บทความสุขภาพ

Knowledge

ตอบข้อสงสัย “หมอพร้อม” เพื่อให้ “ทุกคนพร้อม” จองฉีดวัคซีนโควิด 19

นพ. อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์

วัคซีนโควิด 19 ความหวังที่ทุกคนในประเทศรอคอย เพื่อให้ทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนที่ผ่านมาในอดีต ได้มาพร้อมกับ “หมอพร้อม” ระบบลงทะเบียนขอสิทธิ์การฉีดวัคซีนผ่านทาง Line Official Account (Line OA) และ Mobile application ซึ่งอาจเป็นสิ่งใหม่สำหรับบางคน รวมถึงมีเงื่อนไข และข้อมูลต่างๆ ที่ทำให้มีคำถามตามมามากมาย


เพื่อให้ความหวังการฉีดวัคซีนนี้สมหวัง เราจึงรวบรวมคำถาม และคำตอบอย่างสรุป ให้เข้าใจได้มากขึ้น


ขั้นตอนการใช้งาน Line Official Account “หมอพร้อม” เวอร์ชั่น 2 จาก ศูนย์ประสานงานข้อมูลหมอพร้อม (ข้อมูลอัปเดตวันที่ 4 พฤษภาคม 2564)

Q1: องค์ประกอบการลงทะเบียน “หมอพร้อม” รอบแรก มีอะไรบ้าง?


PR9-3prompt-step-1.jpg

คำตอบ: สำหรับการลงทะเบียน “หมอพร้อม” รอบแรก จะมีองค์ประกอบ 3 ส่วนด้วยกันตามลำดับ คือ


  1. ท่านที่มีรายชื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายผู้รับวัคซีน (whitelist) ซึ่งโรงพยาบาลที่ท่านใช้บริการส่งข้อมูลของท่านให้กับส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุขแล้วเท่านั้น!
  2. สถานที่ที่ท่านเลือกจะไปฉีดวัคซีน (สถานที่เดียวกับที่ส่งสิทธิ์ของท่านไปที่ส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข อาจจะมีหลายแห่งก็ได้) “เปิดรับ (Slot) ฉีดวัคซีน” ซึ่งเป็นสิทธิ์ของโรงพยาบาลนั้นๆ
  3. ลงทะเบียนผ่าน Line OA ของ “หมอพร้อม” หรือ Mobile application “หมอพร้อม”​ โดยสามารถให้ผู้อื่นช่วยลงทะเบียนแทนได้

แต่หากท่านเป็นผู้ที่มีรายชื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายผู้รับวัคซีน (whitelist) และไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบมือถือ หรือไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านระบบมือถือ ท่านสามารถติดต่อไปที่โรงพยาบาลที่ท่านรักษาเป็นประจำได้โดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว


Q2: ใครมีสิทธิ์ลงทะเบียนหมอพร้อม “รอบแรก”


คำตอบ: ในรอบนี้จะเป็นกลุ่มผู้ที่เป็น 7 โรคเรื้อรัง* และ กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป

ซึ่งเป็นอันดับที่ 3 และ 4 จากการเรียงตาม 5 รายชื่อกลุ่มเป้าหมายผู้รับวัคซีน (whitelist) ของทางกระทรวงสาธารณสุข ที่จัดเรียงตามลำดับความสำคัญของกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดอาการป่วยรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิตจากโควิด 19 โดย 5 รายชื่อกลุ่มเป้าหมายผู้รับวัคซีน (whitelist) นี้คือ


  1. บุคลากรทางการแพทย์ (จำนวน 1.2 ล้านคน)
  2. บุคลากรด่านหน้า เช่น ทหาร ตำรวจ (จำนวน 1.8 ล้านคน)
  3. กลุ่มผู้ที่เป็น 7 โรคเรื้อรัง* ได้แก่ (จำนวน 4.4 ล้านคน)
  4. กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป (จำนวน 11.7 ล้านคน)
  5. ประชาชนที่เหลือ (จำนวน 31 ล้านคน)

*โรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่

  1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหอบหืดที่ควบคุมได้ไม่ดี
  2. โรคหัวใจและหลอดเลือด
  3. โรคไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 (ระยะสุดท้าย)
  4. โรคหลอดเลือดสมอง
  5. โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด
  6. โรคเบาหวาน
  7. โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)

Q3: สิทธิ์รอบแรกมาจากไหน?

คำตอบ: รายชื่อในระบบได้มาจากโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง ส่งข้อมูลมาให้กับส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทราบว่าใครเป็นกลุ่มผู้เป็นโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป

เนื่องจากปริมาณข้อมูลมากและมาจากหลายแหล่ง จึงอาจมีโอกาสส่งผลให้ข้อมูลตกหล่นได้ ซึ่งหากใครเข้าข่ายในกลุ่มทั้ง 2 แต่ไม่พบรายชื่อ ให้ทำการแจ้งโรงพยาบาลที่ท่านมีประวัติการรักษาส่งรายชื่อท่านไปที่ส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เพื่อให้สามารถลงทะเบียนได้ต่อไป


Q4: ลงทะเบียนได้กี่ช่องทาง?


คำตอบ: มี 3 ช่องทาง โดยเลือกเพียง 1 ช่องทาง คือ


  1. Line OA หมอพร้อม
  2. Mobile application หมอพร้อม
  3. ติดต่อโดยตรงกับโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ หรือ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือ อสม.

Q5: ถ้ารายชื่อตกหล่น ต้องทำอย่างไร?


คำตอบ: ถ้าพบว่ารายชื่อตกหล่น ให้ติดต่อไปที่โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา เพื่อให้โรงพยาบาลส่งข้อมูลของท่านให้ส่วนกลางกระทรวงสาธารณสุข


Q6: ต้องรีบจองหรือไม่? เพราะกลัวจะเต็มจำนวน


คำตอบ: ไม่ต้องรีบ ในการฉีดวัคซีนรอบแรกนี้ (มิถุนายน ถึง กรกฎาคม 2564) มีวัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ที่จัดหาไว้ทั้งสิ้น 16 ล้านโดส ซึ่งจะครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มแรกของกลุ่มเป้าหมายในรอบนี้ที่มีอยู่ประมาณ 16 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมเป้าหมายทั้งสิ้นที่ 50 ล้านคน (70% ของประชากร) ภายในสิ้นปีนี้


Q7: “หมอพร้อม” รอบนี้ฉีดยี่ห้ออะไร?


คำตอบ: ได้รับวัคซีนยี่ห้อ แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จํากัด ของประเทศไทย สำหรับทั้ง 2 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ที่เป็น 7 โรคเรื้อรัง และ กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป

ศึกษาเพิ่มเติม วัคซีนโควิด 19 ฉบับอัปเดตล่าสุด


Q8: วัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 1 และ 2 ฉีดคนละยี่ห้อได้ไหม?


คำตอบ: สามารถฉีดได้ แต่ไม่แนะนำ ยกเว้นกรณีแพทย์เห็นว่าจำเป็นจะต้องเปลี่ยนยี่ห้อในการฉีด เนื่องจากเมื่อท่านได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ระบบจะทำการจองวัน เวลา และสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ทันที หากท่านมีการเปลี่ยนแปลงยี่ห้อวัคซีนที่จะฉีด จะส่งผลให้ได้รับการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าออกไป


Q9: ลงทะเบียน “หมอพร้อม” รอบแรกภายในเมื่อไหร่? และฉีดวัคซีนเมื่อไหร่?

คำตอบ: ข้อมูลล่าสุดวันที่ 15 พ.ค. 2564 แจ้งว่า ในเดือนมิถุนายานมีผู้จองคิวฉีดวัคซีน “เต็มจำนวนที่ได้รับจัดสรรแล้ว” และซึ่งทาง “หมอพร้อม” ได้ระบุให้ทำการจองคิวในเดือน ก.ค. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีวัคซีนสำหรับ 5 ล้านคนต่อเดือน

และผู้ที่สามารถจองวัคซีนทันในรอบ มิ.ย. จะเริ่มฉีดวัคซีนตามวันและเวลาที่เลือกไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2564 ซึ่งจะเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จํากัด ของประเทศไทย


Q10: รอบประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนได้เมื่อไหร่? และฉีดวัคซีนได้เมื่อไหร่?

คำตอบ: ข้อมูลล่าสุดวันที่ 15 พ.ค. 2564 ระบุว่า รอบประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 – 59 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายของรายชื่อกลุ่มเป้าหมายผู้รับวัคซีน (whitelist) ทางระบบหมอพร้อม จะเปิดให้เริ่มจองสิทธิ์ได้ในวันที่ 31 พ.ค. นี้เป็นต้นไป


Q11: ลงทะเบียนได้ 24 ชม. หรือไม่? และมีวันสิ้นสุดหรือไม่?

คำตอบ: สามารถลงทะเบียนได้ 24 ชม. จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 หรือจนกว่าวัคซีนจะมา แต่ข้อมูลล่าสุดวันที่ 15 พ.ค. 2564 แจ้งว่า ในเดือนมิถุนายานมีผู้จองคิวฉีดวัคซีน “เต็มจำนวนที่ได้รับจัดสรรแล้ว” และระบุให้ทำการจองคิวในเดือน ก.ค.เป็นต้นไป

Q12: รู้ได้ยังไงว่าลงทะเบียนแล้วสำเร็จ?

คำตอบ: ถ้าท่านลงทะเบียนและกำหนดสถานที่ วัน เวลาฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว จะมีการส่งข้อมูลจากระบบยืนยันกลับให้ท่านทันที

Q13: ลงทะเบียนแล้วไปฉีดที่ไหนได้บ้าง? และโรงพยาบาลเปิดให้ฉีดวัคซีนได้จำนวนเท่าไร?

คำตอบ: หากท่านลงทะเบียนได้ ก็จะสามารถเลือกสถานที่รับการฉีดวัคซีนได้ตามที่ปรากฏบน Line OA หมอพร้อม หรือ Mobile application หมอพร้อม เช่น โรงพยาบาลที่ท่านรักษาเป็นประจำ เป็นต้น

โดยแต่ละโรงพยาบาลรองรับการฉีดวัคซีนได้ดังนี้

  • โรงพยาบาลขนาดเล็ก 360 คน/วัน
  • โรงพยาบาลขนาดใหญ่ 600 คน/วัน

แต่ในส่วนของโรงพยาบาลสนาม ไม่ได้เปิดให้ฉีดวัคซีน ขอให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากมีประวัติอยู่แล้ว เพราะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อาจมีความเสี่ยงหากต้องไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลสนาม


Q14: ลงทะเบียน แต่เลือกรพ.ไม่ได้ และเลือกเวลาไม่ได้ ต้องแก้ไขยังไง?

คำตอบ: แสดงว่าท่านเป็นผู้มีสิทธิ์ แต่โรงพยาบาลที่ท่านเลือกไม่เปิดรับการฉีดวัคซีน หรืออาจมีการปิดรับการฉีดวัคซีน เนื่องจากโควต้าคิวที่จองเต็มแล้ว อาจต้องเลือกโรงพยาบาลอื่น หรือรอจนกว่าโรงพยาบาลที่ท่านต้องการไปฉีด เปิดรับอีกครั้ง

Q15: บัตรประชาชนเป็นแบบเก่า ไม่มีเลขหลังบัตร (Laser ID) ลงทะเบียนอย่างไร?

คำตอบ: หากท่านเป็นกลุ่มที่มีสิทธิ์ สามารถติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านมีประวัติการรักษา หรืออสม. ที่ดูแลท่าน

Q16: ผู้ที่เป็นโรคอ้วน แต่ไม่มีประวัติในโรงพยาบาล ลงทะเบียนอย่างไร?

คำตอบ: ผู้ที่เป็นโรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) ถือว่าอยู่ในรายชื่อกลุ่มเป้าหมายผู้รับวัคซีน (whitelist) ที่เป็น 7 โรคเรื้อรัง แต่อาจไม่มีประวัติในโรงพยาบาล เพราะอาจไปรักษาที่คลินิกต่างๆ

ท่านสามารถติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านได้โดยตรง เพื่อให้โรงพยาบาลนั้นๆ แจ้งสิทธิ์ของท่านให้กับส่วนกลางกระทรวงสาธารณสุข


Q17: วันที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?

คำตอบ: เอกสารที่ต้องใช้ คือ

  1. บัตรประจำตัวประชาชน
  2. หน้า application หมอพร้อม ที่ยืนยันการรับวัคซีน หรือ เอกสารการนัดรับวัคซีน กรณีลงทะเบียนผ่านโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ หรือ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือ อสม.

Q18: ยกเลิกนัดฉีดวัคซีนได้หรือไม่?

คำตอบ: สามารถติดต่อ รพ. ที่จองคิวฉีดวัคซีนได้เพื่อขอทำการยกเลิก


Q19: ไปฉีดก่อนวันนัดได้หรือไม่?

คำตอบ: สามารถทำได้ ถ้าเหลือโควต้าในการฉีดของวันนั้นๆ ระบบจะทำการบันทึกและยกเลิกนัดที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้านี้


Q20: รับวัคซีนแล้ว กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติก่อน New Normal ได้เลยไหม?

คำตอบ: เมื่อได้รับวัคซีนแล้ว ร่างกายจะได้รับการกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาหลังจากรับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งยังคงมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 แล้วเกิดอาการป่วยได้ แต่จะลดอาการป่วยรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิตลง จึงขอแนะนำให้ทุกท่านยังคงใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และล้างมืออย่างสม่ำเสมอ จนกว่าจะมีประกาศจากทางกระทรวงสาธารณสุข


หากมีข้อสงสัยเรื่องการใช้ “หมอพร้อม” สอบถามได้ที่ 0-2792-2333

อ้างอิงข้อมูล:

– นพ.พงศธร แจงทุกข้อสงสัย ลงทะเบียน “หมอพร้อม” ทำไมลงยากลงเย็น (คลิปการให้สัมภาษณ์ link)

ศูนย์ประสานงานข้อมูล “หมอพร้อม”

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์

นพ. อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์

ศูนย์ศัลยกรรม

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

หมอนรองกระดูกเสื่อม ต้นเหตุอาการปวดหลังเรื้อรังที่อายุน้อยก็พบได้

หมอนรองกระดูกเสื่อมคือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกจนไม่สามารถทำหน้าที่ลดแรงกระแทกได้ ทำให้กระดูกรอบ ๆ สึกและอักเสบขึ้นจนเกิดอาการปวดเรื้อรัง

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา อีกหนึ่งสัญญาณเส้นประสาทถูกกดทับ

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา (Sciatica pain) เกิดจากการถูกกดทับที่เส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดจากช่วงเอวหรือสะโพกร้าวลงขาด้านหลัง บางรายอาจร้าวไปถึงน่องและเท้าได้

ปวดข้อเท้าเกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรไม่ให้เจ็บเรื้อรัง?

ทำความเข้าใจกับอาการปวดข้อเท้าที่ควรรู้ อาการแบบไหนที่ควรเข้าปรึกษาแพทย์? พร้อมเรียนรู้สาเหตุของอาการ วิธีรักษา ตลอดจนการป้องกันไม่ให้เจ็บข้อเท้าเรื้อรัง

คำแนะนำการป้องกันมาลาเรียสำหรับนักเดินทาง

โรคมาลาเรียเป็นโรคที่เกิดจากโปรโตซัว Plasmodium นำโดยยุงก้นปล่อง มีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ สายพันธ์ุที่รุนแรงคือ Plasmodium falciparum ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักในทวีปแอฟริกา ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง อวัยวะต่างๆล้มเหลว ติดเชื้อขึ้นสมอง โคม่า ชัก และเสียชีวิตได้ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า

ไส้เลื่อน ใครก็เป็นได้ อันตรายที่ต้องรักษาก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน

ไส้เลื่อน คือภาวะที่ลำไส้เลื่อนหรือดันออกมาจากช่องท้อง สามารถสังเกตเห็นก้อนนูนออกมาตามขาหนีบ หน้าท้อง สะดือ หากไม่รักษาอาจเกิดอันตรายจากอาการแทรกซ้อนได้

รู้ทันต้อหิน โรคร้ายทำลายการมองเห็น รีบรักษาก่อนสายเกินแก้

ต้อหิน (Glaucoma) คือโรคตาที่มีสาเหตุจากขั้วประสาทตาเสื่อม ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวปวดตา กระจกตาขุ่น การมองเห็นแย่ลง และค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด

Hypothyroidism คืออะไร? รู้ทันสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

Hypothyroidism คือ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ ทำให้ระดับการเผาผลาญพลังงานลดลง และนำมาสู่การทำงานของระบบต่าง ๆ ผิดปกติ

รู้ทันอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ใครเวียนหัว บ้านหมุนบ่อยต้องระวัง

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นความผิดปกติของระบบน้ำในหูชั้นใน ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ เวียนหัว บ้านหมุน ทรงตัวไม่อยู่ และการได้ยินผิดปกติ

หายใจไม่อิ่ม หายใจลำบาก สัญญาณอันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม

หายใจไม่อิ่ม เป็นอาการที่หลายคนเผชิญ อาจมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่เต็มปอด หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อยง่าย บทนี้ความจะพาไปดูสาเหตุของอาการเหล่านี้กัน

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน อันตรายถึงชีวิตแบบไร้สัญญาณเตือน

หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจหยุดทำงานกะทันหัน ทำให้หมดสติและเสียชีวิตในไม่กี่นาที จึงเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับการรักษาทันที

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital