บทความสุขภาพ

Knowledge

วัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap)

พญ. จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์

โรคบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายจนถึงเสียชีวิตได้ การได้รับวัคซีนจะเป็นการป้องกันโรค บาดทะยัก คอตีบ และไอกรน ที่ได้ผลดีและป้องกันการระบาดของโรคได้


โรคบาดทะยัก


โรคบาดทะยัก ติดต่อได้ทางบาดแผลที่ปนเปื้อนเชื้อที่มาจากสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน ฝุ่น ตะปู เช่น ถูกตะปูตำ เสี้ยนตำ สัตว์กัด ซึ่งก่อให้เกิดอาการทางระบบประสาท ได้แก่ กล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ลำคอ ใบหน้าเกร็ง ต่อมากล้ามเนื้อจะเกร็งทั่วร่างกาย หายใจลำบากและเสียชีวิตได้


อุบัติการณ์ของโรคพบมากในผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนในวัยเด็ก (เกิดก่อนปีที่มีการให้เป็นวัคซีนพื้นฐาน) หรือเคยได้วัคซีนแล้วแต่ภูมิคุ้มกันลดลง


โรคคอตีบ


คอตีบ เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดลำคออักเสบ เกิดเป็นเยื่อสีขาวเกาะบริเวณทอนซิล คอหอย เพดานปาก และอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เสียชีวิตได้


อุบัติการณ์ของคอตีบพบมากในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนในวัยเด็กลดลง ข้อมูลการสำรวจภูมิคุ้มกันคอตีบในประชากรไทยพบว่า กลุ่มอายุ 20-50 ปี มีภูมิคุ้มกันต่อคอตีบน้อย ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการระบาด สอดคล้องกับข้อมูลการระบาดของคอตีบในปี 2555 ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มอายุ 15-44 ปี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนคอตีบกระตุ้นเพื่อป้องกันการระบาด


โรคไอกรน


ไอกรน เป็นโรคติดต่อทางระบบเดินหายใจ อาการของโรคนี้คือ ไอมาก ไอเป็นชุด ๆ ซึ่งอาการเริ่มต้นจะคล้ายกับหวัด มีไข้ต่ำ ๆ จาม มีน้ำมูก จากนั้นจะมีการไอ ซึ่งอาการไอมักต่อเนื่องเกิน 3 สัปดาห์ ผู้ใหญ่ส่วนมากอาการไม่รุนแรงแต่อาจไอมากจนรบกวนการนอน เส้นเลือดในตาขาวแตกหรือปัสสาวะเล็ดได้


โรคนี้จะรุนแรงในเด็กทารกต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งจะมีอาการไอมาก ระบบหายใจล้มเหลว ปอด อักเสบและเสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่มักติดมาจากผู้ใหญ่ในบ้าน และภูมิคุ้มกันของไอกรนมักจะอยู่ได้ไม่นาน แม้จะเคยฉีดวัคซีนหรือติดเชื้อมาแล้ว โดยพบว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุชาวไทยมีภูมิคุ้มกันต่อไอกรนเพียง 50% เท่านั้น


วัคซีน บาดทะยัก คอตีบ ไอกรน เข็มรวม (DTP)


ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีน บาดทะยัก คอตีบ ไอกรน เข็มรวม (DTP) ให้เป็นวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กทารกตั้งแต่ปี 2520 ดังนั้นผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนหน้านี้จะยังไม่เคยได้รับวัคซีนในวัยเด็ก อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ที่เกิดหลังปี 2520 บางราย ก็อาจได้รับวัคซีนไม่ครบอย่างน้อย 3 เข็มในวัยเด็ก


ปัจจุบันวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน สำหรับเด็กอายุ 11 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่มี 2 ชนิด คือ วัคซีนรวมบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) และ วัคซีนรวมบาดทะยัก คอตีบ (Td)


คำแนะนำในการฉีดวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap)


  • ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุที่ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน ควรฉีดวัคซีนที่มีส่วนประกอบของคอตีบและบาดทะยัก อย่างน้อย 3 เข็ม โดย
    • เข็มที่ 1 ห่างจาก เข็มที่ 2 อย่างน้อย 1 เดือน
    • เข็มที่ 2 ห่างจาก เข็มที่ 3 อย่างน้อย 6 เดือน
  • โดยเข็มแรกแนะนำฉีดวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) เข็มที่ 2 และ เข็มที่ 3 อาจฉีดเป็น บาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) หรือ บาดทะยัก คอตีบ (Td) ก็ได้
  • วัยรุ่นอายุ 11 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ การฉีดกระตุ้นแนะนำให้ฉีดวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) อย่างน้อย 1 คร้ังในช่วงชีวิต หลังจากนั้นฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) หรือ วัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ (Td) ทุก 10 ปี
  • ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีทารกอายุน้อยกว่า 1 ปีในบ้าน อาจฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) เพื่อป้องกันโรคไอกรนที่อาจแพร่สู่ทารก หากไม่เคยฉีดวัคซีน Tdap มาก่อน
  • หากมีบาดแผลจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนบาดทะยักกระตุ้น (Td) ถ้าเป็นแผลความเสี่ยงสูง เช่น แผลที่ปนเปื้อนดิน ทราย หรือแผลโดนสัตว์กัด ต้องฉีดกระตุ้นหากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายเกิน 5 ปี และถ้าเป็นแผลความเสี่ยงต่ำให้ฉีดกระตุ้นหากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายเกิน 10 ปี

dtp-vaccine-1.jpg

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์

พญ. จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนให้หายดี ลดเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สัญญาณเตือนที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

ต่อมลูกหมากโต (BHP) อาการเป็นอย่างไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัดและกระทบต่อคุณภาพชีวิต มักพบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนอายุ 50 ปีขึ้นไป

รู้ทันอาการริดสีดวงทวาร กับพฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน ทางเลือกรักษาข้อเข่าเสื่อม แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน หรือ UKA เป็นการผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยเอาผิวข้อเฉพาะส่วนที่สึกหรอออก และเก็บผิวข้อเข่าส่วนที่ยังมีสภาพดีไว้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ในการกลับไปใช้ข้อเข่าได้เหมือนธรรมชาติ

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital