บทความสุขภาพ
Knowledge
พญ. อรทัย สุวจนกรณ์
กระจกตา (Cornea) เป็นโครงสร้างบางใสที่อยู่ด้านหน้าสุดของลูกตาทำหน้าที่หักเหแสงเข้าสู่ตาและช่วยในการโฟกัสภาพ หากกระจกตาเกิดความผิดปกติ ก็จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้
โรคกระจกตาโก่ง หรือ กระจกตาย้วย (Keratoconus) คือ ภาวะที่เกิดความผิดปกติของโครงสร้างกระจกตาทำให้กระจกตาอ่อนแอ บางตัวลงและโก่งนูนออกคล้ายรูปกรวย ส่งผลให้แสงที่ผ่านเข้าดวงตาเกิดการหักเหผิดปกติทำให้การมองเห็นลดลง โรคนี้มักเริ่มแสดงอาการในช่วงวัยรุ่น และสามารถมีการดำเนินโรคมากขึ้น ได้จนถึงอายุประมาณ 30-40 ปี
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจเกี่ยวข้อง ได้แก่
ต้องอาศัยเครื่องมือเฉพาะทางในการตรวจวินิจฉัยโดยจักษุแพทย์ ซึ่งรวมถึง
การรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค โดยมีแนวทางดังนี้
1. การใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์
2. การใส่วงแหวนในกระจกตา (Intracorneal Ring Segment – ICRS)
3. การรักษาด้วย Corneal Collagen Cross-Linking (CXL)
4. การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา (Corneal Transplantation)
โรคกระจกตาโก่ง มักเริ่มแสดงอาการในช่วงวัยรุ่น หรือบางรายอาจมีตั้งแต่วัยเด็กและค่อย ๆ แย่ลงเรื่อย ๆ ใช้เวลาหลายปี โดยมักเป็นที่ตาทั้งสองข้าง แต่ความรุนแรงอาจไม่เท่ากันได้
อาการที่พบ ได้แก่
กระจกตาโก่ง หรือกระจกตาย้วย (Keratoconus) หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาวได้ การรู้จักสัญญาณเตือนและเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน และรักษาคุณภาพการมองเห็นไว้ให้ได้นานที่สุด
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการสายตาสั้น สายตาเอียงมากขึ้น มองเห็นไม่ชัด หรือเปลี่ยนแว่นบ่อย ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (8)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital