เมื่อร่างกายเกิดการบาดเจ็บหรือมีอาการปวดเรื้อรัง การทำกายภาพบำบัดถือเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟู หนึ่งในวิธีการบำบัดที่ใช้คุณสมบัติของน้ำเป็นเครื่องมือคือ ‘ธาราบำบัด’ หรือ Hydrotherapy คือการใช้ประโยชน์จากแรงพยุง ความหนืด และอุณหภูมิของน้ำ เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวข้อต่อและออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการปวดมาก หรือมีข้อจำกัดในการลงน้ำหนัก การทำ Hydrotherapy จึงเป็นทางเลือกที่อ่อนโยน แต่มีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูร่างกาย
Key Takeaways
- ธาราบำบัด หรือวารีบำบัด คือการกายภาพบำบัดที่ใช้ประโยชน์จากแรงพยุง ความหนืด และอุณหภูมิของน้ำเพื่อฟื้นฟูร่างกายอย่างอ่อนโยน
- การทำธาราบำบัดจะช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว และฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดให้ดียิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจควรระมัดระวังก่อนตัดสินใจทำวารีบำบัด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพราะอาจเสี่ยงหัวใจทำงานหนักมากเกินไปจนเป็นอันตรายได้
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือมีการติดเชื้อที่ผิวหนัง ควรงดทำธาราบำบัดไปก่อนจนกว่าแผลจะหายสนิท เนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
ธาราบำบัด (Hydrotherapy) คืออะไร วารีบำบัดทำงานอย่างไร?
ธาราบำบัด (Hydrotherapy) หรือวารีบำบัด (Water Therapy) เป็นรูปแบบของการทำกายภาพบำบัดที่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติทางฟิสิกส์ และอุณหภูมิของน้ำเพื่อฟื้นฟูร่างกาย โดยขั้นตอนของการทำธาราบำบัด คือการนำผู้ป่วยลงไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมในสระน้ำอุ่นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งหลักการทำงานของวารีบำบัด คือการใช้คุณสมบัติ 3 ประการของน้ำในการบำบัด ได้แก่
- แรงพยุงของน้ำ (Buoyancy) ช่วยลดน้ำหนักที่กดลงบนข้อต่อและกระดูกสันหลัง ทำให้รู้สึกตัวเบาลง และสามารถเคลื่อนไหวข้อต่อได้ง่ายขึ้นโดยไม่เกิดอาการปวด หรือต้องรับแรงกระแทกมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม หรือผ่านการผ่าตัดเข่าเสื่อมมาก่อน
- ความหนืดของน้ำ (Viscosity) จะต้านทานการเคลื่อนไหว ทำให้การออกกำลังกายแต่ละครั้งเป็นการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ถ่วงน้ำหนัก
- อุณหภูมิ (Temperature) น้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และบรรเทาอาการปวด เช่น อาการปวดข้อเท้า หรือข้อเข่า ทำให้ธาราบำบัดเป็นวิธีที่อ่อนโยน แต่มีคุณภาพในการฟื้นฟูร่างกาย
ธาราบำบัด มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

ธาราบำบัดเป็นการนำคุณสมบัติของน้ำมาใช้ในการบำบัดฟื้นฟูร่างกาย ทำให้เกิดประโยชน์ทางสุขภาพที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว หรือมีอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งประโยชน์ของการทำวารีบำบัด มีดังนี้
- ลดแรงกระแทกต่อข้อต่อ แรงพยุงของน้ำช่วยลดแรงกดทับของน้ำหนักตัวต่อข้อเข่า ข้อสะโพก และกระดูกสันหลัง ทำให้สามารถออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูได้โดยไม่เกิดอาการบาดเจ็บซ้ำ
- บรรเทาอาการปวด น้ำอุ่นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด ช่วยลดอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หรือกล้ามเนื้ออักเสบได้
- เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความหนืดของน้ำทำหน้าที่เป็นแรงต้านทานตามธรรมชาติ ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว จึงเป็นการสร้างความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน
- ฟื้นฟูหลังการผ่าตัด ช่วยให้สามารถเริ่มบริหารข้อต่อ และส่งเสริมให้กลับมาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว ความรู้สึกตัวเบาในน้ำช่วยให้ข้อต่อสามารถเคลื่อนไหวได้กว้างขึ้นและยืดเหยียดได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ในการรักษาภาวะข้อติดขัด
- ช่วยผ่อนคลายความเครียด สภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำอุ่นช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้น
ธาราบำบัด ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากโรคอะไรได้บ้าง?
ธาราบำบัดเป็นการบำบัดฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความอ่อนโยนต่อร่างกายอย่างมาก เนื่องจากแรงพยุงของน้ำช่วยลดแรงกระทำต่อข้อต่อ ทำให้ผู้ที่บาดเจ็บ มีอาการปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดข้อ หรือปวดคอเรื้อรังสามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นและไม่เกิดการกระแทกซ้ำ โดยประโยชน์หลัก ๆ ของธาราบำบัดจะครอบคลุมการฟื้นฟูร่างกายจากภาวะและโรคต่าง ๆ ดังนี้
- ภาวะปวดและอักเสบของกล้ามเนื้อ น้ำอุ่นช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ
- โรคข้อและข้อเข่าเสื่อม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเข่า เนื่องจากน้ำช่วยพยุงน้ำหนักตัว ทำให้สามารถออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง โดยไม่เกิดแรงกดทับต่อข้อต่อที่บาดเจ็บอยู่
- การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดใหญ่ เช่น การซ่อมแซมเอ็นไขว้หน้าขาด ผ่านการผ่าตัดข้อเข่ามา หรือใช้บำบัดภาวะไหล่หลุด ช่วยให้เริ่มต้นการทำกายภาพบำบัดได้เร็วขึ้นและมีความเสี่ยงน้อย
- ความบกพร่องของระบบประสาท ช่วยฟื้นฟูและฝึกการทรงตัวในผู้ป่วยระบบประสาท เช่น ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน หรือผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เนื่องจากน้ำช่วยให้การเคลื่อนไหวมีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการหกล้ม
- อาการข้อเท้าบวมและข้อติดขัด เพราะความหนืดของน้ำทำหน้าที่เป็นแรงต้านทานอย่างอ่อนโยน ช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว (Range of Motion) ให้กับข้อต่อที่มีปัญหา เช่น อาการข้อเท้าบวมที่ยังอักเสบอยู่
ข้อควรระวังก่อนทำธาราบำบัด อยากทำวารีบำบัดต้องรู้

แม้ว่าธาราบำบัดจะเป็นวิธีกายภาพบำบัดที่อ่อนโยน แต่ก็มีข้อควรระวังสำคัญที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่ม ได้แก่
- หากมีปัญหาหัวใจและหลอดเลือด เช่น ผู้ที่มีโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง ควรระวังอุณหภูมิของน้ำที่อาจทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และควรต้องปรับระดับความหนักเบาของโปรแกรมการออกกำลังกายให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการกลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะ หากไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ ควรหลีกเลี่ยงการลงสระน้ำสาธารณะ เพื่อรักษามาตรฐานสุขอนามัยของน้ำในสระ (หากมีภาวะนี้จริง ๆ ควรปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อหาวิธีกายภาพให้เหมาะสม)
- อาการป่วยเฉียบพลันหรือไข้สูง หากมีไข้สูง อาการป่วยเฉียบพลัน หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ควรเลื่อนการทำวารีบำบัดออกไปก่อน เพื่อป้องกันอาการทรุดหนักลง
- ผู้ที่มีแผลสด แผลเปิด การติดเชื้อหรือการอักเสบที่ผิวหนังไม่ควรลงสระน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อ
- ต้องระวังการลื่นล้มให้ดี และสำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรือมีปัญหาการทรงตัว ควรมีนักกายภาพบำบัดคอยดูแลตลอดเวลา เพื่อป้องกันการจมน้ำ
- ควรเลือกใช้บริการในสถานที่ที่มีการควบคุมคุณภาพน้ำ และมีการฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ธาราบำบัด วิธีบำบัดและฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ให้ใช้ชีวิตได้เต็มที่ยิ่งขึ้น
ธาราบำบัด (Hydrotherapy) คือการบำบัดฟื้นฟูที่ใช้แรงพยุงของน้ำช่วยลดแรงกดทับต่อข้อต่อที่บาดเจ็บ ทำให้สามารถสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวได้อย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ หากคุณต้องการฟื้นฟูอาการปวดข้อหรือหลังการผ่าตัด สามารถปรึกษาทีมแพทย์ได้ที่ สถาบันรักษาความปวดและสร้างเสริมความเข้มแข็ง (Fix&Fit) โรงพยาบาลพระรามเก้า เราพร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ได้คุณภาพ เพื่อช่วยให้คุณฟื้นตัว และกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธาราบำบัด
1. ควรเตรียมตัวอย่างไร ก่อนลงสระธาราบำบัด?
ควรทำความสะอาดร่างกายและสวมชุดว่ายน้ำที่เหมาะสม ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายก่อนลงสระ และแจ้งอาการบาดเจ็บหรืออาการปวดที่เป็นอยู่ให้กับนักกายภาพบำบัดทราบอย่างละเอียดก่อนเริ่มทำทุกครั้ง
2. ธาราบำบัด ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
จำนวนครั้งจะแตกต่างกันไปตามสภาพร่างกายและอาการของแต่ละคน โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงด้านความแข็งแรงและลดปวดหลังทำประมาณ 6-12 ครั้งอย่างต่อเนื่อง ตามคำแนะนำของแพทย์
References
Rapaport, L. (2024, October 10). What Is Hydrotherapy: Benefits, Risks, and Techniques. Everyday Health. https://www.everydayhealth.com/pain-management/hydrotherapy/
Types and Health Benefits of Hydrotherapy. (2021, November 5). Cleveland Clinic. https://health.clevelandclinic.org/what-is-hydrotherapy
Rath, L. (2023, July 6). Water Therapy. Arthritis Foundation. https://www.arthritis.org/health-wellness/treatment/complementary-therapies/natural-therapies/water-therapies
Johnson, J. (1970, January 1). Hydrotherapy: Types of treatments. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/29108