บทความสุขภาพ

Knowledge

ปัญหาปวดเท้า นิ้วเท้าผิดรูป แก้ไขได้แค่เลือกรองเท้าให้ถูกต้อง

สุขภาพของเท้าเป็นสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เราต้องเดินหรือวิ่งเป็นเวลานาน ๆ หรือมีกิจกรรมที่มีแรงกระแทก เช่น การเล่นกีฬา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการเดินเล่นยามเย็น เพราะหากไม่ได้เลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับรูปเท้าของเราจริง ๆ อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดเท้า นิ้วเท้าผิดรูป รวมไปถึงปวดหัวเข่า สะโพก และหลังได้ การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาเท้าและข้อเท้า ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับเท้าของตัวเอง เพื่อให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัวและรู้สึกสบายมากขึ้น


วิธีเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสม


1. ทดลองใส่รองเท้าก่อนซื้อ

รองเท้าแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นจะมีขนาดที่แตกต่างกัน แม้ในกรณีที่เป็นรุ่นเดียวกัน แค่การเปลี่ยนสี บางครั้งก็ทำให้ขนาดรองเท้าเปลี่ยนไปได้ ดังนั้น อย่าลืมทดลองใส่รองเท้าก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่ามันพอดีกับเท้าของเรา


2. เลือกรองเท้าตอนเย็น

เคยสังเกตไหมว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เดินมาทั้งวัน หรือหากนั่งห้อยขาเป็นเวลานาน ๆ เท้าของเราจะเริ่มบวม จริง ๆ แล้ว ในช่วงท้ายของวันเท้าของเราจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากการเดินหรือการนั่งเป็นเวลานาน และอาจเพิ่มขนาดได้ถึง 8% เลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกรองเท้าตอนเย็นจะช่วยให้เราสามารถเลือกรองเท้าที่มีขนาดที่เหมาะสมได้ดีขึ้น เพราะเท้าของเราจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในช่วงเวลานี้


3. เลือกขนาดตามเท้าข้างที่ใหญ่กว่า

จริง ๆ แล้ว เท้าของเราทั้งสองข้างของเราไม่ได้มีขนาดเท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่ร่างกายทั้งสองข้างจะมีความไม่สมมาตรกัน ดังนั้น เราจึงควรเลือกขนาดรองเท้าตามเท้าข้างที่ใหญ่กว่า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการบีบรัดหรือเจ็บปวดจากการใส่รองเท้าขนาดที่ไม่พอดี


4. พื้นที่รองเท้าด้านหน้าและข้างนิ้วเท้า

โดยทั่วไปแล้วควรมีพื้นที่เหลือประมาณ “ครึ่งนิ้ว” จากปลายนิ้วที่ยาวที่สุด ซึ่งนิ้วที่ยาวที่สุดของแต่ละคนอาจไม่ใช่นิ้วโป้งเสมอไป บางคนอาจเป็นนิ้วชี้หรือนิ้วกลางก็ได้ ดังนั้น ถ้าปลายรองเท้าคับเกินไปจะทำให้เกิดการเสียดสี จนเกิดถุงน้ำหรือปัญหาอื่น ๆ ตามมา แต่ถ้ารองเท้าหลวมเกินไปจนเท้าขยับไปมา ก็อาจทำให้เดินไม่สะดวก รู้สึกไม่สบาย และรู้สึกไม่มั่นคงในการทรงตัว


สำหรับข้างนิ้วเท้า ควรมีพื้นที่เหลือประมาณ ¼ นิ้ว หากคุณมีเท้ากว้าง อย่าลืมเลือกรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มีเท้ากว้างโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้เท้าของราไม่รู้สึกบีบรัดจนเกินไป และยังสามารถเดินได้อย่างสบายขึ้น


5. ทดสอบรองเท้าในหลาย ๆ พื้นผิว

ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรองเท้า แนะนำให้ทดสอบเดินบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น พื้นเรียบและพื้นขรุขระ เพื่อให้แน่ใจว่ารองเท้านั้นใส่แล้วรู้สึกสบาย และมั่นคงในทุกการเคลื่อนไหว


6. เลือกพื้นรองเท้าที่ไม่ลื่น

หากพื้นรองเท้าลื่นเกินไป อาจทำให้เท้าขยับไปมาภายในรองเท้าได้ ทำให้เดินไม่สะดวก หรือรู้สึกไม่มั่นคงในการเคลื่อนไหว จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการทรงตัวที่ไม่มั่นคง นอกจากนั้นหากมีกิจกรรมที่ต้องเดินมาก ๆ หรือใช้การเคลื่อนไหวเยอะ ๆ แนะนำให้มีพื้นรองเท้าด้านในนุ่มและรองรับรูปเท้าของเรามากที่สุด


7. อย่าเชื่อคำแนะนำว่ารองเท้าจะขยายเพิ่มขึ้นได้

การเชื่อคำแนะนำที่บอกว่า “รองเท้าจะขยายได้” บางครั้งอาจทำให้เราต้องทนเจ็บปวดไปนาน ๆ โดยเฉพาะถ้ารองเท้าคับเกินไป เพราะมันจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น นิ้วเท้าผิดรูปหรือเกิดการกดทับที่เท้า ดังนั้น ควรเลือกขนาดรองเท้าที่พอดีกับเท้าของเราตั้งแต่ต้น และควรเลือกรองเท้าในช่วงที่เท้าของเรามีขนาดใหญ่ที่สุดในแต่ละช่วงวันด้วย


8. วัดขนาดเท้าใหม่ทุกปี

เท้าของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กที่เท้ามักโตเร็ว เราจึงควรวัดขนาดเท้าใหม่ทุก ๆ ปี โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ๆ หรือเด็กวัยกำลังโต การซื้อรองเท้าให้เด็ก ๆ ควรเผื่อขนาดไว้ประมาณ 1 นิ้วมือ เพื่อให้รองเท้าขยายได้ในช่วง 3-6 เดือน แต่ถ้าเด็ก ๆ ชอบถอดรองเท้าบ่อย ๆ หรือรู้สึกว่ารองเท้าคับเกินไป ก็แนะนำให้ตรวจสอบขนาดใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเท้าเจ็บหรือบาดเจ็บ


9. รองเท้าส้นสูง

รองเท้า เพื่อไม่ให้บีบเท้าเกินไป เพราะรองเท้าส้นสูงและหัวแหลมสามารถทำให้เกิดอาการปวดนิ้วหัวแม่เท้า ปวดเข่า หรือปวดหลังได้ การใส่รองเท้าส้นสูงมาก ๆ จะทำให้เท้าของคุณต้องรองรับน้ำหนักมากขึ้น จนอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดได้ในระยะยาว


ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเท้าและข้อเท้า

การเลือกซื้อรองเท้าจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อให้มีสุขภาพเท้าและมีการเคลื่อนไหวที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ดังนั้น อย่าลืมปรับทุกอย่างให้เหมาะสมกับเท้าของตัวเอง เพื่อให้ได้รองเท้าที่ไม่เพียงแต่ดีไซน์สวย แต่ยังดีต่อสุขภาพในระยะยาว หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพเท้า สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ที่โรงพยาบาลพระรามเก้าได้

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ไส้เลื่อน ใครก็เป็นได้ อันตรายที่ต้องรักษาก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน

ไส้เลื่อน คือภาวะที่ลำไส้เลื่อนหรือดันออกมาจากช่องท้อง สามารถสังเกตเห็นก้อนนูนออกมาตามขาหนีบ หน้าท้อง สะดือ หากไม่รักษาอาจเกิดอันตรายจากอาการแทรกซ้อนได้

รู้ทันต้อหิน โรคร้ายทำลายการมองเห็น รีบรักษาก่อนสายเกินแก้

ต้อหิน (Glaucoma) คือโรคตาที่มีสาเหตุจากขั้วประสาทตาเสื่อม ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวปวดตา กระจกตาขุ่น การมองเห็นแย่ลง และค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด

Hypothyroidism คืออะไร? รู้ทันสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

Hypothyroidism คือ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ ทำให้ระดับการเผาผลาญพลังงานลดลง และนำมาสู่การทำงานของระบบต่าง ๆ ผิดปกติ

รู้ทันอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ใครเวียนหัว บ้านหมุนบ่อยต้องระวัง

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นความผิดปกติของระบบน้ำในหูชั้นใน ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ เวียนหัว บ้านหมุน ทรงตัวไม่อยู่ และการได้ยินผิดปกติ

หายใจไม่อิ่ม หายใจลำบาก สัญญาณอันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม

หายใจไม่อิ่ม เป็นอาการที่หลายคนเผชิญ อาจมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่เต็มปอด หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อยง่าย บทนี้ความจะพาไปดูสาเหตุของอาการเหล่านี้กัน

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน อันตรายถึงชีวิตแบบไร้สัญญาณเตือน

หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจหยุดทำงานกะทันหัน ทำให้หมดสติและเสียชีวิตในไม่กี่นาที จึงเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับการรักษาทันที

อาการปวดเข่าคืออะไร มีวิธีป้องกันข้อเข่ามีอะไรบ้าง?

อาการปวดเข่าเป็นอาการที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ข้อเข่าเสื่อม และส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ การรู้ถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษาอาการปวดเข่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ

EST คืออะไร? การตรวจสมรรถภาพหัวใจ Exercise Stress Test

EST (Exercise Stress Test) คือ การออกกำลังกายตรวจสมรรถภาพหัวใจ เป็นวิธีวินิจฉัยสุขภาพหัวใจเพื่อทำการรักษาต่อไป EST มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร รู้สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาให้หายดี

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออาการที่พบได้บ่อยในคนที่ใช้แรงเยอะ ๆ หรือเคยไหล่หลุดมาก่อน มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไหล่หลุดได้บ้าง และจะต้องดูแลรักษาตัวอย่างไ

กระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? รู้จักอาการ สาเหตุ และการป้องกัน

โรคกระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? ชวนคุณมาทำความรู้จักกับอาการ สาเหตุ และการรักษา เพื่อป้องกันสุขภาพตัวเองไม่ให้กระดูกคอได้รับบาดเจ็บ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital