บทความสุขภาพ

Knowledge

ปัสสาวะเป็นเลือด สัญญาณเตือนอันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

สีของปัสสาวะที่เป็นปกติจะมีสีออกเหลืองใส ไม่ขุ่น ไม่เป็นฟอง ไม่มีเลือดปน แต่เมื่อไหร่ที่พบว่าปัสสาวะเป็นเลือดปนออกมา มีอาการแสบขัดขณะปัสสาวะ ปวดท้อง หรือปวดหลัง นั่นอาจเป็นสัญญาณถึงความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะที่ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป


Key Takeaways


  • ปัสสาวะเป็นเลือด คือ อาการที่มีเลือดปะปนอยู่ในปัสสาวะ ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และรูปแบบที่จำเป็นต้องตรวจโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์
  • ปัสสาวะเป็นเลือดอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีอาการอื่นร่วม แต่ในบางรายอาจพบอาการปวดท้อง ปวดหลัง ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะลำบาก หรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้ร่วมด้วย
  • มีหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการปัสสาวะเป็นเลือด เช่น การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ การเกิดนิ่ว เนื้องอกและมะเร็ง รวมไปถึงภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ การใช้ยาบางชนิด เป็นต้น
  • การรักษาอาการปัสสาวะเป็นเลือดจะเป็นการรักษาตามอาการ และสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัสสาวะเป็นเลือด

ลักษณะไหน ถึงเรียกว่า ‘ปัสสาวะเป็นเลือด’


ปัสสาวะเป็นเลือด คือ ภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมากับน้ำปัสสาวะ โดยสามารถแบ่งลักษณะของปัสสาวะเป็นเลือดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่


  • Microscopic Hematuria คือ กรณีที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมาในปัสสาวะจำนวนเล็กน้อย ผู้ป่วยอาจไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่จะตรวจพบได้จากการส่องกล้องจุลทรรศน์ในน้ำปัสสาวะ
  • Gross Hematuria คือ กรณีที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมาในปัสสาวะจำนวนมาก จนทำให้สีของปัสสาวะเปลี่ยนไปจากสีเหลืองใสเป็นสีชมพู สีแดงสด หรือสีน้ำตาล และอาจมีลิ่มเลือดปน ซึ่งปัสสาวะลักษณะนี้ผู้ป่วยสามารถสังเกตเห็นความผิดปกติได้ด้วยตาเปล่า

ปัสสาวะเป็นเลือดเป็นอาการที่ไม่ควรเพิกเฉย หากพบอาการฉี่มีเลือดปน หรือตรวจเจอเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ ควรเข้าพบแพทย์และตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุของภาวะดังกล่าวก่อนที่จะพัฒนากลายเป็นโรคอันตรายในอนาคต


สาเหตุใดบ้างที่อาจทำให้เกิดปัสสาวะเป็นเลือด


ปัสสาวะเป็นเลือด หรือฉี่เป็นเลือดเกิดจากอวัยวะที่น้ำปัสสาวะไหลผ่านเกิดความผิดปกติ ซึ่งสามารถแบ่งสาเหตุของปัสสาวะเป็นเลือดตามบริเวณที่เกิดความผิดปกติขึ้น ดังนี้


ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ


  • การติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  • นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
  • เนื้องอกที่กระเพาะปัสสาวะ
  • มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ความผิดปกติของท่อปัสสาวะ


  • การติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะอักเสบ
  • ท่อปัสสาวะฉีกขาด
  • มะเร็งท่อปัสสาวะ

ความผิดปกติของต่อมลูกหมาก


  • ต่อมลูกหมากโต
  • มะเร็งต่อมลูกหมาก

ความผิดปกติของไต


  • โรคไตบางชนิด เช่น ไตอักเสบ
  • นิ่วในไต
  • เนื้องอกในไต
  • กรวยไตอักเสบ
  • มะเร็งไต

ความผิดปกติของท่อไต


  • นิ่วในท่อไต
  • เนื้องอกในท่อไต

ความผิดปกติอื่น ๆ


  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • ภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ เช่น โรคเลือดออกไม่หยุด, โรคเกล็ดเลือดต่ำ,
  • การใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด ยาละลายลิ่มเลือด
  • การออกกำลังกายอย่างหนัก การเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บบริเวณทางเดินปัสสาวะ

อย่างไรก็ตาม การตรวจพบปัสสาวะเป็นเลือดอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของอาการปัสสาวะเป็นเลือดได้เช่นกัน


อาการสำคัญของปัสสาวะเป็นเลือด


อาการปัสสาวะเป็นเลือด

ปัสสาวะเป็นเลือดอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีอาการอื่นร่วม แต่ในบางรายอาจพบอาการร่วมสำคัญดังต่อไปนี้


  • ปัสสาวะขุ่น หรือมีลิ่มเลือดปน
  • ปัสสาวะแสบขัด
  • ปัสสาวะลำบาก
  • กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
  • ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น
  • ปวดท้อง ปวดเอว
  • มีไข้

โดยส่วนใหญ่กรณีที่มีอาการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมกับอาการอื่น ๆ ดังกล่าว มักมีสาเหตุมาจากการอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีการอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะ แต่หากมีเพียงอาการปัสสาวะเป็นเลือดเพียงอย่างเดียวอาจแสดงถึงความผิดปกติของหลอดเลือดในไต เนื้องอก หรือมะเร็ง


ปัสสาวะเป็นเลือด อาการที่ไม่ควรละเลย เพราะอาจเป็นหนึ่งในอาการโรคไตที่ต้องรีบรักษา เพื่อให้ไตสามารถใช้งานได้นานขึ้น รู้จักอาการโรคไต สังเกตไว ป้องกันไตเสียหายระยะยาว อ่านต่อได้ที่ : กว่าจะรู้ว่าเป็นโรคไต ก็อาจสายไปเสียแล้ว


ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดปัญหาปัสสาวะเป็นเลือด


ปัสสาวะเป็นเลือดอาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้


  • มีประวัติการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง
  • มีประวัติใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ เช่น ยาแก้ปวด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • มีประวัติสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด
  • มีประวัติได้รับเคมีบำบัดบางชนิด
  • มีประวัติได้รับการฉายแสงบริเวณอุ้งเชิงกราน
  • การสูบบุหรี่
  • มีภาวะขาดน้ำจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ

การวินิจฉัยผู้ป่วยปัสสาวะเป็นเลือด


ฉี่เป็นเลือด เกิดจากอะไร

ปัสสาวะเป็นเลือดสามารถพบเห็นได้ด้วยตาเปล่า และการตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ ซึ่งทั้งสองกรณีนั้น แพทย์จะเริ่มต้นจากการซักประวัติการรักษา โรคประจำตัว และสอบถามอาการในเบื้องต้นว่าผู้ป่วยมีอาการอื่น ๆ นอกจากปัสสาวะออกมาเป็นเลือดหรือไม่ จากนั้นจึงส่งตัวผู้ป่วยไปตรวจเพิ่มเติม ดังนี้


  • การตรวจปัสสาวะ แพทย์จะขอตัวอย่างปัสสาวะของผู้ป่วย จากนั้นจะนำไปวิเคราะห์โดยการส่องกล้องจุลทรรศน์ และการตรวจวัดค่าต่าง ๆ ในน้ำปัสสาวะ
  • การตรวจเลือด แพทย์จะนำตัวอย่างเลือดไปวิเคราะห์ระดับครีอะตินีน (Creatinine) ซึ่งเป็นค่าที่บ่งบอกความสามารถในการทำงานของไต และนิยมใช้ตรวจคัดกรองโรคไต
  • การตรวจด้วยภาพถ่าย เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การอัลตราซาวนด์ หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อตรวจหารอยโรคภายในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • การตรวจชิ้นเนื้อไต เพื่อตรวจหาความผิดปกติของไต
  • การส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ เพื่อตรวจหาความผิดปกติในท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ
  • การตรวจภายใน กรณีเกิดปัสสาวะเป็นเลือดในผู้หญิง เพื่อหาโรคทางนรีเวช

แนวทางการรักษาปัสสาวะเป็นเลือด


การรักษาปัสสาวะเป็นเลือดจะเป็นการรักษาตามอาการ และสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการปัสสาวะเป็นเลือด


  • กรณีปัสสาวะเป็นเลือดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
    แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ ยาลดอาการอักเสบ รวมถึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้มาก และดูแลสุขอนามัยให้ดี เพื่อลดการติดเชื้อซ้ำ
  • กรณีปัสสาวะเป็นเลือดจากการเกิดนิ่ว
    หากอาการไม่รุนแรงสามารถใช้ยาช่วยขับนิ่วให้หลุดออกมากับการปัสสาวะได้ แต่กรณีที่นิ่วมีขนาดใหญ่มาก อาจใช้วิธีอื่นในการช่วยกำจัดนิ่ว เช่น การใช้คลื่นเสียงกระแทก (Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy : ESWL) ให้ก้อนนิ่วเล็กลง การใส่สายสวนปัสสาวะ และการผ่าตัดนิ่ว
  • กรณีปัสสาวะเป็นเลือดจากโรคไต ไตอักเสบ
    การรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรคไตและระดับความรุนแรงของโรคไต หากมีอาการปัสสาวะไม่ออก อาจจ่ายเป็นยาขับปัสสาวะ หากมีการติดเชื้อ แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะ แต่หากไตอักเสบจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายไตก็จะใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
  • กรณีปัสสาวะเป็นเลือดจากเนื้องอกและมะเร็ง
    หากเป็นเนื้องอกชนิดไม่ใช่เนื้อร้าย สามารถทำการรักษาด้วยการผ่าตัดได้เลย แต่หากเป็นเนื้องอกมะเร็ง อาจต้องพิจารณาระยะมะเร็ง โดยจะมีการรักษาในรูปแบบการทำเคมีบำบัด การฉายรังสี ภูมิคุ้มกันบำบัด และการผ่าตัด

ปัสสาวะเป็นเลือด รักษาได้ที่ต้นเหตุ ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า


อาการปัสสาวะเป็นเลือด แม้ว่าบางครั้งอาจไม่สร้างความเจ็บปวดใด ๆ ให้กับร่างกาย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของโรคอันตราย ที่หากไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วอาจนำมาสู่ความเสียหายภายในระบบทางเดินปัสสาวะอย่างถาวร หากพบว่าปัสสาวะมีเลือดปน หรือตรวจพบเม็ดเลือดแดงจากการตรวจสุขภาพ แนะนำให้เข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินวินิจฉัย และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุของโรคที่สุด


สถาบันโรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตลอดระยะเวลารักษา


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัสสาวะเป็นเลือด


1. ปัสสาวะเป็นเลือด เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?


หากพบว่าปัสสาวะเป็นเลือด ในเบื้องต้นสามารถสังเกตอาการด้วยตนเองประมาณ 2-3 วัน ถ้าอาการปัสสาวะเป็นเลือดยังไม่หายไป แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป ทั้งนี้หากมีอาการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น อาการปวดท้องรุนแรง ปัสสาวะไม่ออก ให้รีบพบแพทย์โดยเร็วโดยไม่จำเป็นต้องรอเวลาเพื่อสังเกตอาการ


2. ปัสสาวะเป็นเลือด อันตรายถึงชีวิตหรือไม่


ปัสสาวะเป็นเลือดไม่ใช่อาการที่ส่งผลกระทบถึงชีวิตโดยตรง แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย เช่น โรคไต หรือโรคมะเร็ง ซึ่งอาจทำให้วิถีชีวิตของผู้ป่วยเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง


References


Ellis, ME. (2023, April 11). Why Is There Blood in My Urine?. Healthline. https://www.healthline.com/health/urine-bloody


What it means to have red pee: Causes of blood in urine and what to do next. (n.d.). HealthPartners. https://www.healthpartners.com/blog/blood-in-urine-causes/


Hematuria. (2025, January 14). Cleveland clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15234-hematuria


Blood in urine (haematuria). (n.d.). Healthdirect. https://www.healthdirect.gov.au/blood-in-urine

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

รู้ทันอาการเตือนไทรอยด์เป็นพิษ ที่อาจเป็นอันตรายต่อทุกระบบ

ไทรอยด์เป็นพิษ คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกระบบ หากอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้

มดลูกหย่อน กับอาการเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากเผชิญ

มดลูกหย่อน ภาวะที่มดลูกหย่อนตัวลงไปในช่องคลอด สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่สามารถยึดให้มดลูกอยู่ในตำแหน่งปกติ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก

สมองขาดเลือด ภาวะเร่งด่วนต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต

อันตรายจากสมองขาดเลือดอาจทำให้เซลล์สมองตาย จนทำให้สมองส่วนที่ขาดเลือดเกิดอาการผิดปกติหรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไป ก่อให้พิการหรือเสียชีวิตได้ในที่สุด

ไตวายเรื้อรัง รีบรักษาตั้งแต่วันนี้ ก่อนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

ทำความรู้จัก ‘ไตวายเรื้อรัง’ ภาวะที่ไตไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และเป็นอันตรายถึงชีวิต

ไตวายเฉียบพลันไม่ทันตั้งตัว! ภาวะอันตรายที่ต้องรีบรักษา

ไตวายเฉียบพลัน ภาวะที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลต่อการทำงานของไตอย่างรุนแรง หากไม่รักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มีข้อควรรู้อะไรบ้าง อ่านได้ที่นี่

สาเหตุอาการปวดหัวเรื้อรังคืออะไร แก้ไขและรักษาได้อย่างไรบ้าง

อาการปวดหัวเรื้อรังเป็นอาการปวดหัวที่ไม่ยอมหาย โดยอาจจะไม่มีไข้และกินยาแล้วก็ไม่หาย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เป็นแล้วแก้ไขได้มั้ย รักษาอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ!

อัมพาต คืออะไร? อาการเป็นแบบไหน? รวมข้อมูลที่ควรรู้

อัมพาต คือโรคที่สูญเสียการเคลื่อนไหวของร่างกายบางส่วน ซึ่งจริง ๆ แล้วมีลักษณะอาการแบบไหน สามารถรักษาได้ไหม หรือมีข้อมูลที่ควรรู้อะไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้!

โรคช็อกโกแลตซีสต์ อันตรายไหม? รู้จักสาเหตุ อาการ และการรักษา

ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) มีสาเหตุมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่ มักทำให้มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง หากไม่รับการรักษาอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

หมอนรองกระดูกเสื่อม ต้นเหตุอาการปวดหลังเรื้อรังที่อายุน้อยก็พบได้

หมอนรองกระดูกเสื่อมคือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกจนไม่สามารถทำหน้าที่ลดแรงกระแทกได้ ทำให้กระดูกรอบ ๆ สึกและอักเสบขึ้นจนเกิดอาการปวดเรื้อรัง

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา อีกหนึ่งสัญญาณเส้นประสาทถูกกดทับ

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา (Sciatica pain) เกิดจากการถูกกดทับที่เส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดจากช่วงเอวหรือสะโพกร้าวลงขาด้านหลัง บางรายอาจร้าวไปถึงน่องและเท้าได้

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital