บทความสุขภาพ

Knowledge

บริโภคเค็มมากเกินไป เสี่ยงเกิดโรค NCDs โดยไม่รู้ตัว

นพ. วิศิษฐ์ ลิ่วลมไพศาล

อาหารไทยเป็นอาหารที่มีหลากหลายรสชาติทั้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ดโดยความจัดจ้านของอาหารไทย


เป็นที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ แต่ภายใต้รสชาติแสนอร่อยนั้นก็ซ่อนอันตรายอยู่ไม่น้อยเลยที่เดียว หากเราบริโภคมากพอดี ปัจจุบันประชาชนประสบปัญหาเรื่องโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการบริโภคอาหารรสหวาน มัน เค็ม และขาดการออกกำลังกายในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมมากขึ้น อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถิติของผู้ป่วยด้วยโรค NCDs เพิ่มสูงขึ้น และเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในที่สุด


จากสถิติในประเทศไทยปัจจุบัน พบว่า มีอัตราการเสียชีวิต 3 ใน 4 ที่มีสาเหตุมาจากโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งโรคดังกล่าวเหล่านี้ ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อโรค แต่เป็นผลจากการมีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ทานอาหารหวาน มัน เค็มมากจนเกินพอดี พฤติกรรมเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดความดันเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงขึ้น น้ำหนักตัวเกินจนกระทั่งอ้วน ส่งผลให้เกิดโรคไม่ติดต่อตามมา เช่นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และนำไปสู่โรคไต


นายแพทย์วิศิษฐ์ ลิ่วลมไพศาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า บอกว่า คนไทยในปัจจุบันบริโภครสจัดและรสเค็ม ที่เพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 10.8 กรัมต่อวัน หรือโซเดียม 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสูงเป็น 2 เท่า ของที่ร่างกายควรได้รับ โดยร้อยละ 71 มาจากการเติมเครื่องปรุงรสระหว่างการประกอบอาหาร ซึ่งโดยปกติอาหารตามธรรมชาติก็มีเกลือเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว เมื่อมีการใช้เครื่องปรุงรสดังกล่าวปริมาณมาก จึงทำให้ปริมาณเกลือในอาหารสูงมากตามไปด้วย


โรคไตเป็นหนึ่งในโรค NCDs ซึ่งพบมาก เนื่องจากมีประชากรในครอบครัวไทยป่วยเป็นโรคไตติดอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากมาเลเซียและสิงคโปร์ สาเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เกิดจากเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งมีสถิติผู้ป่วยรวมเกือบ 15 ล้านคน ผลที่ตามมาคือ มีภาวะไตเสื่อมและไตเสื่อมเร็วขึ้น จัดว่าเป็นมหันตภัยเงียบที่น่ากลัว เพราะผู้ป่วยจะไม่ทราบว่าป่วยเป็นโรคไต นอกจากนี้แล้ว โรคไต ยังต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้ป่วยจะได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตหรือเสียชีวิต และนับว่ามีค่าใช้จ่ายสูง โดยโรคในกลุ่มนี้มีสาเหตุหลักจากการบริโภคอาหารรสเค็ม หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของโซเดียมเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก


โรงพยาบาลพระรามเก้า จึงได้เล็งเห็นว่า การบริโภคเค็มมากเกินพอดีในแต่ละวัน ก่อให้เกิดโรคได้หลายชนิด จึงรณรงค์การบริโภคเค็มให้ลดโซเดียมลงจาก 4 กรัมต่อวัน ให้เหลือวันละ 2 กรัม เพื่อป้องกันการเกิดโรค NCDs ที่อาจจะเกิดขึ้นได้


ดังนั้น คนไทยสามารถหากลดปริมาณโซเดียมได้จากการปรุงอาหาร คือ


1) หลีกเลี่ยงการใช้เกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรสต่างๆ และผงชูรส ในการปรุงอาหาร


2) หลีกเลี่ยงเติมเครื่องปรุง เช่น ปรุงรสในก๋วยเตี๋ยว เติมพริกน้ำปลาใน ข้าวแกง เป็นต้น


3) หลีกเลี่ยงอาหารประเภทดองเค็ม-อาหารแปรรูป เช่น ไข่เค็ม ปลาเค็ม ปลาแดดเดียว ปลาส้มแหนม ไส้กรอก กุนเชียง หมูหยอง เป็นต้น


4) เลือกรับประทานอาหารที่มีหลายรสชาติ เช่น แกงส้ม ต้มยำ เพื่อทดแทนรสชาติเค็ม


5) ตรวจดูปริมาณโซเดียมต่อหน่วยบริโภค บนฉลากของซอสปรุงรส อาหารสำเร็จรูป และขนมถุงเพื่อหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงเกินความพอดี


แนวทางข้างต้นนี้ นับว่า เป็นตัวช่วยหนึ่ง ที่จะสามารถช่วยลดปริมาณการบริโภคเค็มของคไทยที่มีเพิ่มสูงขึ้นให้มีจำนวนลดลง และที่สำคัญสามารถทำให้คนไทยห่างไกลจากโรค NCDs ได้ด้วย



เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

นพ. วิศิษฐ์ ลิ่วลมไพศาล

นพ. วิศิษฐ์ ลิ่วลมไพศาล

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (1)

ดูทั้งหมด

ตรวจคัดกรองโรคไต (Kidney Screening Program)

ตรวจคัดกรองโรคไต (Kidney Screening Program)

ตรวจสุขภาพไต

฿ 990 - 3,690

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ตรวจพบกรดยูริกสูง เสี่ยงเกาต์เสี่ยงไต แก้ไขอย่างไรดี?

กรดยูริกสูงเกิดจากไตไม่สามารถขับกรดยูริกออกมาตามปกติ หรือร่างกายผลิตกรดยูริกมากเกินไป ส่งผลให้เกิดผลึกเกลือยูเรตสะสมตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย

ถุงน้ำในไต อันตรายเงียบ ที่กว่าจะรู้ตัวก็อาจไตวายไปเสียแล้ว

ถุงน้ำในไตเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในเนื้อไต โดยถุงน้ำจะไปรบกวนการทำงานของไต ผู้ป่วยมักจะไม่แสดงอาการ จนเนื้อไตเสียหายและเกิดไตวายในที่สุด

การปลูกถ่ายไต ทางเลือกการรักษาของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีการรักษาภาวะไตวายเรื้อรังที่ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดสูง และผู้ป่วยหลังการผ่าตัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการฟอกไตหรือการล้างไตผ่านทางหน้าท้อง

ปัสสาวะเป็นเลือด สัญญาณเตือนอันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย

ปัสสาวะเป็นเลือด คือภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมากับปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณโรคร้ายแรงที่ต้องรีบสาเหตุ และรับการรักษาอย่างตรงจุดก่อนสายเกินแก้

ไตวายเรื้อรัง รีบรักษาตั้งแต่วันนี้ ก่อนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

ทำความรู้จัก ‘ไตวายเรื้อรัง’ ภาวะที่ไตไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และเป็นอันตรายถึงชีวิต

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

วิธีรักษาโรคไตเบื้องต้น เพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ชะลอความเสื่อมไต

วิธีรักษาโรคไตเบื้องต้น ผู้ป่วยควรดูแลตนเองด้วยการทานอาหารที่ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และควบคุมอาการโรคร่วมให้เป็นปกติ พร้อมอ่านเพิ่มเติมในบทความนี้!

กรวยไตอักเสบ อาการที่ไม่ควรมองข้าม ต้องรักษาอย่างทันท่วงที

กรวยไตอักเสบ คือ ภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยส่วนใหญ่แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการกรวยไตอักเสบ ได้แก่ อีโคไล (E.Coli)

การฟอกไต วิธียืดอายุผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ป้องกันอันตรายจากสารพิษสะสม

ฟอกไต คือการใช้เครื่องไตเทียมทดแทนการทำงานของไตที่สูญเสียไปในผู้ป่วยโรคไต ช่วยกำจัดของเสีย สารพิษ และน้ำส่วนเกินออกจากเลือด เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย

นิ่วในไต นิ่วในท่อปัสสาวะ อย่าทนปวด! รู้สาเหตุ ป้องกันได้

นิ่วในไตเป็นก้อนผลึกแข็งที่เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุ มีขนาดแตกต่างกันทั้งเล็กและใหญ่ เกิดจากสารในปัสสาวะที่มีความเข้มข้นสูงตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วในไต

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital