บทความสุขภาพ

Knowledge

กระดูกสันหลังหักจากการลื่นล้มหรือตกจากที่สูง ต้องรักษาอย่างไร ?

ผศ.นพ. ศุภกิจ พิมลธเรศ

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การตกจากที่สูงก็เป็นอุบัติเหตุหนึ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดฝัน ซึ่งอาจตกกระแทกรุนแรงจนทำให้กระดูกสันหลังหัก และรุนแรงจนไปกดโพรงประสาทหรือเส้นประสาทไขสันหลังได้ ซึ่งหากรักษาช้า หรือไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้พิการได้ และยิ่งเกิดกับผู้สูงอายุที่กระดูกบางหรือมีกระดูกพรุนอยู่แล้ว ยิ่งเสี่ยงกระดูกสันหลังหักได้ง่ายขึ้น


เรามาทำความเข้าใจการบาดเจ็บและการหักของกระดูกสันหลัง อาการ การวินิจฉัย รวมไปถึงการรักษา เพื่อเป็นแนวทางหากคนใกล้ตัวหรือตัวคุณเองประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

กระดูกสันหลังหักหรือการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง แบบ burst fracture


Burst fracture คือ การบาดเจ็บ (การแตกหัก) ชนิดหนึ่งของกระดูกสันหลัง ซึ่งจะเกิดจากการที่ลำกระดูกสันหลัง ได้รับแรงกดกระแทกที่รุนแรงในแนวดิ่ง พร้อมกับมีการก้ม จนทำให้ลำกระดูกสันหลังส่วนหน้าและส่วนกลาง มีการแตก ยุบ พร้อมกระจายตัวออกรอบๆ จนไปกดทับโพรงประสาทด้านหลังซึ่งทำให้มีการบาดเจ็บไขสันหลังหรือเส้นประสาทอย่างรุนแรงได้


สาเหตุที่ทำให้กระดูกสันหลังหัก


โดยทั่วไปสาเหตุการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังมักเกิดจากการตกจากที่สูง ก้นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์หรือจักรยานยนต์ หรือในกรณีผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกพรุน (osteoporosis) อาจเกิดจากการลื่นล้มก้นกระแทกพื้นได้ มักพบว่าเกิดในตำแหน่งบริเวณรอยต่อระหว่างกระดูกสันหลังส่วนอกและเอว


อาการที่บ่งบอกว่ามีกระดูกสันหลังหัก


อาการที่พบหลังบาดเจ็บ คือ การปวดรุนแรงบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ ในกรณีที่ชิ้นกระดูกที่แตกและเคลื่อนไปกดทับไขสันหลัง หรือเส้นประสาท จะทำให้มีอาการปวดร้าวไปตามเส้นประสาทที่ถูกกดทับ มีอาการอ่อนแรงของขา มีการรับรู้หรือรับสัมผัสที่ผิดปกติเช่น การชาขา


การวินิจฉัยกระดูกสันหลังหัก


การวินิจฉัยเบื้องต้นทำได้ด้วยการตรวจx-rays กระดูกสันหลังบริเวณที่สงสัย และทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นตำแหน่งการหักและการบาดเจ็บของเส้นประสาทให้ชัดเจนขึ้น ได้แก่


  1. การทำ CT scan (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์) เพื่อประเมินลักษณะการแตกหัก เคลื่อนตัวของกระดูกสันหลัง
  2. การทำ MRI (เอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) แนะนำให้ทำทุกรายที่มีการบาดเจ็บของเส้นประสาท หรือการบาดเจ็บไขสันหลัง และเพื่อการประเมินกลุ่มเอ็นด้านหลังของกระดูกสันหลังร่วมด้วย

การรักษาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง


การรักษาแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ


  1. รักษาโดยการไม่ผ่าตัด (non-operative treatment) ใช้ในรายที่มีการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรง ไม่มีการกดทับของไขสันหลังหรือเส้นประสาท ข้อกระดูกสันหลังมีความมั่นคง (stable burst fracture) กระดูกสันหลังส่วนที่ยุบเกิดการค่อมไม่มากนัก ผู้ป่วยที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ให้นอนพัก ในช่วงแรก ให้ยาบรรเทาอาการปวด และใส่อุปกรณ์พยุงหลังเพื่อช่วยเสริมความมั่นคงในการเคลื่อนไหว เช่น นั่ง ยืน เดิน โดยต้องใส่จนกระดูกแข็งแรงเป็นปกติ (ประมาณ 8-12 สัปดาห์)
  2. การรักษาโดยการผ่าตัด (operative treatment) ใช้ในรายที่มีการบาดเจ็บของไขสันหลัง หรือเส้นประสาทถูกกดทับ หรือมีภาวะไม่มั่นคงของกระดูกสันหลัง (unstable burst fracture) โดยทำการยึดตรึงกระดูกสันหลังด้วยโลหะดามกระดูกสันหลัง เพื่อจัดกระดูกให้เข้าที่ร่วมกับเปิดโพรงประสาทเพื่อลดการกดทับไขสันหลังหรือเส้นประสาท


รักษาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง โดยแพทย์เฉพาะทาง ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลพระรามเก้า


ศูนย์กระดูกสันหลัง พระรามเก้า ได้รวบรวมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังไว้หลายท่าน ทางศูนย์ฯสามารถผ่าตัดและรักษาการบาดเจ็บและความผิดปกของกระดูกสันหลังได้ครอบคลุมทุกวิธี ทั้งการรักษาเบื้องต้นที่ไม่ซับซ้อน การผ่าตัดส่องกล้อง ผ่าตัดแผลเล็ก ไปจนถึงการรักษาที่มีความซับซ้อน


ทีมแพทย์ของศูนย์ฯ ทุกท่านมีประสบการณ์ ความชำนาญ และทำงานร่วมกันเป็นทีมในการประเมินและวางแผนการรักษาให้ผู้ป่วยแต่ละราย แล้วเลือกการรักษาที่ดีและรวดเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยแต่ละราย ให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติอย่างเร็วที่สุด


ข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลพระรามเก้า: https://www.praram9.com/advancedspinecenter/


สรุป


การล้มก้นกระแทกหรือการตกจากที่สูงเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือของกระดูกสันหลัง และอาจไปกดโพรงประสาทหรือเส้นประสาทไขสันหลังทำให้ปวดหลัง ชา หรือขยับแขนขาไม่ได้ ยิ่งถ้าเกิดในผู้สูงอายุซึ่งมวลกระดูกน้อยลงหรือมีกระดูกพรุน ก็ยิ่งทำให้กระดูกสันหลังบาดเจ็บหรือหักได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ การหกล้ม น่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่หากเกิดการบาดเจ็บขึ้นแล้ว ควรนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเพื่อทำการตรวจและรักษาให้ทันท่วงที


ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)


แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (1)

ดูทั้งหมด

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital