บทความสุขภาพ

Knowledge

ICL เลนส์เสริม ทางเลือกของการแก้ไขสายตา

พญ. อรทัย สุวจนกรณ์

ในปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาสายตามีหลากหลายวิธี เช่น การใช้แว่นตา, คอนแทคเลนส์ หรือการทำเลสิค (LASIK) แต่สำหรับบางคนที่มีข้อจำกัดไม่สามารถทำเลสิคได้ เช่น ผู้ที่มีสายตาสั้น, สายตาเอียงมากเกินไป หรือผู้ที่มีความหนาของกระจกตาไม่เพียงพอ ICL (Implantable Collamer Lens) เป็นทางเลือกที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้


ทำความรู้จัก ICL


ICL (Implantable Collamer Lens) คือเลนส์เสริม ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขสายตาผิดปกติได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ทำจาก Collamer ซึ่งประกอบด้วยคอนลาเจน (Collagen) และโคโพลีเมอร์ (Copolymer) มีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้ดีกับร่างกาย จึงไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน


เลนส์เสริม ICL จะถูกสั่งตัดพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพตาของแต่ละคน จักษุแพทย์จะทำการใส่ ICL เข้าไปในตาที่ตำแหน่งหลังม่านตา หน้าต่อเลนส์แก้วตาเพื่อช่วยแก้ไขสายตา โดย ICL จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสามารถอยู่ในดวงตาไปได้ตลอด อย่างไรก็ตามจักษุแพทย์สามารถนำเลนส์นี้ออกหรือเปลี่ยนได้ (Removable/Reversible) หากมีความจำเป็น โดยไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเยื่อตาถาวร


ICL เหมาะกับใคร


  1. ผู้ที่อายุ 21-45 ปี
  2. ผู้ที่มีสายตาคงที่แล้ว (คือเปลี่ยนแปลงไม่เกิน 0.5D ใน 1ปี )
  3. ผู้ที่มีสายตาสั้น ยาว เอียงมากๆ
  4. ผู้ที่มีกระจกตาบาง
  5. ผู้ที่มีตาแห้งมาก
  6. ผู้ที่ไม่มีโรคตาอย่างอื่น เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ม่านตาอักเสบ เป็นต้น
  7. ผู้ที่มีช่องหน้าม่านตากว้างเพียงพอ
  8. ผู้ที่ไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  9. ผู้ที่ไม่ต้องการทำเลสิค

ข้อดีของ ICL


  1. สามารถแก้ไขค่าสายตาสั้น ยาว หรือเอียงมากได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีค่าสายตาสูงมากจนไม่สามารถทำเลสิคได้ ซึ่ง ICL สามารถแก้ไขสายตาสั้นได้ถึง -18.0D , สายตายาวได้ถึง +10.0D และสายตาเอียงได้ถึง 6.0D
  2. ไม่มีการสูญเสียเนื้อเยื่อกระจกตา โดยการใส่ ICL ไม่มีการปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตา จึงไม่เสียโครงสร้างถาวรของกระจกตาและไม่ทำให้กระจกตาบางลงเหมือนการทำเลสิค
  3. แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
  4. โอกาสเกิดตาแห้งหลังทำน้อยกว่าการทำเลสิค เนื่องจาก ICL ไม่ได้แก้ไขที่กระจกตาโดยตรง จึงไม่รบกวนเส้นประสาทตาที่กระจกตา
  5. สามารถถอดออกได้ (Removable) โดยทั่วไปเมื่อใส่เลนส์เสริม ICL แล้ว สามารถอยู่ในตาไปได้ตลอด แต่สามารถถอดออกหรือเปลี่ยนเลนส์ได้หากมีความจำเป็น หรือในอนาคตอายุมากขึ้น เกิดภาวะต้อกระจก สามารถนำ ICL ออกและผ่าตัดต้อกระจกได้ในคราวเดียวกัน
  6. คุณภาพการมองเห็นคมชัด
  7. โอกาสเกิดแสงกระจายน้อยกว่าการทำเลสิค
  8. สามารถกรองแสง UV ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาได้

ข้อจำกัด และผลข้างเคียงของ ICL


  1. ต้องมีช่องหน้าม่านตากว้างพอที่จะใส่เลนส์เสริม ICL ซึ่งต้องตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ และประเมินโดยจักษุแพทย์
  2. เนื่องจาก ICL เป็นเลนส์ที่ส่งตัดพิเศษเฉพาะบุคคล จึงอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรอตัดเลนส์
  3. มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น ความดันตาสูงชั่วคราวหลังผ่าตัด และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในตาได้ ถึงแม้จะมีโอกาสน้อย แต่มีความจำเป็นต้องดูแลความสะอาด และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

กระบวนการการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL มีขั้นตอนดังนี้:


  1. การประเมินสภาพดวงตา: จักษุแพทย์จะทำการวัดค่าสายตาและประเมินสภาพดวงตาอย่างละเอียด เพื่อเลือกขนาดของเลนส์ ICL ที่เหมาะสม และสั่งตัดเลนส์พิเศษเฉพาะบุคคล
  2. การเตรียมการผ่าตัด: ก่อนการผ่าตัดจะมีการหยอดยาชาและยาขยายม่านตาเพื่อเตรียมดวงตาให้พร้อม
  3. การฝังเลนส์ ICL: เลนส์ ICL จะถูกนำเข้าไปในดวงตาผ่านทางแผลเล็กๆ ที่บริเวณขอบกระจกตา โดยจะวางเลนส์เสริมไว้บริเวณหลังม่านตา หน้าเลนส์แก้วตา กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที โดยแผลผ่าตัดจะสมานตัวได้โดยไม่จำเป็นต้องเย็บแผล
  4. การติดตามหลังการผ่าตัด: หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องมีการตรวจติดตามผลเป็นระยะ ตามคำแนะนำของแพทย์

สรุป


ICL (Implantable Collamer Lens) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการแก้ไขปัญหาสายตา โดยเฉพาะในกรณีที่เลสิคไม่สามารถทำได้ การใส่เลนส์เสริม ICL ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสายตากลับมามองเห็นชัดเจนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากสนใจเข้ารับการรักษา สามารถติดต่อเข้ารับการปรึกษากับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับดวงตาของคุณต่อไป

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. อรทัย  สุวจนกรณ์

พญ. อรทัย สุวจนกรณ์

ศูนย์จักษุ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร รู้สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาให้หายดี

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออาการที่พบได้บ่อยในคนที่ใช้แรงเยอะ ๆ หรือเคยไหล่หลุดมาก่อน มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไหล่หลุดได้บ้าง และจะต้องดูแลรักษาตัวอย่างไ

กระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? รู้จักอาการ สาเหตุ และการป้องกัน

โรคกระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? ชวนคุณมาทำความรู้จักกับอาการ สาเหตุ และการรักษา เพื่อป้องกันสุขภาพตัวเองไม่ให้กระดูกคอได้รับบาดเจ็บ

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนให้หายดี ลดเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สัญญาณเตือนที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

ต่อมลูกหมากโต (BHP) อาการเป็นอย่างไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัดและกระทบต่อคุณภาพชีวิต มักพบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนอายุ 50 ปีขึ้นไป

รู้ทันอาการริดสีดวงทวาร กับพฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน ทางเลือกรักษาข้อเข่าเสื่อม แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน หรือ UKA เป็นการผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยเอาผิวข้อเฉพาะส่วนที่สึกหรอออก และเก็บผิวข้อเข่าส่วนที่ยังมีสภาพดีไว้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ในการกลับไปใช้ข้อเข่าได้เหมือนธรรมชาติ

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital