บทความสุขภาพ

Knowledge

กระดูกสันหลังคดมีลักษณะอย่างไร เมื่อไหร่ควรต้องผ่าตัด?

ผศ.นพ. พิทวัส ลีละพัฒนะ

กระดูกสันหลังคด เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นกับได้กับทุกช่วงวัยตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น หรือในวัยทำงานก็สามารถเกิดกระดูกสันหลังคดได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น มีผลต่อการทำงานของปอดและหัวใจ หรือทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้ ซึ่งโรคกระดูกสันหลังคดนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ และมีอาการหลาย ๆ อย่างที่เป็นอาการที่บ่งบอกว่ามีภาวะกระดูกสันหลังคด บทความนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดของโรคกระดูกสันหลังคด สาเหตุ การรักษา และอาการแบบไหนควรได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดกระดูกสันหลังคด รวมไปถึงท่านอนที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีกระดูกสันหลังคด


โรคกระดูกสันหลังคด (scoliosis) คืออะไร?


โรคกระดูกสันหลังคด (scoliosis) คือ ภาวะที่กระดูกสันหลังมีการผิดรูป โดยมีแนวกระดูกที่โค้งไปด้านข้างซ้ายหรือข้างขวาโดยจะโค้งช่วงเดียวเป็นรูปตัว “C” หรือมีแนวกระดูกโค้งสองช่วงเป็นรูปตัว “S” ก็ได้


โดยปกติโรคกระดูกสันหลังคดเป็นความผิดปกติของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อชนิดที่ไม่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้นความโค้งกระดูกสันหลังอาจเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ อวัยวะสำคัญ เช่น ปอด และหัวใจได้


กระดูกสันหลังคด เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?


โรคกระดูกสันหลังคดเกิดได้จาก 3 สาเหตุ ได้แก่


  1. กระดูกสันหลังคดแต่กำเนิด (congenital scoliosis) เกิดจากความผิดปกติในการสร้างและการแบ่งปล้องของกระดูกสันหลัง โดยจะเริ่มพบการคดของกระดูกสันหลังได้ตั้งแต่แรกเกิด
  2. กระดูกสันหลังคดจากประสาทและกล้ามเนื้อ (neuromuscular scoliosis) เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้แรงดึงของกล้ามเนื้อด้านข้างต่อกระดูกสันหลังสองฝั่งทำงานไม่เท่ากัน ให้เกิดการคดของกระดูกสันหลัง
  3. กระดูกสันหลังคดโดยไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic scoliosis) เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูกสันหลังผิดปกติ โดยมีการเติบโตแบบบิดหมุนทำให้เกิดการคดของกระดูกสันหลัง พบได้บ่อยในเด็กที่มีการเจริญเติบโตเข้าสู่วัยรุ่นหรือช่วงอายุ 10-18 ปี

อาการของกระดูกสันหลังคด


ผู้ที่มีภาวะกระดูกสันหลังคดอาจมีอาการหรือลักษณะท่าทางที่ผิดปกติที่สังเกตได้ เช่น


  1. ขณะยืนตรงระดับไหล่สูงไม่เท่ากัน
  2. ขณะยืนตรงความเว้าของเอวสองข้างด้านซ้ายและขวาไม่เท่ากัน
  3. ขณะยืนเดินลำตัวเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
  4. ขณะยืนหรือก้มหลังมีความนูนของหลังทางฝั่งซ้ายและขวาไม่เท่ากัน

หากมีอาการรุนแรงมากขึ้น นอกจากจะมีกระดูกสันหลังโค้งไปทางด้านใดด้านหนึ่งแล้ว อาจพบลักษณะคล้ายก้อนนูนไปทางด้านหลัง จากการที่มีการหมุนหรือบิดตัวของกระดูกสันหลังแล้วทำให้ซี่โครงด้านหนึ่งยื่นออกมากกว่าอีกด้านหนึ่ง


ภาวะแทรกซ้อนจากกระดูกสันหลังคด


แม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอาการไม่มาก แต่หากทิ้งไว้และไม่ได้รับการตรวจประเมินและรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น


  • ปอดและหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยที่มีกระดูกสันหลังคดรุนแรง ส่งผลให้กระดูกสันหลังไปกดเบียดปอดและหัวใจ ปอดและหัวใจจึงทำงานได้ไม่เต็มที่
  • ปัญหาเกี่ยวกับหลัง ผู้ใหญ่ที่มีปัญหากระดูกสันหลังคดตั้งแต่เด็ก มีแนวโน้มว่าจะมีอาการปวดหลังเรื้อรังมากกว่าคนปกติ
  • ปัญหาบุคลิกภาพ เมื่อกระดูกสันหลังคดมากขึ้น จนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าไหล่และสะโพกไม่เท่ากัน ซี่โครงนูนขึ้นมาผิดปกติ เอวและลำตัวเบี้ยว ซึ่งทำให้สมดุลตัวและรูปร่างโดยรวมผิดปกติไป ส่งผลต่อบุคลิกภาพได้
  • ปัญหากระดูกสันหลังหัก ถ้ามีความผิดปกติของกระดูกสันหลังคดเพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายจากการเดินและการทรงตัวที่ไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดการลื่นล้มก้นกระแทกพื้นและทำให้กระดูกหักได้ พบว่ามักเกิดในตำแหน่ง บริเวณรอยต่อระหว่างกระดูกสันหลังส่วนอกและเอว
  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ในรายที่รุนแรงอาจมีผลต่อระบบประสาทได้

กระดูกสันหลังคดแบบไหนควรไปพบแพทย์?


ส่วนใหญ่แล้วอาการกระดูกสันหลังคดจะเป็นอาการที่ค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ป่วยหรือบุคคลรอบข้างสังเกตเห็นมีลักษณะของภาวะกระดูกสันหลังคดแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจการทำงานของระบบประสาท รวมถึงการส่งตรวจภาพถ่ายเอกซเรย์กระดูกสันหลัง และอาจส่งตรวจด้วยวิธีพิเศษ เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) และ เอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล้กไฟฟ้า (MRI)


การรักษากระดูกสันหลังคด


การรักษากระดูกสันหลังคดทำได้หลายวิธี ทั้งวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด และวิธีที่ต้องผ่าตัดแก้ไขกระดูกสันหลังคด โดยจะเป็นการรักษาตามสาเหตุและอาการของผู้ป่วย ทั้งนี้ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยจะมีการรักษาดังนี้


การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด


  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม และทำกายภาพบำบัด แพทย์จะแนะนำวิธีนี้ในกรณีผู้ป่วยที่กระดูกสันหลังคดไม่มาก
  • การใส่เสื้อเกราะ เพื่อป้องกันการเพิ่มของมุมคด จะใช้ในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้
    • ผู้ป่วยกระดูสันหลังคดชนิดไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic scoliosis)
    • ผู้ป่วยอยู่ในวัยเจริญเติบโต คือ ในเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนมาน้อยกว่า 2 ปี หรือในกลุ่มเด็กที่ยังไม่มีลักษณะของร่างกายที่แสดงถึงการเจริญเติบโตที่เต็มที่ เช่น การมีเต้านม มีขนตามรักแร้และอวัยวะเพศ
    • ผู้ป่วยที่มีมุมคดของกระดูกสันหลังมากกว่า 30 องศา

ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยการใส่เสื้อเกราะควรต้องใส่เสื้อเกราะให้ได้อย่างน้อย 16 ถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดจากการรักษา


ผู้ป่วยในกลุ่มนี้แพทย์จะต้องนัดตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องทุก 6 – 12 เดือน ซึ่งแพทย์จะพิจารณาให้การรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นราย ๆ ไป


การผ่าตัดกระดูกสันหลังคด


เป็นการใช้โลหะดามกระดูกสันหลังหรือที่เรียกว่าผ่าตัดกระดูกสันหลังใส่เหล็ก เพื่อเป็นการจัดแนวกระดูกสันหลังให้ตรงขึ้นและเชื่อมข้อกระดูกสันหลังให้ติดแข็ง


โดยหลังการผ่าตัดควรงดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง เช่น การก้มตัว การบิดตัว เป็นเวลา 3 – 6 เดือน แล้วจึงเริ่มออกกำลังกายที่ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น เดิน ว่ายน้ำ วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยานอยู่กับที่ เป็นต้น


เมื่อไหร่ควรผ่าตัดกระดูกสันหลังคด?


แพทย์อาจจะพิจารณาการผ่าตัดกระดูกสันหลังคด ในผู้ป่วยกลุ่มต่อไปนี้


  1. มีมุมคดของกระดูกสันหลังส่วนอกมากกว่า 50 ถึง 55 องศา
  2. มีมุมคดของกระดูกสันหลังส่วนเอวมากกว่า 40 องศา
  3. รักษาด้วยการใส่เสื้อเกราะป้องกันการเพิ่มของมุมคดแล้วไม่ได้ผล
  4. มีอาการกระดูกสันหลังคดมากขึ้นและกระดูกสันหลังยังเจริญเติบโตได้อีกมาก
  5. ให้การรักษาด้วยวิธีการอื่นแล้วไม่ได้ช่วยชะลอความรุนแรงของโรค
  6. ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์เมื่อมีกระดูกสันหลังคดอย่างรุนแรงตั้งแต่แรก
  7. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดอย่างรุนแรง
  8. กระดูกสันหลังคดและมีผลกระทบต่อระบบประสาท

ท่านอนสำหรับผู้มีปัญหากระดูกสันหลังคด


คนที่มีกระดูกสันหลังคดสามารถนอนได้ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่อาจหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้หายใจไม่สะดวก หรือปวดคอได้


ที่นอนควรเป็นที่นอนที่เรียบสม่ำเสมอ ไม่มีรอยยุบหรือนูน เป็นที่นอนเนื้อแน่น ที่ไม่นุ่มยวบ หรือแข็งเกินไป หมอนควรเป็นหมอนเนื้อแน่น รองรับศีรษะและคอได้พอดี ไม่มีช่องว่างระหว่างหมอนและคอ



สรุป


กระดูกสันหลังคด คือ ภาวะกระดูกสันหลังผิดรูปชนิดหนึ่ง ส่วนมากเกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลังรวมถึงความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ซึ่งจะพบได้มากในช่วงวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 9 ถึง 10 ปีขึ้นไป ซึ่งตัวผู้ป่วยเอง คนในครอบครัวและคนรอบข้าง สามารถสังเกตอาการและลักษณะต้องสงสัยว่ามีภาวะกระดูกสันหลังคดได้จากอาการที่กล่าวไปข้างต้น และเมื่อพบอาการของกระดูกสันหลังคด ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุของกระดูกสันหลังคด และรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังคดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อบุคลิกภาพและการทำงานของปอดและหัวใจ หรืออาจทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง หรือหากอาการรุนแรง อาจส่งผลถึงระบบประสาทได้


ข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์กระดูกสันหลัง (Advanced Spine Center) รพ.พระรามเก้า

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

ผศ.นพ. พิทวัส  ลีละพัฒนะ

ผศ.นพ. พิทวัส ลีละพัฒนะ

ศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

หมอนรองกระดูกเสื่อม ต้นเหตุอาการปวดหลังเรื้อรังที่อายุน้อยก็พบได้

หมอนรองกระดูกเสื่อมคือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกจนไม่สามารถทำหน้าที่ลดแรงกระแทกได้ ทำให้กระดูกรอบ ๆ สึกและอักเสบขึ้นจนเกิดอาการปวดเรื้อรัง

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา อีกหนึ่งสัญญาณเส้นประสาทถูกกดทับ

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา (Sciatica pain) เกิดจากการถูกกดทับที่เส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดจากช่วงเอวหรือสะโพกร้าวลงขาด้านหลัง บางรายอาจร้าวไปถึงน่องและเท้าได้

ปวดข้อเท้าเกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรไม่ให้เจ็บเรื้อรัง?

ทำความเข้าใจกับอาการปวดข้อเท้าที่ควรรู้ อาการแบบไหนที่ควรเข้าปรึกษาแพทย์? พร้อมเรียนรู้สาเหตุของอาการ วิธีรักษา ตลอดจนการป้องกันไม่ให้เจ็บข้อเท้าเรื้อรัง

อาการปวดเข่าคืออะไร มีวิธีป้องกันข้อเข่ามีอะไรบ้าง?

อาการปวดเข่าเป็นอาการที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ข้อเข่าเสื่อม และส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ การรู้ถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษาอาการปวดเข่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร รู้สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาให้หายดี

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออาการที่พบได้บ่อยในคนที่ใช้แรงเยอะ ๆ หรือเคยไหล่หลุดมาก่อน มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไหล่หลุดได้บ้าง และจะต้องดูแลรักษาตัวอย่างไ

กระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? รู้จักอาการ สาเหตุ และการป้องกัน

โรคกระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? ชวนคุณมาทำความรู้จักกับอาการ สาเหตุ และการรักษา เพื่อป้องกันสุขภาพตัวเองไม่ให้กระดูกคอได้รับบาดเจ็บ

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน ทางเลือกรักษาข้อเข่าเสื่อม แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน หรือ UKA เป็นการผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยเอาผิวข้อเฉพาะส่วนที่สึกหรอออก และเก็บผิวข้อเข่าส่วนที่ยังมีสภาพดีไว้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ในการกลับไปใช้ข้อเข่าได้เหมือนธรรมชาติ

ผ่าตัดเข่าเสื่อมใส่ข้อเข่าเทียม หนทางเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กลับมาแอคทีฟได้อีกครั้ง

การผ่าตัดเข่าเสื่อม ใส่ข้อเข่าเทียม เป็นวิธีรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการตัดผิวข้อที่เสื่อมออกแล้วแทนด้วยโลหะสังเคราะห์ ให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้นอีกครั้ง

หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด นวัตกรรมการแพทย์ ช่วยเพิ่มความแม่นยำ ฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงการผ่าตัดซ้ำ

หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น ด้วยความสามารถในการช่วยศัลยแพทย์ให้ทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ และลดระยะเวลาพักฟื้นของผู้ป่วย ซึ่งการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมที่ผู้ป่วยส่วนมากมักเป็นผู้สูงอายุ

เอ็นไขว้หน้าขาด เพิ่มความเสี่ยงเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร

เอ็นไขว้หน้าขาด (ACL) เป็นอาการบาดเจ็บที่พบบ่อยในผู้ที่เล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะหมุนบิดข้อเข่า ทำให้ข้อเข่าขาดความมั่นคง เพิ่มความเสี่ยงเข่าเสื่อมในอนาคต

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital