บทความสุขภาพ

Knowledge

ลูกชายตัวเหลืองแล้วส่องไฟแล้ว หายเป็นปกติแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัย

พญ. เดือนเพ็ญ วันทนาศิริ

คำถาม: เพิ่งคลอดบุตรได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ช่วงที่อยู่ ร.พ. ลูกชายตัวเหลือง คุณหมอบอกว่าต้องส่องไฟไม่มีอันตราย ส่องไฟแล้วก็จะหายเหลือง ตอนนี้ลูกชายหายเป็นปกติแล้ว แต่ยังสงสัยว่าไฟที่ส่องทำให้ลูกหายตัวเหลืองได้อย่างไร คุณหมอยังบอกด้วยว่ากลับบ้านให้นำลูกมาโดนแดดอ่อน ๆ ตอนเช้า ก็จะช่วยให้หายเหลืองได้ดีขึ้น ไม่ทราบว่าไฟที่ ร.พ. ส่องกับแสงแดด เหมือนหรือต่างกันตรงไหนค่ะ


คำตอบ: โดย แพทย์หญิงเดือนเพ็ญ วันทนาศิริ


ภาวะตัวเหลืองหลังคลอดเกิดจาก


ลูกชายมีภาวะตัวเหลืองหลังคลอดจึงเกิดจากสารที่เรียกว่า บิลิรูบิน ไปเกาะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เห็นผิวหนัง ตา มีสีเหลือง ปกติร่างกายจะมีการสร้างสารบิลิรูบินและทำลายขับถ่ายสารออกไป เด็กปกติจะมีตัวเหลืองจาง ๆ เมื่ออายุ 3 – 4 วัน และหายไปเมื่ออายุประมาณ 7 วัน ในภาวะบางอย่างร่างกายจะมีการสร้างสารนี้มากขึ้น หรืออวัยวะที่ทำลายและขับถ่ายสารนี้ไม่ทำงาน ก็จะเกิดทำให้มีตัวเหลืองขึ้น ภาวะเหล่านี้ เช่น หมู่เลือดของมารดาและทารกไม่เหมือนกัน เม็ดเลือดแดงผิดปกติ การติดเชื้อและท่อน้ำดีอุดตัน เมื่อสารบิลิรูบินมากผิดปกติก็จะไปเกาะตามอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งสมองทำให้มีการทำงานผิดปกติ เราจึงต้องรีบรักษาภาวะตัวเหลืองที่ผิดปกติ โดยการกำจัดและหาสาเหตุที่ทำให้เกิดตัวเหลือง


การรักษาภาวะตัวเหลืองหลอดคลอด


การรักษามี 2 วิธี คือ


  • การฉายแสง แสงจะทำปฏิกิริยากับสารบิลิรูบิน ทำให้เกิดการทำลายและขับถ่ายออกจากร่างกาย เด็กจะถูกปิดตาเพื่อป้องกันไม่ให้แสงทำอันตรายต่อตา ถอดเสื้อผ้า และนำไปนอนใต้เครื่องฉายแสง
  • การเปลี่ยนถ่ายเลือด จะทำกรณีเด็กตัวเหลืองมากไม่สามารถทำให้ลดลงโดยการฉายแสงได้ทัน ส่วนแสงแดดก็สามารถทำให้ตัวเหลืองลดลงได้ กรณีเด็กตัวเหลืองไม่มาก เนื่องจากทำได้ลำบากต้องถอดเสื้อผ้าและนำไปผึ่งแดดช่วงแดดอ่อน เพราะถ้าแดดจ้าก็จะร้อนเกินไป ถ้าอากาศหนาวการถอดเสื้อผ้าก็จะหนาวเกินไป

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

รู้จักโรคภูมิแพ้ ก่อนโรคร้ายจะรู้จักคุณ ตอนที่1

โรคภูมิแพ้ไม่ใช่โรคร้ายแรง เพราะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้บรรเทาลงจนคุณรู้สึกดีขึ้นเหมือนเป็นปกติได้ หากได้รับการรักษาและมีการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง โรคภูมิแพ้ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ โรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล และโรคภูมิแพ้ชนิดตลอดปี อาการที่มักพบอยู่เสมอในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ได้แก่ จาม คัดจมูก ตา หู และลำคอ มีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาบ่อยๆ รู้สึกคัดจมูก ตาแดง และมีน้ำตาไหล นอกจากนี้ยังอาจมีอาการเจ็บคอ ไอ อ่อนเพลีย ปวดท้อง ปวดศีรษะ หรือปวดบริเวณคาง และหน้าผากร่วมด้วย หากคุณมีอาการต่างๆ เหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย และกำหนดวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ที่เหมาะที่สุด เพราะหากปล่อยไว้เรื้อรังอาจกลายเป็น โรคไซนัส และโพรงหลังจมูกอักเสบได้

อ่านเพิ่มเติม

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital