Self-Monitoring of Blood Glucose (SMBG)
คือ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง โดยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วและเครื่องตรวจระดับน้ำตาล (glucometer) ทำได้สะดวกที่บ้าน
ประโยชน์ของการตรวจ SMBG
- รู้ระดับน้ำตาลในเลือดทันที เพื่อใช้ตรวจสอบเมื่อมีอาการผิดปกติ สงสัยภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือน้ำตาลในเลือดสูง เมื่อมีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน ก่อนและหลังการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การขับรถทางไกล และก่อนฉีดยาอินซูลิน เป็นต้น
- ช่วยลดอาการฉุกเฉินของโรคเบาหวาน ได้แก่ น้ำตาลในเลือดต่ำ และน้ำตาลในเลือดสูง
- ช่วยลดน้ำตาลสะสม โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่ง
- ช่วยลดโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน เช่น เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงไต เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม โดยเฉพาะในเบาหวานชนิดที่หนึ่ง
- ช่วยในการปรับพฤติกรรม (lifestyle modification) เลือกรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และช่วยปรับยาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง
ใครบ้างควรตรวจ SMBG
- ผู้ที่ใช้ยาฉีดอินซูลิน ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่ง ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สองที่ฉีดอินซูลินมากกว่า 2 ครั้งต่อวัน
- เป็นเบาหวานขณะตั้งครภ์
- เป็นโรคเบาหวาน และมีความตั้งใจอยากคุมน้ำตาลให้ดีขึ้น เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน
- มีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำบ่อย เช่น เหงื่อแตก ใจสั่น หน้ามืด ตาลาย หิว โหยของหวานนอกมื้ออาหาร หรือช่วงกลางคืน
วิธีเลือกเครื่องตรวจระดับน้ำตาล (glucometer)
ควรเลือกที่มีการรับรองจาก US FDA หรือองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอมเริกา หรือมาตรฐาน ISO โดยตรวจสอบได้ที่ https://consumerguide.diabetes.org/collections/meters เครื่องควรมีความคลาดเคลื่อนจากผลตรวจในห้องปฎิบัติการน้อยกว่าร้อยละ 15
สิ่งรบกวนการตรวจ ได้แก่ การรับประทานยาวิตามินซีในขนาดสูง หรือภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ
แบบแผนในการตรวจ SMBG และค่าเป้าหมาย
แตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย การวางแผนที่ดีทำให้ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการตรวจ ยกตัวอย่าง เช่น
- ตรวจก่อนฉีดยาอินซูลินในผู้ป่วยที่ฉีดอินซูลินเพื่อปรับปริมาณยาฉีด โดยค่าน้ำตาลเป้าหมายก่อนอาหารโดยทั่วไปจะเท่ากับ 80-130 มก.ต่อดล. เพื่อให้ได้ค่าน้ำตาลสะสม (HbA1C) 6.5 -7% โดยมีการศึกษาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่งพบว่าเมื่อตรวจบ่อยขึ้นหลาย ๆ ครั้งต่อวัน น้ำตาลสะสมจะลดลงตามจำนวนครั้งของการตรวจ
- ตรวจหลังรับประทานอาหาร น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงสุด 1-2 ชั่วโมงหลังอาหาร เพื่อเรียนรู้ผลของอาหารต่อระดับน้ำตาลในเลือด ค่าเป้าหมายทั่วไป น้อยกว่า 180 มก.ต่อดล. เพื่อให้ได้ค่าน้ำตาลสะสม HbAC 6.5-7%
- ตรวจก่อนนอนในผู้ป่วยที่ฉีดยาอินซูลิน เพื่อใช้ปรับยาและป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ตรวจเมื่อมีอาการสงสัยน้ำตาลในเลือดต่ำ เพราะอาการเกิดจากสารอะดรีนาลีนหลั่งซึ่งมีหลายสาเหตุ บางครั้งการดื่มของหวานชื่นใจทำให้อาการดีขึ้น ทั้งที่ไม่ได้มีน้ำตาลในเลือดต่ำจริงก็ได้ หรือในทางกลับกันบางคนน้ำตาลในเลือดต่ำเหลือ 65 มก.ต่อดล.แต่ไม่มีอาการ เพราะน้ำตาลต่ำบ่อย จนร่างกายปรับตัว ไม่มีอาการเตือน ซึ่งอันตรายกว่า
- ตรวจเมื่อมีอาการน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ ปัสสาวะบ่อย คอแห้ง หิวน้ำ เพลีย ไม่มีแรง เป็นต้น
- ตรวจเมื่อเจ็บป่วยเฉียบพลัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง อาจต่ำหรือสูงกว่าปกติได้
แพทย์จะกำหนดแบบแผนในการเจาะเลือดที่ชัดเจน เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ไม่มีอคติ (bias) จากการสุ่มเจาะ และการใช้เครื่องรุ่นที่ส่งข้อมูลอิเลคทรอนิกส์ได้ จะช่วยลดความคลาดเคลื่อนการจากบันทึกข้อมูลไม่ตรงตามความจริง และการสรุปผลที่ดูง่าย ชัดเจน เข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจรูปแบบการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในแต่ละช่วงเวลาของวันได้ดีขึ้น เพื่อปรับพฤติกรรม อาหาร และการออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม
แพทย์จะกำหนดเป้าหมายที่แตกต่างกันสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป เช่น รับประทานอาหารกลุ่มแป้งเพิ่มขึ้น หรือปรับยา เป็นต้น
การสรุปผลการตรวจ SMBG ที่ดีจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเอง ปรับพฤติกรรม และช่วยให้แพทย์ปรับการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดอาการแทรกซ้อนทั้งฉุกเฉินเฉียบพลัน และโรคแทรกซ้อนเรื้อรังระยะยาวของโรคเบาหวานได้