บทความสุขภาพ

Knowledge

ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ตรวจง่าย ป้องกันมะเร็งได้ก่อนสายเกินไป

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหารสามารถเข้าไปส่องดูภายในของลำไส้ใหญ่ได้โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ในปัจจุบันวิธีนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการตรวจหาและป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ นับเป็นหนึ่งในการตรวจคัดกรองมะเร็งที่มีการแนะนำให้ทุกคนควรได้รับตรวจหากอยู่ในช่วงอายุ 40-50 ปีขึ้นไป


ลำไส้ใหญ่คืออะไร?


ลำไส้ใหญ่ (colon) คือ อวัยวะที่เป็นท่อของกล้ามเนื้อในส่วนท้ายของระบบทางเดินอาหาร โดยต่อมาจากลำไส้เล็กแล้วไปสิ้นสุดที่ไส้ตรงและรูทวาร ลำไส้ใหญ่มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร


หน้าที่หลักของลำไส้ใหญ่ คือเปลี่ยนกากอาหารที่ผ่านการย่อยและดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ให้กลายเป็นอุจจาระ โดยการดูดซึมน้ำและแร่ธาตุที่ยังเหลืออยู่ และบีบตัวให้อุจจาระเคลื่อนที่ไปจนขับถ่ายออกจากร่างกายในที่สุด นอกจากนั้นลำไส้ใหญ่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งสมดุลของจุลินทรีย์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม


มะเร็งลำไส้ใหญ่


มะเร็งลำไส้ใหญ่ (colon cancer หรือ colorectal cancer) คือการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ผนังลำไส้ใหญ่ โดยเริ่มจากการเป็นติ่งเนื้องอก (polyps) จากนั้นจึงมีการพัฒนาต่อไปเป็นเซลล์มะเร็ง


มะเร็งลำไส้ใหญ่จะทำให้ลำไส้ใหญ่มีการทำงานผิดปกติไป สูญเสียการดูดซึมน้ำและแร่ธาตุ ส่งผลต่อลักษณะของอุจจาระและการขับถ่าย ทำให้ผู้ป่วยมาด้วยอาการท้องผูกหรือท้องเสียบ่อย อาจมีท้องผูกสลับกับท้องเสีย ถ่ายไม่สุด อุจจาระมีก้อนเล็กลง มีมูกเลือดปนเวลาเบ่งถ่าย รวมทั้งอาจมีติ่งเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนักและมีเลือดออก หรือตรวจพบเลือดแฝงในอุจจาระจากการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งหมดนี้คือสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากปล่อยไว้เซลล์มะเร็งจะลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง และแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้


มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับ 3 ของโรคมะเร็งทั้งหมด


วิธีการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การดูแลสุขภาพ กินอาหารที่มีกากใยสูงเป็นประจำ หมั่นสังเกตการขับถ่าย และที่สำคัญที่สุด คือ การตรวจคัดกรองด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพราะจะช่วยให้เราตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเนื้องอก และตัดออกได้ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นมะเร็ง หรือถ้าหากพบว่าเป็นมะเร็ง ก็จะสามารถพบได้เร็วตั้งแต่ในระยะที่ยังไม่มีการแพร่กระจาย ก็จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่ามาก


ส่องกล้องลำไส้ใหญ่คืออะไร? ทำอย่างไร?


การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) เป็นการใช้กล้องที่มีลักษณะเป็น fiber optic ที่ปลายกล้องมีเลนส์ขยายภาพ อีกด้านหนึ่งเป็นส่วนควบคุมซึ่งต่อเข้ากับเครื่องกำเนิดแสง แล้วส่งภาพมาปรากฎบนจอโทรทัศน์


โดยแพทย์จะสอดกล้องเข้าไปทางปากทวารหนักจนถึงลำไส้ใหญ่ส่วนต้นซึ่งต่อกับลำไส้เล็กส่วนปลายทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ได้ถูกต้องแม่นยำ สามารถวินิจฉัยว่าเป็น แผล เนื้องอก มะเร็ง หรือความผิดปกติของเส้นเลือดในลำไส้ใหญ่ นอกจากนั้นเครื่องมือยังสามารถกำจัดเนื้องอกผิดปกติได้ในทันที การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่จึงนับได้ว่าเป็นทั้งการตรวจคัดกรองและการรักษาป้องกันในคราวเดียวกัน


ผู้ที่ควรได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่


  • มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ผู้ที่มีอายุ 40-50 ปีขึ้นไป แม้จะสุขภาพดี ไม่มีอาการใด ๆ ก็ตาม แต่ก็ควรได้รับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ทุก 3-5 ปี
  • ตรวจอุจจาระพบเม็ดเลือดแดงแฝง (stool occult blood: positive) หรือผลการตรวจเลือดพบค่าสารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ (CEA) สูงผิดปกติ
  • มีอาการปวดท้องเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีอาการคล้ายริดสีดวงทวารหนัก ซึ่งมีก้อนเนื้อยื่นออกมา
  • มีความผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่ายอุจจาระ เช่น ท้องผูก หรือท้องเสียเป็นประจำ หรือ ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายไม่สุด หรือถ่ายอุจจาระเรียวแบน
  • ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือดปน อาจจะเป็นสีแดงสดหรือสีคล้ำ และมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
  • คลำพบก้อนในท้อง น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลีย
  • โลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

สำหรับในด้านการรักษา สามารถตัดชิ้นเนื้อที่ผิดปกติ ส่งตรวจและการตัดเอาเนื้องอกที่เป็นติ่งเล็ก ๆ ผ่านกล้อง โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดช่องท้อง และในกรณีมีเลือดออกจากลำไส้ใหญ่ สามารถหาสาเหตุและห้ามเลือดโดยผ่านกล้องได้


ทั้งนี้ ก่อนทำการส่องกล้องแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และทำการประเมินโรคประจำตัว และยาที่ทานเป็นประจำ เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด (Aspirin,Plavix) หรือ วิตามินอี เพราะทำให้เลือดหยุดช้า ต้องหยุดยาก่อนมารับการตรวจ 1 สัปดาห์


อย่างไรก็ตามการตรวจวินิจฉัยต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญในการตรวจ เพื่อผลการตรวจที่ดีที่สุด


การเตรียมตัวก่อนส่องกล้องลําไส้ใหญ่


  • ก่อนวันนัด 3 วัน ให้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย งดผัก ผลไม้และอาหารที่มีเส้นใย และดื่มน้ำมาก ๆ
  • การเตรียมลำไส้ใหญ่ เป็นการเตรียมตัวก่อนการตรวจที่สำคัญที่สุด เนื่องจากการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ต้องให้กล้องที่สอดเข้าไปสามารถถ่ายภาพผนังลำไส้ใหญ่ได้อย่างชัดเจน แพทย์จึงจะสามารถตรวจหาความผิดปกติได้อย่างทั่วถึง ไม่ถูกบดบังโดยอุจจาระ ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องรับประทานยาระบาย และสวนอุจจาระเพื่อขับอุจจาระที่ตกค้างออกให้หมด โดยอาจมีการให้น้ำเกลือเพื่อช่วยลดอาการขาดน้ำและอ่อนเพลีย
  • ในวันตรวจ ผู้ป่วยควรมีญาติมาด้วย ไม่ควรขับรถมาเองคนเดียว

อาการที่อาจพบได้หลังการตรวจ


  1. ท้องอืด มีลมในลำไส้ เนื่องจากมีการใส่ลมเพื่อขยายผนังลำไส้ใหญ่ให้เห็นได้ชัดขณะส่องกล้อง
  2. อุจจาระอาจมีเลือดปนเล็กน้อย เนื่องจากอาจมีหัตถการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจ
  3. ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องมาก ถ่ายอุจจาระมีเลือดปนไม่หยุด ควรรีบมาพบแพทย์

ส่องกล้องลําไส้ใหญ่อันตรายไหม?


การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่นับเป็นการตรวจคัดกรองที่ปลอดภัยสูง ความเสี่ยงต่ำ โดยผลการศึกษาเมื่อปี 2016 ในสหรัฐอเมริกา พบว่า มีอุบัติการณ์ของผลข้างเคียงรุนแรงเกิดขึ้นน้อยมาก เพียง 4-8 ครั้งต่อการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ 10,000 ครั้ง


สรุป


จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า การส่องกล้องลำไส้ใหญ่มีความสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะการส่องกล้องลำไส้ใหญ่จะทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้ก้อนมะเร็งใหญ่จนแสดงอาการป่วยและความผิดปกติให้เห็น ซึ่งมักจะเป็นระยะที่มะเร็งแพร่กระจายไปแล้ว หากตรวจคัดกรองพบก้อนเนื้อผิดปกติแต่เนิ่น ๆ แพทย์สามารถตัดได้ทันทีก่อนที่จะพัฒนากลายไปเป็นมะเร็ง การส่องกล้องลำไส้ใหญ่จึงนับเป็นหนึ่งในการตรวจคัดกรองมะเร็งที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และคุ้มค่า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ไส้เลื่อน ใครก็เป็นได้ อันตรายที่ต้องรักษาก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน

ไส้เลื่อน คือภาวะที่ลำไส้เลื่อนหรือดันออกมาจากช่องท้อง สามารถสังเกตเห็นก้อนนูนออกมาตามขาหนีบ หน้าท้อง สะดือ หากไม่รักษาอาจเกิดอันตรายจากอาการแทรกซ้อนได้

รู้ทันต้อหิน โรคร้ายทำลายการมองเห็น รีบรักษาก่อนสายเกินแก้

ต้อหิน (Glaucoma) คือโรคตาที่มีสาเหตุจากขั้วประสาทตาเสื่อม ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวปวดตา กระจกตาขุ่น การมองเห็นแย่ลง และค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด

Hypothyroidism คืออะไร? รู้ทันสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

Hypothyroidism คือ ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ ทำให้ระดับการเผาผลาญพลังงานลดลง และนำมาสู่การทำงานของระบบต่าง ๆ ผิดปกติ

รู้ทันอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ใครเวียนหัว บ้านหมุนบ่อยต้องระวัง

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นความผิดปกติของระบบน้ำในหูชั้นใน ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ เวียนหัว บ้านหมุน ทรงตัวไม่อยู่ และการได้ยินผิดปกติ

หายใจไม่อิ่ม หายใจลำบาก สัญญาณอันตรายที่คุณไม่ควรมองข้าม

หายใจไม่อิ่ม เป็นอาการที่หลายคนเผชิญ อาจมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่เต็มปอด หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อยง่าย บทนี้ความจะพาไปดูสาเหตุของอาการเหล่านี้กัน

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน อันตรายถึงชีวิตแบบไร้สัญญาณเตือน

หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจหยุดทำงานกะทันหัน ทำให้หมดสติและเสียชีวิตในไม่กี่นาที จึงเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับการรักษาทันที

อาการปวดเข่าคืออะไร มีวิธีป้องกันข้อเข่ามีอะไรบ้าง?

อาการปวดเข่าเป็นอาการที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ข้อเข่าเสื่อม และส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ การรู้ถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษาอาการปวดเข่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ

EST คืออะไร? การตรวจสมรรถภาพหัวใจ Exercise Stress Test

EST (Exercise Stress Test) คือ การออกกำลังกายตรวจสมรรถภาพหัวใจ เป็นวิธีวินิจฉัยสุขภาพหัวใจเพื่อทำการรักษาต่อไป EST มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออะไร รู้สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาให้หายดี

ภาวะข้อไหล่หลุดคืออาการที่พบได้บ่อยในคนที่ใช้แรงเยอะ ๆ หรือเคยไหล่หลุดมาก่อน มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไหล่หลุดได้บ้าง และจะต้องดูแลรักษาตัวอย่างไ

กระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? รู้จักอาการ สาเหตุ และการป้องกัน

โรคกระดูกคอเสื่อมอันตรายไหม? ชวนคุณมาทำความรู้จักกับอาการ สาเหตุ และการรักษา เพื่อป้องกันสุขภาพตัวเองไม่ให้กระดูกคอได้รับบาดเจ็บ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital