บทความสุขภาพ

Knowledge

ยาลิ้นฟ้า Rohypnol (โรฮิปนอล) อันตรายที่ต้องรู้เท่าทัน

พญ. รับพร ทักษิณวราจาร

หลังจากมีข่าวที่น่ากังวลเกี่ยวกับยาลิ้นฟ้า หรือ Rohypnol (โรฮิปนอล) ที่มีวัยรุ่นบางกลุ่มนำมาใช้ผิดประเภท แล้วแลบลิ้นสีฟ้าอวดลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นที่น่ากังวลใจอย่างมาก ความจริงแล้วยาชนิดนี้ไม่ใช่ยาใหม่ แต่เป็นยาที่มีมานานานกว่า 30 ปี และในวงการแพทย์ก็ทราบกันดีถึงอันตรายของยาดังกล่าว จนบางประเทศมีคำสั่งห้ามจำหน่าย แต่กลับเป็นว่าในช่วงนี้มีการระบาดในเมืองไทย


Rohypnol (โรฮิปนอล) หรือยาลิ้นฟ้า คืออะไร?


Rohypnol (โรฮิปนอล) เป็นชื่อการค้าของยานอนหลับโดยบริษัทยา Roche ซึ่งเป็นผู้คิดค้น และผลิตเป็นเจ้าแรก โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยชื่อสามัญของยาตัวนี้คือ Flunitrazepam ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม Benzodiazepines (BZD) โดยมียาในกลุ่มเดียวกันนี้ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ได้แก่ Alprazolam (Xanax®), Clonazepam, Diazepam (Valium®), Lorazepam เป็นต้น


โรฮิปนอลเป็นยานอนหลับที่มีฤทธิ์เร็ว แรง และออกฤทธิ์ยาวนาน (มากกว่าระยะการนอนหลับในหนึ่งคืน) ทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ มีอาการง่วงซึมในช่วงเวลากลางวัน และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ โดยพบว่าโรฮิปนอลเป็นยานอนหลับที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงที่สุด เมื่อเทียบกับยาตัวอื่นซึ่งเป็นยานอนหลับด้วยกัน นอกจากนั้นโรฮิปนอลยังมีผลต่อความทรงจำ จึงทำให้มีการออกข้อกำหนดให้มีการจำกัดยาใช้อย่างเคร่งครัด


อันตรายจากการใช้ยา Rohypnol


ยาโรฮิปนอลควรใช้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ตามแพทย์สั่งเท่านั้น เพราะการใช้ติดต่อกันเกิน 1 เดือน จะทำให้เกิดการติดยา และหากใช้ในระยะยาวนอกจากการติดยา และอาการถอนยาที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้แล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการเรียนรู้และสมรรถภาพการรู้คิด และหากได้รับยาเกินขนาด จะทำให้กดการหายใจและทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ผลข้างเคียงที่สำคัญของโรฮิปนอลคือ เมื่อหยุดยาอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับที่แย่ลงกว่าเดิมได้ (rebound insomnia)


ทำไมกินแล้วลิ้นมีสีฟ้า?


เนื่องจากยาโรฮิปนอล มีฤทธิ์เป็นยานอนหลับที่แรง และมีผลต่อความทรงจำ และสร้างอันตรายต่อสังคมโดยรวมเป็นอย่างมาก ผู้ผลิตจึงคิดค้นวิธีป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยการใส่สีฟ้าไว้ภายในเม็ดยา ทำให้เมื่อยาละลายในเครื่องดื่มจะเกิดสีฟ้าให้เห็นและสังเกตได้ ดังนั้นจากข่าวจึงพบว่าเมื่อวัยรุ่นนำมาใช้เสพด้วยการอมไว้ในปาก ทำให้สีที่ละลายออกมาย้อมติดที่ลิ้น เห็นเป็นลิ้นสีฟ้า


และด้วยความกังวลต่อการนำไปใช้ก่ออาชญากรรมและความปลอดภัยของสังคม การผลิต ขาย หรือใช้ยาตัวนี้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป เช่น สเปน ฝรั่งเศส นอร์เวย์ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร เป็นต้น ส่วนในประเทศที่ยังอนุญาตให้มีการใช้ในทางการแพทย์ ข้อบ่งใช้ของยาตัวนี้ก็มีเหลือไม่มากนัก ดังที่กล่าวไปข้างต้น


วิธีป้องกันสำหรับบุคคลทั่วไป


โรฮิปนอลเป็นยาที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ละลายน้ำได้ดีและมีตะกอนเพียงเล็กน้อย ทำให้สังเกตเห็นยาก สิ่งเดียวที่จะบอกได้ว่ามียาตัวนี้อยู่า คือ “สีฟ้า” ที่ผู้ผลิตใส่เพิ่มเข้ามา แต่หากเครื่องดื่มมีสีเข้ม สีฟ้าก็จะถูกบดบังทำให้ไม่เห็นความแตกต่าง หรือผู้ผลิตบางบริษัทก็ไม่มีการใส่สีเข้ามาทำให้สังเกตยากว่ามียาตัวนี้อยู่หรือไม่


ดังนั้นการสังเกตเพียงดูสีที่ผิดปกติของอาหารและเครื่องดื่มว่ามีสีฟ้าที่อาจมียาตัวนี้อยู่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันอันตรายจากยาตัวนี้ และควรมีมาตรการป้องกันตัวจากยาตัวนี้


  1. ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่ผู้อื่นยื่นให้ ควรรับเครื่องดื่มจากพนักงานของร้านเองโดยตรง
  2. ถ้าลุกออกจากที่ เมื่อกลับมาต้องไม่ดื่มแก้วที่ทิ้งเอาไว้
  3. ควรไปเที่ยวเป็นหมู่คณะ และควรมีเพื่อนคนนึงไม่ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อครองสติ ทำหน้าที่คอยสังเกตสถานการณ์ และดูแลให้กลับที่พักอย่างปลอดภัย (desinated driver/buddy system)
  4. ในปัจจุบันสถานบันเทิงหลายแห่งมีนโยบายป้องกันภัยคุกคามทางเพศ หากลูกค้ามีอาการง่วงผิดปกติ สะลึมสะลือ หรือถูกคุกคาม พนักงานจะเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ หรืออาจมีรหัสเพื่อให้ลูกค้าสามารถขอความช่วยเหลือจากพนักงานได้โดยไม่กระโดกกระตากให้คนร้ายไหวตัวทัน หากจะไปเที่ยวสังสรรค์ ดังนั้นจึงควรเลือกไปสถานบันเทิงที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเหล่านี้ด้วย
  5. โรฮิปนอลจะออกฤทธิ์ภายในครึ่งชั่วโมง หากสงสัยว่าตัวเองโดนวางยาจึงต้องรีบขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วก่อนที่จะเบลอและหมดสติ
  6. หากสังเกตว่าเพื่อนดูง่วงมากและมึนงงผิดปกติ ให้สงสัยว่าเพื่อนโดนมอมยา ให้รีบประกบตัว ไม่เปิดโอกาสให้คนร้ายเข้าถึงตัวได้ แล้วรีบขอความช่วยเหลือ และหากสังสัยว่าได้รับยาเกินขนาดจนอาจมีอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิต ควรรีบพาไปโรงพยาบาลทันที

โทษทางกฎหมาย


ยาโรฮิปนอลนี้มีการควบคุมการใช้และจำหน่ายอย่างเข้มงวดในประเทศไทย โดยจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 มีเพียงแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์เท่านั้นที่มีสิทธิสั่งจ่ายยา ไม่มีการจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป และมีบทกำหนดโทษหากมีการใช้หรือจำหน่ายอย่างผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ดังนี้


  • จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต: จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 700,000 บาท
  • โฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • เสพโดยไม่ได้รักษาโรคตามคำสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพ: จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ผู้ใดจูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังบังคับ ให้ผู้อื่นเสพวัตถุออกฤทธิ์: โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สรุป


ยาลิ้นฟ้า หรือ ยาโรฮิปนอล (Rohypnol) เป็นยาอันตรายต่อทั้งผู้เสพยาและผู้ตกเป็นเหยื่อของการใช้ก่ออาชญากรรม และมีบทลงโทษหากผู้ใดนำไปใช้หรือจำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงนี้มีการระบาดของยาชนิดนี้ในเมืองไทย ดังนั้นการรู้เท่าทันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนรอบตัว



เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. รับพร  ทักษิณวราจาร

พญ. รับพร ทักษิณวราจาร

ศูนย์สมองและระบบประสาท

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนให้หายดี ลดเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สัญญาณเตือนที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

ต่อมลูกหมากโต (BHP) อาการเป็นอย่างไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัดและกระทบต่อคุณภาพชีวิต มักพบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนอายุ 50 ปีขึ้นไป

รู้ทันอาการริดสีดวงทวาร กับพฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน ทางเลือกรักษาข้อเข่าเสื่อม แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน หรือ UKA เป็นการผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยเอาผิวข้อเฉพาะส่วนที่สึกหรอออก และเก็บผิวข้อเข่าส่วนที่ยังมีสภาพดีไว้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ในการกลับไปใช้ข้อเข่าได้เหมือนธรรมชาติ

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital