัยวะต่าง ๆ ได้แก่


  • ตับ ผลเลือดผิดปกติ ตับอักเสบ ตับแข็ง และตับวาย
  • หัวใจ หัวใจโต หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ตับอ่อน เบาหวานพึ่งอินซูลิน ซึ่งไม่ใช่เบาหวานชนิดที่หนึ่งหรือชนิดที่สองที่เราคุ้นเคย
  • ต่อมใต้สมอง อัณฑะ รังไข่ ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ
  • ผิวหนังมีสีเข้มขึ้นเป็นสีบรอนซ์
  • ข้อเสื่อม มักเป็นที่ ข้อนิ้วมือ หรือนิ้วเท้า


การวินิจฉัยภาวะธาตุเหล็กเกิน


หากสงสัยภาวะนี้ แพทย์ตรวจวัดปริมาณเหล็กในร่างกาย โดยตรวจสาร ferritin และ transferrin saturation จากการตรวจเลือด ตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI T2-star) ตับและหัวใจ หากจำเป็นจะทำการเจาะชิ้นเนื้อตับมาตรวจ (liver biopsy) และตรวจทางพันธุกรรมเพื่อหาสาเหตุ ซึ่งภาวะธาตุเหล็กเกินสามารถตรวจพบจากการตรวจเลือดและการตรวจอื่น ๆ ดังกล่าว ก่อนที่จะเริ่มมีอาการผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ เป็นเวลาหลายปี ทำให้สามารถให้การแก้ไขได้ก่อนเกิดอาการ



การรักษาภาวะธาตุเหล็กเกิน


การรักษาภาวะธาตุเหล็กเกิน ทำโดยให้ยาขับธาตุเหล็กแบบกิน เช่น ยา Deferiprone และยา Deferasirox เป็นต้น โดยยาจะจับธาตุเหล็กให้อยู่ในรูปแบบที่ขับออกทางอุจจาระและปัสสาวะได้ และสำหรับคนที่ไม่มีภาวะโลหิตจาง รักษาโดยการเจาะเลือดออก (Phlebotomy) ควรดูแลตนเองโดยไม่รับประทานยาวิตามินอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก ระมัดระวังการใช้สารที่มีผลต่อตับ เช่น แอลกอฮอล์ เป็นต้น การรักษาเน้นการขับธาตุเหล็กส่วนเกินออกจากร่างกายเพื่อป้องกัน หากเกิดความเสียหายถาวรที่อวัยวะต่าง ๆ แล้ว การรักษาได้เพียงรักษาประคับประคองตามอาการซึ่งเป็นเรื้อรัง นำไปสู่การสูญเสียชีวิตได้


ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. บุญชู สุนทรโอภาส

นพ. บุญชู สุนทรโอภาส

ศูนย์อายุรกรรม

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

แนะนำอาหารในผู้ป่วยตับแข็ง และผู้ที่มีอาการทางสมองจากตับแข็ง

สิ่งที่สำคัญในการดูแลตัวเองของผู้ป่วยตับแข็ง นั้นคือการรับประทานอาหาร ควรเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการทางสมองจากตับแข็ง มีข้อจำกัดในการรับประทานโปรตีน ดังนั้นยิ่งต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญกับอาหารเป็นพิเศษ

ปรับพฤติกรรมการกิน ลดความเสี่ยง กรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน เป็นภาวะของโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเมือง เช่น นอนน้อย ทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานกาแฟและน้ำอัดลม โดยอาการกรดไหลย้อนนั้น เป็นภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารที่มีความเข้มข้นสูง ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร

การดื่มสุรา ภัยโรคตับที่คุณอาจไม่รู้ตัว

การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ หรือสุรานั้น อยู่คู่สังคมเรานับเป็นพันปีแล้ว เช่นกันมีการพบการเสียชีวิตของคนสำคัญของโลกจากการดื่มสุรา จนทำให้คนเหล่านั้นแทนที่จะทำประโยชน์แก่โลกเรากลับทำให้เสียชีวิตก่อนวัยที่ควรจะเป็น

การวินิจฉัยเนื้องอกในตับ หรือ มะเร็งตับ

การวินิจฉัยเนื้องอกในตับ หรือ มะเร็งตับ, ก้อนในตับ มีวิธีคิด หรือ ตรวจสอบอย่างไร นายแพทย์ระพีพันธุ์ กัลยาวินัย อายุรแพทย์ และ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเดินอาหารและโรคตับ ร.พ. พระรามเก้า เกริ่น มักวินิจฉัยได้ช้า เพราะไม่มีอาการ

โรคกระเพาะ ที่เกิดจากกรด ปัญหาที่ไม่ได้คำตอบของคุณ

1. โรคกระเพาะ (โรคกระเพาะที่เกิดจากกรด) คืออะไร ? คือภาวะอักเสบ หรือ แผลในส่วนของกระเพาะ ( stomach, gastritis, gastric ulcer) หรือ ในลำใส้เล็กส่วนต้น ( duodenum, duodenitis, duodenal ulcer) ที่เกิดจากกรดในกระเพาะ

เลือดออกทางเดินอาหารส่วนบน: อาการเป็นอย่างไร? รักษาได้อย่างไรบ้าง?

ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน มีอาการสำคัญคืออาเจียนเป็นเลือด ปวดท้อง คลื่นไส้ เเละถ่ายดำสีคล้ายยางมะตอย โดยเป็นภาวะที่ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนเสียเลือดมาก อาจทำให้ช็อก เสียชีวิตได้

กรดไหลย้อน…ผิดที่พฤติกรรม

“กรดไหลย้อน เป็นภาวะของโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเมือง เช่น นอนน้อย ทานอาหารไม่เป็นเวลา” ทานกาแฟและน้ำอัดลม โดยอาการกรดไหลย้อนนั้น เป็นภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารที่มีความเข้มข้นสูง ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ซึ่งหลอดอ

การผ่าตัดเปลี่ยนตับ อีกหนทางในการรักษาโรคตับที่หมดหวัง

การผ่าตัดเปลี่ยนตับหรือการปลูกถ่ายตับถือเป็นการรักษาที่มีผลการรักษาค่อนข้างดีในผู้ป่วยโรคตับที่มีอาการรุนแรง เช่น ผู้ป่วยตับวายหรือตับแข็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้ป่วยสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีเทียบเท่าคนปกติ

การรักษาไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบบีกลายพันธุ์

การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีมีทั้งการรักษาด้วยยากินและยาฉีด ร่วมกับการดูแลสุขภาพตับ การป้องกันเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ การตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อตับอักเสบบีได้

ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ตรวจง่าย ป้องกันมะเร็งได้ก่อนสายเกินไป

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่มีความสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะช่วยค้นหามะเร็งลำไส้ และหากพบก้อนเนื้อ แพทย์สามารถตัดออกได้เลยก่อนลุกลามกลายเป็นมะเร็ง

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital