บทความสุขภาพ

Knowledge

Metabolic Syndrome โรคที่มากับความอ้วน

Metabolic Syndrome เป็นศัพท์ทางการแพทย์ที่หมายถึง กลุ่มอาการของโรคที่เกี่ยวข้องและมีสาเหตุมาจากความอ้วนซึ่งมีมูลเหตุมาจากการเผาผลาญอาหารที่ผิดปกติ (Metabolism) ซึ่งนำไปสู่โรคไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และภาวะดื้ออินซูลินในที่สุดจะก่อให้เกิดโรคไขมันอุเตันหลอดเลือด (Atherosclorosis) ซึ่งนำพาไปสู่การเสียชีวิต สมัยก่อนทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า Syndrome X และ Insulin Resistane Syndrome แต่ในปัจจุบัน Metabolic Syndrome เป็นคำที่นิยมและสะท้อนถึงสาเหตุและอาการของโรคได้ดีที่สุด


อาการของโรค


Metabolic Syndrome จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ไตจะขับเกลือออกได้น้อยลงทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ไขมันไตรกลีเซอไรด์ที่สูงเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดแดงตีบ ทำให้ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ หรืออัมพาต และยังเพิ่มโอกาสให้เป็นโรคเบาหวานได้ง่าย


ความน่ากลัวของโรค


Metabolic Syndrome คือ เป็นโรคที่เป็นภัยเงียบ ไม่มีอาการบ่งชี้ล่วงหน้า คนไข้จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีอาการของหลอดเลือดอุดตันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่มีอาการของโรคร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น หลอดเลือดสมองอุดตัน อัมพฤกษ์ หัวใจวาย หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ตามแต่ตำแหน่งที่หลอดเลือดอุดตันสาเหตุของ Metabolic Syndrome มี 3 ประการได้แก่


  1. การรับประทานอาหารผิดสุขลักษณะ เช่น อาหารหวาน อาหารมัน และอาหารรสเค็มจัด กินอาหารที่มีกากใยน้อย
  2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลต่อการเร่งให้เกิดโรค เช่น ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด นอนน้อยนอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
  3. พันธุกรรม เชื้อชาติ และสภาพแวดล้อม

ข้อบ่งชี้การเกิดโรค


การบ่งชี้โอกาสในการเกิดโรค Metabolic Syndrome สามารถบ่งชี้ความเสี่ยงได้ก่อนเกิดโรค คือ อาการอ้วนลงพุงเกินระดับมาตราฐาน คือ มีเส้นรอบเอวมากกว่า 90 เซนติเมตรในผู้ชาย และ เกินกว่า 80 เซนติเมตรในเพศหญิง และมีข้อบ่งชี้ประกอบอย่างน้อย 2 ใน 4 อาการ ได้แก่


  • ความดันโลหิตมากกว่า 130/85 มม.ปรอท หรือผู้ที่ได้รับยาลดความดันโลหิต
  • ระดับไตรกลีเซอไรด์มากกว่า 150 mg% หรือผู้ที่เป็นไขมันสูงและได้รับยาลดไขมัน
  • ระดับน้ำตาลสูงกว่า 100 mg% หรือผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
  • หากมีเส้นรอบเอวที่เกินระดับมาตราฐานและมีข้อบ่งชี้มากกว่า 3 ประการจะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 2 เท่า และพบว่าผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงครบ 4 ประการจะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 3 เท่า และ การเกิดโรคเบาหวานเพิ่ม 24 เท่า

การดูแลป้องกันโรค Metabolic Syndrome


สามารถป้องกันตัวเอง และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ โดยการปรับพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคได้ โดยการปรับพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรค ซึ่งแบ่งได้ 4 ประการหลัก ได้แก่


  • การออกกำลังกายชนิดแอโรบิกวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน
  • การรับประทานอาหารสุขภาพ เช่น ลดอาหารประเภทไขมันลง ลดการรับประทานแป้งเหลือไม่เกิน 50% ของอาหารที่รับประทาน เน้นอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง ผัก ถั่ว ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และลดซอสปรุงรสต่างๆลง เป็นต้น
  • การลดน้ำหนัก จากการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ และสหรัฐอเมริกา พบว่า การลดน้ำหนักลง 5-10% ของน้ำหนักตัว จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้
  • การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์- งดบุหรี่

การรักษาทางการแพทย์


การรักษาทางการแพทย์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การรักษาอาการเบื้องต้น ไม่ให้เกิดโรคร้ายแรง และส่วนที่สองการรักษาเมื่อมีอาการป่วยเฉียบพลัน


ในการรักษาอาการเบื้องต้น สามารถแบ่งออกได้เป็น การรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 120/80 มม.ปรอท การรักษาไขมันในเลือด โดยการลดระดับไขมัน LDL ลดระดับ ไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มไขมัน HDL การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า 100 mg%


การรักษาเมื่อมีอาการป่วยเฉียบพลัน เช่น มีอาการเจ็บหน้าอก อาการแขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว เป็นต้น ควรรีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์โดยด่วน


เกร็ดความรู้


ผู้ป่วย Metabolic Syndrome ควรให้ความใส่ใจกับสภาวะการเกิดโรคร้ายต่อเนื่องเป็นพิเศษ และต้องพบแพทย์เป็นประจำเพื่อรับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทำประวัติคนไข้ให้เรียบร้อย โดยมีการเลือกโรงพยาบาลที่ทำการรักษาและควรพิจารณาองค์ประกอบในหลายด้าน เช่น มาตราฐานการรักษาพยาบาลที่ได้รับมาตราฐานสากล ความพร้อมของเครื่องมือในการรักษา รวมถึงทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่พร้อมให้การดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง


ข้อมูลโดย : อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Metabolic Syndrome โรงพยาบาลพระรามเก้า

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ไส้เลื่อน ใครก็เป็นได้ อันตรายที่ต้องรักษาก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน

ไส้เลื่อน คือภาวะที่ลำไส้เลื่อนหรือดันออกมาจากช่องท้อง สามารถสังเกตเห็นก้อนนูนออกมาตามขาหนีบ หน้าท้อง สะดือ หากไม่รักษาอาจเกิดอันตรายจากอาการแทรกซ้อนได้

รู้ทันต้อหิน โรคร้ายทำลายการมองเห็น รีบรักษาก่อนสายเกินแก้

ต้อหิน (Glaucoma) คือโรคตาที่มีสาเหตุจากขั้วประสาทตาเสื่อม ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวปวดตา กระจกตาขุ่น การมองเห็นแย่ลง และค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด

Hypothyroidism คืออะไร? รู้ทันสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

Hypothyroidism คือ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ ทำให้ระดับการเผาผลาญพลังงานลดลง และนำมาสู่การทำงานของระบบต่าง ๆ ผิดปกติ

รู้ทันอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ใครเวียนหัว บ้านหมุนบ่อยต้องระวัง

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นความผิดปกติของระบบน้ำในหูชั้นใน ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ เวียนหัว บ้านหมุน ทรงตัวไม่อยู่ และการได้ยินผิดปกติ

หายใจไม่อิ่ม หายใจลำบาก สัญญาณอันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม

หายใจไม่อิ่ม เป็นอาการที่หลายคนเผชิญ อาจมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่เต็มปอด หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อยง่าย บทนี้ความจะพาไปดูสาเหตุของอาการเหล่านี้กัน

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน อันตรายถึงชีวิตแบบไร้สัญญาณเตือน

หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจหยุดทำงานกะทันหัน ทำให้หมดสติและเสียชีวิตในไม่กี่นาที จึงเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับการรักษาทันที

อาการปวดเข่าคืออะไร มีวิธีป้องกันข้อเข่ามีอะไรบ้าง?

อาการปวดเข่าเป็นอาการที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ข้อเข่าเสื่อม และส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ การรู้ถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษาอาการปวดเข่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ

EST คืออะไร? การตรวจสมรรถภาพหัวใจ Exercise Stress Test

EST (Exercise Stress Test) คือ การออกกำลังกายตรวจสมรรถภาพหัวใจ เป็นวิธีวินิจฉัยสุขภาพหัวใจเพื่อทำการรักษาต่อไป EST มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร รู้สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาให้หายดี

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออาการที่พบได้บ่อยในคนที่ใช้แรงเยอะ ๆ หรือเคยไหล่หลุดมาก่อน มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไหล่หลุดได้บ้าง และจะต้องดูแลรักษาตัวอย่างไ

กระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? รู้จักอาการ สาเหตุ และการป้องกัน

โรคกระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? ชวนคุณมาทำความรู้จักกับอาการ สาเหตุ และการรักษา เพื่อป้องกันสุขภาพตัวเองไม่ให้กระดูกคอได้รับบาดเจ็บ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital