บทความสุขภาพ

Knowledge

สายตาสั้นในเด็ก ดูแลอย่างไรไม่ให้สายตาแย่ลง?

นพ. ปัญชรัช ปรีชาหาญ

สายตาสั้น เป็นภาวะการมองเห็นผิดปกติที่พบได้บ่อยมากขึ้น ในยุคปัจจุบัน ผู้ที่มีสายตาสั้นจะมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ได้ชัดเจน แต่วัตถุที่อยู่ไกลจะเห็นได้ไม่ชัดเจน ซึ่งเกิดจากการที่กระบอกตามีความยาวมากเกินไปหรือกระจกตามีความโค้งมากเกินไป ทำให้แสงจากวัตถุหักเหตกกระทบหน้าด้านต่อจอตา เปรียบเสมือนภาพฉายจากเครื่องโปรเจคเตอร์ที่ตกกระทบหน้าต่อฉากรับภาพ ซึ่งตำแหน่งที่เหมาะสมนั้นควรจะตกกระทบพอดีบนฉากรับภาพ


สาเหตุของการเกิดภาวะสายตาสั้นในเด็ก

สายตาสั้นในเด็กมักเกิดขึ้นในเด็กช่วงวัยเรียนและวัยรุ่น โดยส่วนมากเด็กมักเริ่มมีสายตาสั้นหลังจากอายุ 7 ขวบเป็นต้นไป ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มักเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยมีสาเหตุสำคัญได้แก่


สาเหตุของการเกิดภาวะสายตาสั้นในเด็ก.webp
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: หากพ่อหรือแม่ของผู้ป่วยคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนมีสายตาสั้น โอกาสที่ลูกจะมีสายตาสั้นจะสูงขึ้นตามไปด้วย
  • กิจกรรมที่ใช้การมองใกล้: การทำกิจกรรมที่ใช้การมองใกล้ ที่ระยะน้อยกว่า 20-30 เซนติเมตร เช่น การอ่านหรือการเขียนหนังสือ รวมถึงการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน ล้วนมีส่วนที่ทำให้สายตาสั้นเพิ่มขึ้นได้

อาการของภาวะสายตาสั้นในเด็ก

  • มองเห็นวัตถุระยะไกลไม่ชัดเจน
  • หยีตา เพื่อให้มองเห็นชัดเจนขึ้น
  • ตาล้า ปวดหัว มองกระดานในห้องเรียนไม่ชัด
  • ต้องนั่งใกล้โทรทัศน์หรือจอภาพยนตร์

โรคตาอื่น ๆ ที่มีสาเหตจากภาวะสายตาสั้น

  • โรคตาขี้เกียจ
  • เกิดข้อจำกัดในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น ทหาร ตำรวจ นักบิน
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคต้อกระจกก่อนวัยชรา
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคต้อหิน
  • เพิ่มความเสี่ยงโรคจุดรับภาพชัดเสื่อม
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคจอตาฉีกขาดและจอตาหลุดลอก
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคเขจากภาวะสายตาสั้น
  • อาจเกิดข้อกำจัดในการผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติในอนาคต ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะสายตาสั้นมาก

โดยความเสี่ยงในการเกิดโรคตาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสายตาสั้นนั้นจะเพิ่มมากขึ้นตามระดับค่าสายตาสั้นของผู้ป่วย


การแก้ไขภาวะสายตาสั้น

  • การสวมแว่นตา เป็นวิธีการแก้ไขภาวะสายตาสั้นที่ปลอดภัยที่สุด และไม่มีผลข้างเคียง เหมาะสมกับผู้ที่มีสายตาสั้นทุกช่วงวัย
  • การใส่คอนแทคเลนส์ แนะนำเฉพาะในเด็กโตที่มีความรับผิดชอบ สามารถดูแลความสะอาดของคอนแทคเลนส์ด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการสวมใส่คอนแทคเลนส์มีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการมองเห็นในระยะยาวได้
  • การผ่าตัดแก้ไขสายตา ซึ่งแนะนำในผู้ที่มีสายตาสั้นที่อายุมากกว่า 20 ปีเป็นต้นไป (การผ่าตัดแก้ไขสายตา เป็นเพียงการลดความจำเป็นในการสวมแว่นตาหรือการสวมคอนแทคเลนส์ให้กับผู้ป่วยเท่านั้น ความเสี่ยงในการเกิดโรคตาดังที่กล่าวไว้ข้างต้นยังคงอยู่ทุกประการ)

การชะลอสายตาสั้น

สายตาสั้นเป็นภาวะที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถหายได้และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งในปัจจุบันมีการรักษาเพื่อชะลอสายตาสั้นไม่ให้ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วได้ โดยมีวิธีดังต่อไปนี้


  1. ลดการใช้สายตาในการทำกิจกรรมมองระยะใกล้ที่น้อยกว่า 20-30 เซนติเมตรให้น้อยที่สุด
  2. เพิ่มการใช้เวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกบ้านให้ได้มากที่สุด โดยแนะนำให้ใช้เวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง มากกว่า 14 ชม./สัปดาห์ หรือ มากกว่า 2 ชม./วัน
  3. การใส่เลนส์สัมผัสชนิดแข็ง (OK/Lens) เป็นการสวมใส่เลนส์ชนิดแข็งในเวลากลางคืนช่วงที่ผู้ป่วยเข้านอน และถอดตัวเลนส์ออกหลังตื่นนอน (ไม่เป็นที่นิยมใช้ในประเทศไทย เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากการสวมใส่เลนส์เช่น ภาวะตาติดเชื้อ กระจกตาถลอก ตาแห้ง)
  4. การสวมแว่นตาเลนส์ชะลอสายตาสั้น
  5. การใช้ยาหยอดตาชะลอสายตาสั้น

การลดการใช้สายตามองระยะใกล้และการเพิ่มการใช้เวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกบ้านนั้นแนะนำให้ทำในผู้ป่วยเด็กที่มีสายตาสั้นทุกรายเนื่องจากสามารถทำได้ง่าย ปลอดภัยและไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ


ในส่วนของการสวมแว่นตาเลนส์ชะลอสั้นและการใช้ยาหยอด ตาชะลอสายตาสั้น ต้องอาศัยการตัดสินใจร่วมกันระหว่างจักษุ แพทย์ ผู้ปกครอง และผู้ป่วยร่วมกันในการวางแผนการรักษาระยะยาว ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันดังนี้


วิธีชะลอสายตาสั้นในเด็ก.webp

การใช้ยาหยอดตาชะลอสายตาสั้น

เป็นการหยอดยา Atropine ที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.01%-0.05% โดยการเลือกความเข้มข้นของตัวยามักขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ร่วมการอัตราความเร็วในการเพิ่มขึ้นของค่าสายตาสั้นของผู้ป่วย โดยมักต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้ปกครองและผู้ป่วยในการหยอดยาอย่างสม่ำเสมอทุกวันติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี และอาจพบผลข้างเคียงจากการหยอดยาได้เช่น ภูมิแพ้ตา ภาวะตาสู้แสงไม่ได้ มีปัญหาในการมองใกล้


การใช้ยาหยอดตาชะลอสายตาสั้น.webp

ข้อดี

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เลนส์ชะลอสายตาสั้น
  • ตัวยามีหลายความเข้มข้น สามารถปรับระดับตามความรุนแรงของภาวะสายตาสั้นได้
  • ไม่จำเป็นต้องอาศัยการดูแลรักษาจากเด็ก

ข้อเสีย

  • อาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองในการหยอดยาให้บุตรหลานทุกวัน
  • มีผลข้างเคียงจากตัวยา เช่น ภูมิแพ้ตาตาสู้แสงไม่ได้ มีปัญการมองระยะใกล้
  • มีโอกาสเกิดภาวะสายตาสั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว หากหยุดยาทันทีโดยไม่ได้มีการลดปริมาณยาก่อนหยุดยาจากจักษุแพทย์

การสวมแว่นตาเลนส์ชะลอสั้น

เป็นเลนส์ดีไซน์พิเศษที่ช่วยในการชะลอสายตาสั้นได้ เมื่อมองจากภายนอกเลนส์พิเศษนี้จะมีลักษณะเหมือนเลนส์สายตาธรรมดาทั่วไป ทำให้ผู้ที่สวมใส่เลนส์นี้ดูเหมือนใส่แว่นตาปกติทั่วไป แต่การใส่เลนส์เลนส์ชะลอสั้นนี้แนะนำให้ผู้ใช้สวมใส่แว่นให้ได้มากที่สุด โดยแนะนำที่เวลามากกว่า 10-12 ชม./วัน แล้วแต่ดีไซน์ของเลนส์ แนะนำให้ถอดเลนส์นี้เมื่อผู้สวมใส่นอนหลับ อาบน้ำ หรือว่ายน้ำเท่านั้น สามารถสวมใส่แว่นตาเลนส์ชะลอสั้นเล่นกีฬาได้ตามปกติ


การสวมแว่นตาเลนส์ชะลอสั้น.webp
การสวมแว่นตาเลนส์ชะลอสั้น-2.webp

ข้อดี

  • ไม่มีผลข้างเคียง เนื่องจากไม่ใช่รูปแบบของยาหยอดตา
  • ไม่มีภาวะสายตาสั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อหยุดการใช้กระทันหัน
  • ไม่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองในการหยอดยาให้บุตรหลานทุกวัน

ข้อเสีย

  • ราคาสูงกว่าแว่นตาปกติทั่วไป
  • ไม่เหมาะกับเด็กที่ไม่สวมแว่นตาตลอดเวลา
  • อาศัยการดูแลรักษาแว่นตาซึ่งมีราคาสูงจากเด็ก

โดยทั้งนี้การควบคุมสายตาสั้นเป็นการรักษาในระยะยาวที่อาศัยการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอกับจักษุแพทย์ และอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้ป่วยและผู้ปกครองร่วมกันเพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพของการชะลอสายตาสั้น


การชะลอสายตาสั้นทุกวิธีมีงานวิจัยรองรับถึงผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ของการรักษาที่ดียิ่งขึ้น และไม่มีการรักษาที่เป็นแบบแผนตายตัว ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีข้อจำกัดในการรักษาและมีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับการรักษาแต่ละวิธีแตกต่างกันไป

บทความที่เกี่ยวข้อง (9)

ดูทั้งหมด

ต้อหิน รู้เร็ว รักษาก่อน

โรคต้อหิน คือโรคที่มีความเสื่อมของขั้วประสาทตาอย่างช้าๆ ทำให้สูญเสียการมองเห็น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตัวเองป่วยโรคนี้ เนื่องจากส่วนมากไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า เป็นสาเหตุหลักของภาวะตาบอดถาวร และหากเป็นแล้ว แม้ได้รับการรักษาก็ไม่สามารถกลับมามองเห็นได้ดังเดิม แต่สามารถควบคุมโรคไม่ให้ขั้วประสาทตาถูกทำลายไปเรื่อยๆได้ สำหรับกลไกการเกิดต้อหิน เกิดจาดความผิดปกติของน้ำหล่อเลี้ยงภายในลูกตา ซึ่งปกติจะถูกสร้างและมีทางระบายออก ในโรคต้อหินชนิดความดันตาสูง มีความผิดปกติของการระบายน้ำออก ทำให้ความดันตาสูงขึ้น (ปกติ คาความดันตาไม่ควรเกิน 21 มม.ปรอท) และไปกดทับเส้นประสาทตา ส่วนในโรคต้อหินชนิดความดันตาไม่สูง เชื่อว่า เส้นประสาทตามีการเสื่อมตัวลงอย่างช้าๆจากภาวะการไหลเวียนของเลือดไม่สมบูรณ์ มักพบในผู้ป่วยกลุ่มโรคเบาหวาน ความดัน ไมเกรน

อ่านเพิ่มเติม

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital