อาการไหล่หลุด อาจนำไปสู่ภาวะข้อไหล่หลวมเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที มีความเสี่ยงเกิดไหล่หลุดซ้ำและมีผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพาไปรู้จักกับภาวะข้อไหล่หลุดอย่างละเอียด ทั้งสาเหตุ อาการ แนวทางการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุ รวมถึงวิธีการรักษาที่เหมาะสมเพื่อให้ฟื้นตัวได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว
Key Takeaways
- ไหล่หลุด คือภาวะที่กระดูกต้นแขนหลุดออกจากเบ้าข้อไหล่ มักเกิดจากการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ
- ระยะเวลาฟื้นตัวหลังรักษาไหล่หลุดประมาณ 6-12 สัปดาห์ แล้วแต่ความรุนแรงของอาการและการตอบสนองต่อการรักษา
- หากปล่อยให้อาการไหล่หลุดหายเองโดยไม่รักษาอย่างถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ข้อไหล่หลวมเรื้อรัง หรือบาดเจ็บซ้ำซ้อน
- หากไหล่หลุด ห้ามจัดข้อกลับเข้าที่เอง เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อหรือกระดูกเสียหายมากขึ้น ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนรักษาอย่างตรงจุด
- ผู้ที่เคยไหล่หลุดแล้วมีโอกาสไหล่หลุดซ้ำได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลฟื้นฟูอย่างถูกวิธี
ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร เป็นได้ง่ายแค่ไหน
ไหล่หลุด คือ ภาวะที่หัวกระดูกต้นแขนหลุดออกจากเบ้าข้อไหล่ โดยมักจะหลุดทางด้านหน้า ทำให้หัวไหล่ผิดรูป เกิดอาการปวดรุนแรง * * และขยับแขนไม่ได้ เมื่อไหล่หลุดอาจมีอาการชา หรือแขนอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาท เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ง่าย เพราะข้อไหล่เป็นข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้กว้างที่สุดในร่างกาย แต่มีความมั่นคงน้อย จึงเสี่ยงต่อการไหล่เคลื่อนหลุดเมื่อถูกกระแทก หรือเคลื่อนไหวผิดท่า
ไหล่หลุดเกิดจากอะไร มีสาเหตุอะไรบ้าง

ไหล่หลุดเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลัก ๆ จะมีดังนี้
- อุบัติเหตุหรือแรงกระแทก เช่น ล้มแล้วใช้แขนยันพื้น การตกจากที่สูง หรืออุบัติเหตุรถชน ทำให้ข้อไหล่เคลื่อนหลุดจากเบ้า
- เล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่มีการปะทะหรือต้องเคลื่อนไหวรวดเร็ว เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ว่ายน้ำ หรือยิมนาสติก การเล่นกีฬาเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บที่ไหล่
- เคยไหล่หลุดมาก่อน คนที่เคยไหล่หลุดมาแล้วจะมีโอกาสหลุดซ้ำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทำท่าทางเดิมซ้ำบ่อย ๆ หรือเคลื่อนไหวผิดจังหวะ
- ร่างกายมีความยืดหยุ่นผิดปกติ เช่น เส้นเอ็นหรือข้อหลวมกว่าปกติ อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นอาการที่พบได้ในนักกีฬาบางประเภท
- กล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติ เช่น อาการจากโรคลมชัก หรือไฟฟ้าช็อต อาจทำให้ข้อไหล่หลุดไปทางด้านหลัง ซึ่งพบได้ไม่บ่อยเท่าด้านหน้า
อาการไหล่หลุดที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?
อาการไหล่หลุดอาจแบ่งอาการออกเป็น 3 รูปแบบตามลำดับความรุนแรงและผลกระทบ ดังนี้
- หลังไหล่หลุดทันที จะปวดรุนแรงบริเวณหัวไหล่ หัวไหล่ผิดรูป เช่น ไหล่แฟบลง หรือมีก้อนนูนบริเวณด้านหน้า แขนขยับไม่ได้ หรือขยับแล้วปวดมาก บางรายอาจมีอาการชา หรือเสียวบริเวณต้นแขนจากเส้นประสาทถูกกดเบียด แขนอาจอยู่ในท่าที่ผิดรูป ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
- หลังได้รับการรักษาเบื้องต้น อาการปวดจะลดลง แต่ยังคงรู้สึกตึงหรือไม่มั่นคงที่หัวไหล่ อาจมีรอยฟกช้ำ บวม หรือกล้ามเนื้อรอบไหล่ยังคงอักเสบ ขยับแขนได้บางส่วน แต่ยังไม่เต็มช่วงการเคลื่อนไหวปกติ
- หากมีภาวะไหล่หลุดซ้ำ หรือฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ ไหล่อาจหลุดซ้ำได้ง่ายจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย อาจมีความรู้สึกไม่มั่นคงหรือหลวมในข้อไหล่ กล้ามเนื้อรอบไหล่อ่อนแรง ปวดเรื้อรัง โดยเฉพาะเมื่อใช้แขนมาก
หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ไม่ควรนิ่งนอนใจหรือรอให้อาการหายไปเอง เพราะหากไม่ได้รับการวินิจฉัยด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น CT Scan และ MRI และเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี โอกาสที่ไหล่จะหลุดซ้ำหรือฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ก็จะเพิ่มมากขึ้นได้
วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อไหล่หลุดเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

เมื่อเกิดภาวะไหล่หลุด สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม และควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว โดยแนวทางเบื้องต้นมีดังนี้
- ห้ามดึงหรือจัดไหล่กลับเอง เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น หรือกระดูกบริเวณไหล่เสียหายมากขึ้น ควรปล่อยให้อยู่ในท่าที่รู้สึกเจ็บน้อยที่สุด
- ประคองแขนให้อยู่นิ่ง ใช้ผ้าคล้องแขน หมอน หรือมืออีกข้างประคองข้อศอกเพื่อไม่ให้แขนเคลื่อนไหวมากเกินไป หากไม่มีอุปกรณ์ ให้ประคองให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุดจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล
- ประคบเย็นเพื่อลดปวด สามารถใช้เจลเย็นหรือผ้าเย็นประคบบริเวณหัวไหล่ที่หลุด เพื่อลดอาการปวดและบวมชั่วคราว แต่อย่าใช้แรงกดลงไปตรงบริเวณที่ผิดรูป
- รีบพบแพทย์ทันที แม้อาการปวดจะทุเลาลงหลังประคบเย็น แต่การรักษาที่ถูกต้องจำเป็นต้องให้แพทย์จัดกระดูกกลับเข้าที่ และตรวจเช็กความเสียหายของเนื้อเยื่อ กระดูก หรือเส้นประสาทด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เช่น MRI เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและลดโอกาสเกิดไหล่หลุดซ้ำ
วิธีการรักษาไหล่หลุดทำได้กี่แบบ อย่างไรบ้าง
อาการไหล่หลุดแม้จะดูเหมือนเป็นอาการที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากละเลยหรือรักษาไม่ถูกวิธี อาจนำไปสู่ภาวะไหล่หลุดซ้ำเรื้อรัง และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาว การรักษาที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 2 วิธีหลัก ได้แก่ การรักษาแบบไม่ผ่าตัด และการรักษาแบบผ่าตัด โดยแพทย์จะเลือกวิธีให้เหมาะกับลักษณะและความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละราย
รักษาไหล่หลุดแบบไม่ผ่าตัด
เหมาะสำหรับผู้ที่ประสบภาวะไหล่หลุดครั้งแรก หรือไม่ได้รับความเสียหายต่อโครงสร้างภายในข้อไหล่มากนัก โดยการรักษาประเภทไม่ผ่าตัด มีดังนี้
- จัดกระดูกกลับเข้าที่ (Closed Reduction) แพทย์จะใช้วิธีการทางการแพทย์เพื่อจัดหัวกระดูกให้กลับเข้าสู่เบ้าข้อไหล่ พร้อมกับให้ยาช่วยลดอาการปวดหรือคลายกล้ามเนื้อก่อนจัดกระดูก
- ใส่ผ้าคล้องแขนเพื่อพยุงข้อไหล่ ผู้ป่วยจะได้รับการใส่ที่พยุงแขนไว้ประมาณ 2–4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้แขนขยับจนเกิดการหลุดซ้ำ
- กายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหว หลังถอดผ้าคล้องแขน แพทย์จะนัดกายภาพบำบัดเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อไหล่ ซึ่งช่วยลดโอกาสการหลุดซ้ำในอนาคต
รักษาไหล่หลุดแบบผ่าตัด
เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะไหล่หลุดซ้ำ ๆ หรือมีโครงสร้างภายในข้อไหล่เสียหาย เช่น เยื่อหุ้มข้อฉีก เบ้ากระดูกไหล่สึก ฯลฯ โดยการรักษาประเภทผ่าตัดมีดังนี้
- การผ่าตัดส่องกล้อง (Arthroscopic Surgery) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะแผลเล็ก ฟื้นตัวไว และความเสี่ยงน้อย โดยแพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กส่องเข้าไปภายในข้อไหล่ พร้อมซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย ด้วยการเย็บเยื่อหุ้มข้อ เอ็นบริเวณเบ้าข้อไหล่ หรือเสริมความตึงของกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง
- การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery) ใช้ในบางกรณี ตัวอย่างเช่นกระดูกเบ้าข้อไหล่มีความเสียหายมาก เช่น สึกเกิน 15–25% โดยแพทย์อาจต้องเสริมกระดูกบริเวณเบ้าไหล่จากกระดูกส่วนอื่นของร่างกาย ด้วยวิธีการการผ่าตัดเสริมภาวะเบ้ากระดูกไหล่เสื่อม (Glenoid Reconstruction) เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับข้อไหล่
ไหล่หลุด ภัยสุขภาพที่ไม่ควรปล่อยให้หายเอง
อาการไหล่หลุดไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยที่สามารถปล่อยให้หายเองได้ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะข้อหลวมเรื้อรัง หรือทำให้ไหล่หลุดซ้ำได้ง่ายในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการขยับแขน ยกของ หรือออกกำลังกาย
หากคุณหรือคนใกล้ตัวประสบภาวะไหล่หลุดควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีประวัติเคยไหล่หลุดมาก่อนหรือมีอาการเรื้อรัง สามารถเข้ารับคำปรึกษาและการดูแลอย่างใกล้ชิดได้ที่ ศูนย์รักษ์ข้อ โรงพยาบาลพระรามเก้า ห้บริการโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในด้านกระดูกและข้อมาโดยเฉพาะ เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวให้กลับมาแข็งแรงและขยับได้อย่างอิสระอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไหล่หลุด
1. อาการไหล่หลุด กี่วันหรือกี่เดือนถึงหายดี?
หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนและรักษาอย่างเหมาะสม อาการจะฟื้นตัวภายใน 12-16 สัปดาห์ แต่บางรายอาจต้องใช้เวลานานขึ้นหากมีการผ่าตัดหรือไหล่หลุดซ้ำบ่อย
2. ใครบ้างที่เสี่ยงมีโอกาสไหล่หลุดได้ง่าย?
กลุ่มเสี่ยงคือ นักกีฬา, ผู้ที่เคยมีประวัติไหล่หลุด, ผู้ที่มีข้อหลวมโดยกำเนิด, ผู้สูงอายุที่กระดูก และผู้ที่กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ
References
Cleveland Clinic. (2023, May 11). Dislocated shoulder: Causes, treatment & prevention. Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/17746-dislocated-shoulder
Harvard Health Publishing. (2024, December 12). Shoulder dislocation: A to Z. https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/shoulder-dislocation-a-to-z
Moin, A., & Alvi, M. A. (2023). Shoulder dislocation. In StatPearls. StatPearls Publishing. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK459125/
NHS. (2023, May 17). Dislocated shoulder. https://www.nhs.uk/conditions/dislocated-shoulder/