บทความสุขภาพ

Knowledge

กระดูกพรุน สาเหตุของกระดูกเปราะ หักง่าย ภัยเงียบของผู้สูงวัย

โรคกระดูกพรุนเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้กระดูกเปราะบาง หักง่าย มักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถพบได้ในวัยอื่นด้วยเช่นกัน และด้วยโรคกระดูกพรุนเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอย่างหนึ่งของโลก มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติจึงได้กำหนดให้วันที่ 20 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันกระดูกพรุนโลก เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการดูแล และป้องกันโรคกระดูกพรุน


บทความนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะกระดูกพรุน ครอบคลุมสาเหตุ อาการ กลุ่มเสี่ยง การวินิจฉัย แนวทางรักษา และการป้องกัน รวมทั้งการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน


เข้าใจโรคกระดูกพรุน


โรคกระดูกพรุน (osteoporosis) คือ ภาวะที่ความหนาแน่นและมวลกระดูกลดน้อยลง ส่งผลให้กระดูกมีความแข็งแรงลดลง กระดูกเปราะ และผิดรูป ระยะดำเนินของโรคใช้เวลายาวนานหลายปี พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เป็นโรคที่ไม่แสดงอาการ จึงไม่สามารถสังเกตหรือรู้สึกได้จนกว่าจะเกิดกระดูกหัก หรือเกิดการค่อมโค้งผิดรูปของกระดูกสันหลังเนื่องจากกระดูกทรุดและตัวเตี้ยลงอย่างชัดเจน


สาเหตุโรคกระดูกพรุน


กระดูกพรุนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่


  1. เพศ: เพศหญิงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชาย เพราะผู้หญิงมีความหนาแน่นและมวลกระดูกน้อยกว่าเพศชาย และมีโอกาสที่จะสูญเสียแคลเซียมในกระดูกมากกว่าเพศชาย อย่างไรก็ตามผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ก็มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนเช่นเดียวกัน
  2. อายุ: โรคกระดูกพรุนพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เนื่องจาก กระบวนการสร้างเนื้อกระดูกทำได้ช้าลง แต่ในขณะเดียวกันกระบวนการสลายกระดูกกลับเร็วขึ้น จึงส่งผลให้เสียสมดุลระหว่างการสร้างและการสลายเนื้อกระดูก
  3. น้ำหนักน้อยหรือผอม: ผู้ที่มีน้ำหนักน้อยหรือมีภาวะผอมจะมีกระดูกเล็กและบาง จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้มากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ
  4. ชื้อชาติ: ผู้หญิงเอเชียและผู้หญิงชนชาติผิวขาวมีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้หญิงอัฟริกา อเมริกา และเม็กซิกัน เนื่องจากกระดูกมีความแข็งแรงน้อยกว่า
  5. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนทำให้เสียสมดุลระหว่างการสร้างและการสลายเนื้อกระดูก
  6. ยา: การใช้ยาบางชนิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้สูญเสียมวลกระดูกและทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น ยากลุ่มฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ ซึ่งใช้รักษาโรคหอบและโรครูมาตอยด์ กลุ่มยากันชัก ยารักษาโรคมะเร็ง ยายับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร (proton pump inhibitor)
  7. อาหาร: การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีต่ำ หรือรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงมากหรือต่ำมากเกินไป ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน
  8. ขาดการออกกำลังกาย: การไม่เคลื่อนไหวหรือไม่ออกกำลังกายเพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียมวลกระดูก
  9. ดื่มแอลกอฮอลล์: การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนเนื่องจากไปลดประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย ทำให้กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น
  10. การสูบบุหรี่: มีงานวิจัยพบว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน

อาการของโรคกระดูกพรุน


โรคกระดูกพรุนเป็นภัยเงียบที่ไม่มีอาการแสดงใด ๆ ที่ชี้ชัดว่ามีภาวะกระดูกพรุน จนกว่าจะเกิดกระดูกหักซึ่งอาจเกิดแบบไม่ทราบสาเหตุ หรือเกิดจากการยืด เหยียดผิดท่า มีการพลัดตกหกล้ม เป็นต้น อย่างไรก็ตามเราสามารถสังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นดังนี้


  • ส่วนสูงลดลงทำให้ตัวเตี้ยลง
  • หลังค่อม หลังคด
  • ปวดเอว ปวดหลัง ปวดกระดูกเรื้อรัง
  • กระดูกหักง่าย

ถ้าพบอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการตรวจมวลกระดูก และตรวจวินิจฉัย โดยเร็วที่สุด


การรักษาโรคกระดูกพรุน


การรักษาโรคกระดูกพรุนจะเน้นการปรับพฤติกรรมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุน โดยกระตุ้นและส่งเสริมให้รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ควบคู่ไปกับการรับประทานวิตามินดี เพื่อช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมดีขึ้น ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายเป็นประจำ งดการดื่มแอลกอฮอลล์ และสูบบุหรี่


กรณีที่ตรวจพบว่าเป็นโรคกระดูกพรุนอาจต้องรักษาโดยการใช้ยาควบคู่กับการปรับพฤติกรรม เพื่อป้องกันกระดูกหัก ยาที่ใช้รักษาโรคกระดูกพรุนได้แก่


  1. กลุ่มยาที่ยับยั้งการสลายกระดูก เช่น estrogen agonist, calcitonin, bisphosphonates และ denosumab
  2. กลุ่มยาส่งเสริมการสร้างกระดูก เช่น teriparatide, abaloparatide และ romosozumab

โรคกระดูกพรุน ออกกำลังกายอย่างไร?


เมื่อพบว่าเป็นโรคกระดูกพรุนก็สามารถออกกำลังกายได้เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ส่งเสริมให้ร่างกายมีความสมดุล ลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหัก และบรรเทาอาการปวดเมื่อย แต่ต้องมั่นใจว่ารูปแบบการออกกำลังกายนั้นเหมาะสม และปลอดภัย


ก่อนออกกำลังกายอาจต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อทำการทดสอบความหนาแน่นของมวลกระดูก (bone density) และการประเมินสมรรถภาพของร่างกาย (fitness) จากนั้นจึงเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสม ดังนี้


  • การออกกำลังกายโดยใช้แรงต้านในการบริหารกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงมากขึ้น (strength training exercise) เช่น ใช้ยางยืดออกกำลังกาย (resistant band) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหลังส่วนบนทำให้มีการจัดระเบียบร่างกายที่เหมาะสม และช่วยรักษามวลกระดูก
  • การออกกำลังกายโดยใช้เท้าและขา หรือมือและแขน ในการรับน้ำหนักของตัวเอง (weight-bearing aerobic activities) เช่น การเดิน การวิ่ง และการเต้นแอโรบิกชนิดที่ไม่หนักเกินไป ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ส่งผลให้กระดูกขา กระดูกสะโพก และกระดูกสันหลังช่วงเอวแข็งแรง นอกจากนั้นยังเป็นการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดด้วย
  • การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น (flexibility exercise) คือการออกกำลังกายที่มีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น โดยควรยืดเหยียดแบบช้า ๆ ช่วยลดการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวร่างกายและช่วยส่งเสริมการเคลื่อนที่ของข้อต่อต่าง ๆ
  • การออกกำลังเสริมกายด้วยการทรงตัว (ฺbalance exercises) เช่น การรำไทเก๊ก เป็นการฝึกการประสานงานของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ช่วยเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ และช่วยในเรื่องการทรงตัว

การป้องกันโรคกระดูกพรุน


  • รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ มีโปรตีน และแคลเซียมเพียงพอ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีควบคู่กับอาหารที่มีแคลเซียมเพื่อส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น
  • รับแดดในช่วงเช้าประมาณ 15 นาที เพื่อกระตุ้นการสร้างวิตามินดี และรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น น้ำมันตับปลา ปลาที่มีไขมันสูง (ปลาแซลมอน) นม ไข่ เห็ด เมล็ดธัญพืชและน้ำผลไม้
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในช่วงมาตรฐาน โดยค่าดัชนีมวลกาย (body mass index) ควรอยู่ในช่วง 18.5 – 22.90
  • ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์

สรุป


โรคกระดูกพรุนเป็นภัยเงียบที่พบได้บ่อยในวัยสูงอายุ เป็นโรคที่ไม่แสดงอาการชัดเจน แต่จะพบสัญญาณเตือนก็ต่อเมื่อมีภาวะกระดูกพรุนแล้ว สัญญาณเตือนดังกล่าว เช่น กระดูกหัก หลังค่อม ส่วนสูงลดลง ดังนั้นเพื่อลดอุบัติการณ์การเกิดโรคกระดูกพรุนและรักษาไว้ซึ่งคุณภาพชีวิตของคนที่คุณรัก ควรส่งเสริมให้มีการปรับพฤติกรรมให้ลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (1)

ดูทั้งหมด

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงกระดูกพรุน (Premium Bone Density Screening)

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงกระดูกพรุน (Premium Bone Density Screening)

ตรวจคัดกรองความเสี่ยงกระดูกพรุน (Premium Bone Density Screening)

฿ 3,000

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ผ่าตัดนิ้วล็อกมีกี่แบบ เลือกรักษาวิธีไหนที่เหมาะกับอาการของคุณ

การผ่าตัดนิ้วล็อกถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ช่วยรักษาอาการนิ้วล็อกให้หายได้ภายในเวลา 15-20 นาทีเท่านั้น และสามารถกลับไปพักที่บ้านต่อได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

เข่าบวม งอเข่าไม่ได้ สัญญาณเตือนโรคข้อเข่าเสื่อมที่ต้องระวัง!

อาการเข่าบวมเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย ตั้งแต่นักกีฬาไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อุบัติเหตุ ข้อต่ออักเสบ หรือโรคเรื้อรังอย่างข้อเข่าเสื่อม

Shockwave เทคโนโลยีกายภาพบำบัด รักษาอาการปวดเรื้อรัง

การทำกายภาพบำบัดด้วย Shockwave ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเรื้อรังด้วยการใช้คลื่นกระแทกให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่

กายภาพบำบัด ศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

กายภาพบำบัด (Physical Therapy) ศาสตร์ที่ช่วยลดอาการปวด บาดเจ็บ และฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงปกติ ด้วยการบริหารร่วมกับการใช้เครื่องมือบำบัด

ผ่าตัดกระดูกสันหลังมีกี่แบบ เสี่ยงหรือไม่ เหมาะกับใครบ้าง

ผ่าตัดกระดูกสันหลัง เป็นวิธีการรักษาโรคกระดูกสันหลังที่ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด ใช้ในกรณีกระดูกสันหลังเสื่อม ทับเส้นประสาท โครงสร้างกระดูกสันหลังผิดรูป ฯลฯ

หมอนรองกระดูกเสื่อม ต้นเหตุอาการปวดหลังเรื้อรังที่อายุน้อยก็พบได้

หมอนรองกระดูกเสื่อมคือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกจนไม่สามารถทำหน้าที่ลดแรงกระแทกได้ ทำให้กระดูกรอบ ๆ สึกและอักเสบขึ้นจนเกิดอาการปวดเรื้อรัง

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา อีกหนึ่งสัญญาณเส้นประสาทถูกกดทับ

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา (Sciatica pain) เกิดจากการถูกกดทับที่เส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดจากช่วงเอวหรือสะโพกร้าวลงขาด้านหลัง บางรายอาจร้าวไปถึงน่องและเท้าได้

ปวดข้อเท้าเกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรไม่ให้เจ็บเรื้อรัง?

ทำความเข้าใจกับอาการปวดข้อเท้าที่ควรรู้ อาการแบบไหนที่ควรเข้าปรึกษาแพทย์? พร้อมเรียนรู้สาเหตุของอาการ วิธีรักษา ตลอดจนการป้องกันไม่ให้เจ็บข้อเท้าเรื้อรัง

อาการปวดเข่าคืออะไร มีวิธีป้องกันข้อเข่ามีอะไรบ้าง?

อาการปวดเข่าเป็นอาการที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ข้อเข่าเสื่อม และส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ การรู้ถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษาอาการปวดเข่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร รู้สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาให้หายดี

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออาการที่พบได้บ่อยในคนที่ใช้แรงเยอะ ๆ หรือเคยไหล่หลุดมาก่อน มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไหล่หลุดได้บ้าง และจะต้องดูแลรักษาตัวอย่างไ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital