บทความสุขภาพ

Knowledge

ตรวจพบกรดยูริกสูง เสี่ยงเกาต์เสี่ยงไต แก้ไขอย่างไรดี?

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

กรดยูริกสูง สามารถก่อให้เกิดโรคเรื้อรังที่สร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วย โดยเฉพาะโรคเกาต์และโรคไต ซึ่งกรดยูริกสามารถตกผลึกและสร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อข้อต่อและไตอย่างรุนแรง การรักษาและป้องกันภาวะกรดยูริกสูงจะต้องมีการใช้ยารักษาควบคู่กับการปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม รวมถึงการติดตามอาการอยู่เสมอเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


Key Takeaways


  • กรดยูริกสูงเกิดจากร่างกายผลิตกรดยูริกมากเกินไป หรือร่างกายไม่สามารถขับกรดยูริกได้จากการทำงานที่ผิดปกติของไต
  • กรดยูริกในเลือดสูงส่งผลให้เกิดผลึกเกลือยูเรตสะสมตามข้อต่อและไต เพิ่มโอกาสเกิดโรคเรื้อรังอย่างเช่น โรคเกาต์ โรคไตเรื้อรัง นิ่วในไต เป็นต้น
  • การดูแลและป้องกันภาวะกรดยูริกสูงสามารถทำได้โดยการเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีพิวรีนต่ำ ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มาก รวมถึงดูแลสุขภาพโดยรวมอย่างการออกกำลังกาย และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

กรดยูริกคืออะไร?


กรดยูริก (Uric Acid) คือ ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้จากการสลายพิวรีน (Purine) ในร่างกาย เป็นสารที่ละลายในพลาสมาได้ไม่ดี และร่างกายเราไม่สามารถเผาผลาญกรดยูริกได้ จึงต้องมีการขับออกมาจากทางไต ซึ่งปกติแล้วร่างกายเราจะมีการสังเคราะห์พิวรีนขึ้นมาเองตามธรรมชาติ และได้รับจากการรับประทานอาหารเข้าไป


เมื่อใดที่ร่างกายสร้างกรดยูริกขึ้นมามากกว่าปกติ ได้รับพิวรีนจากอาหารมากเกินไป หรือไตไม่สามารถทำหน้าที่ในการขับกรดยูริกออกมาได้ จะทำให้ในเลือดมีกรดยูริกเพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า ภาวะกรดยูริกสูง (Hyperuricemia) ซึ่งการที่มีกรดยูริกในเลือดสูงทำให้เกิดการตกผลึกกลายเป็นเกลือยูเรตไปสะสมอยู่ตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะตามข้อต่อและไต ส่งผลให้มีความเสี่ยงเกิดโรคเกาต์ นิ่วในไต ไตเสื่อม เป็นต้น


กรดยูริกสูงเกิดจากอะไร มีสาเหตุและปัจจัยใดบ้าง?


กรดยูริคสูงเกิดจากอะไร

สาเหตุของการเกิดภาวะกรดยูริกสูงเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่


  1. ร่างกายผลิตกรดยูริกในปริมาณมากผิดปกติ
  2. ร่างกายไม่สามารถขับกรดยูริกออกมาได้จากความผิดปกติของไต

โดยสาเหตุเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งเกิดจากกระบวนการที่ผิดปกติของร่างกายเอง หรือพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้


  • ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงลดลง
    เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนช่วยในการขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะ แต่เมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน ปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ทำให้ระดับกรดยูริกสูงขึ้น
  • ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและการสลายพิวรีน
    พิวรีนจะถูกย่อยสลายเป็นกรดยูริกโดยเอนไซม์ เมื่อมีความผิดปกติระดับยีนที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเอนไซม์ จึงทำให้กระบวนการสร้างกรดยูริกเพิ่มสูงขึ้น
  • ไตทำงานผิดปกติ
    ไตมีหน้าที่ในการขับกรดยูริกออกจากร่างกายผ่านปัสสาวะ กรณีที่ไตไม่สามารถทำหน้าที่กำจัดกรดยูริกออกได้อย่างเหมาะสมจากการเป็นโรคไต หรือไตเสื่อม จะทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น
  • การใช้ยาบางชนิด
    ยาบางชนิดมีผลทำให้กรดยูริกสูงขึ้น เช่น ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิด ยาแอสไพริน ฯลฯ
  • การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีพิวรีนสูง
    อาหารที่มีพิวรีนสูงมีส่วนทำให้ปริมาณกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น เช่น เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก เนื้อแดง อาหารทะเล ถั่ว ยอดผักบางชนิด ฯลฯ

นอกจากนี้อาหารและเครื่องดื่มบางชนิดยังมีผลต่อการเร่งการสลายพิวรีนให้กลายเป็นกรดยูริกสูงขึ้น หรือลดความสามารถในการขับกรดยูริกออกจากไต เช่น แอลกอฮอล์ (โดยเฉพาะเบียร์) ผลไม้และเครื่องดื่มที่มีฟรุกโตส ฯลฯ


อาการแบบนี้ มีโอกาสเกิดภาวะกรดยูริกสูง


อาการของผู้ที่มีภาวะกรดยูริกสูง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่มีการสะสมของผลึกเกลือยูเรต ซึ่งบริเวณที่ได้รับผลกระทบส่วนมากคือบริเวณข้อต่อและไต


กรณีที่ผลึกเกลือยูเรตสะสมตามข้อต่อมาก มักจะพบอาการดังต่อไปนี้


  • ปวดข้อมาก โดยเฉพาะข้อเล็กอย่างข้อนิ้วเท้า ข้อเท้า ข้อนิ้วมือ เป็นต้น
  • ข้ออักเสบ บวมแดง และอาจทำให้ข้อผิดรูป
  • ในบางรายอาจขยับข้อลำบาก ลงน้ำหนักไม่ได้

กรณีที่ผลึกเกลือยูเรตสะสมในไต อาจก่อให้เกิดนิ่วในไต หรือไตวายเรื้อรังได้ ซึ่งอาการที่พบมีดังต่อไปนี้


  • ปวดท้อง ปวดหลัง
  • ปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะลำบาก
  • ปัสสาวะเป็นเลือด
  • ความดันโลหิตสูง
  • อ่อนเพลีย

กรดยูริกในเลือดสูง อาหารชนิดไหนทานได้ ชนิดไหนทานไม่ได้?


กรดยูริกสูง ห้ามกินอะไรบ้าง

กรดยูริกที่มีในร่างกายส่วนใหญ่มาจากการสลายพิวรีนที่สร้างขึ้นในเองตามธรรมชาติ และบางส่วนมาจากการรับประทานอาหาร เมื่อปริมาณกรดยูริกในร่างกายสูงขึ้น เราสามารถลดปริมาณการรับสารพิวรีนจากอาหารได้ ซึ่งอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยมีภาวะกรดยูริกสูงทานได้ และทานไม่ได้ มีดังนี้


อาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยกรดยูริกสูงทานไม่ได้ หรือไม่ควรทานเยอะ


อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ควรทานเลย เนื่องจากมีปริมาณพิวรีนสูง ได้แก่


  • เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
  • เนื้อแดงที่ติดมัน เช่น เนื้อวัว , หมูติดมัน
  • ปลาอินทรี, ปลาไส้ตัน, ปลาซาร์ดีน, ปลาดุก
  • กุ้ง หอย
  • เห็ด, ชะอม, กระถิน
  • กะปิ
  • ยีสต์
  • ถั่วเขียว, ถั่วเหลือง, ถั่วแดง, ถั่วดำ

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรลด เนื่องจากมีปริมาณพิวรีนปานกลาง ได้แก่


  • ปู ปลาหมึก
  • ผักบางชนิด เช่น หน่อไม้, ดอกกะหล่ำ, ใบขี้เหล็ก, สะตอ
  • ข้าวโอ๊ต
  • ถั่วลันเตา ถั่วลิสง
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง เช่น น้ำอัดลม

อาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยกรดยูริกสูงทานได้ตามปกติ


  • ไข่
  • นม เนยไขมันต่ำ
  • ไขมันจากพืช สัตว์ ปลาไขมันต่ำ
  • ข้าวทุกชนิด ยกเว้นข้าวโอ๊ต
  • ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
  • กาแฟ
  • น้ำเปล่า

กรดยูริกสูง รักษาได้อย่างไร?


เมื่อตรวจพบระดับกรดยูริกในเลือดสูง จะมีแนวทางการรักษาอยู่ 2 รูปแบบที่มุ่งเน้นไปที่การลดระดับกรดยูริกสะสมในเลือด ดังนี้


การลดกรดยูริกสูงด้วยการใช้ยา


ยาลดกรดยูริกจะช่วยละลายกรดยูริกในเลือด และสามารถขับออกทางปัสสาวะได้ ลดโอกาสการเกิดผลึกเกลือยูเรตลง เมื่อระดับกรดยูริกลดลงจะช่วยลดการอักเสบตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้การใช้ยาลดกรดยูริกจะต้องทานต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดภาวะกรดยูริกสูงซ้ำ


การลดกรดยูริกสูงโดยไม่ใช้ยา


การลดกรดยูริกโดยไม่ใช้ยาสามารถทำได้ด้วยการปรับพฤติกรรมทางรับประทานอาหาร เช่น


  • งดทานอาหารที่มีพิวรีนสูง
  • จำกัดปริมาณการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนปานกลาง
  • จำกัดการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตสเป็นส่วนประกอบ
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์

นอกจากนี้ยังควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ระดับกรดยูริกในเลือดลดลง


การดูแลตนเองและป้องกันภาวะกรดยูริกสูง


วิธีการดูแลตนเองและป้องกันภาวะกรดยูริกสูงที่ดีที่สุด คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณพิวรีนต่ำเพื่อลดการเพิ่มกรดยูริกในเลือด และดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มาก เพื่อให้ร่างกายขับกรดยูริกออกมาได้มากขึ้น นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพด้วยการควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีโดยรวม


กรดยูริกสูง ต้นเหตุของโรคเรื้อรัง รีบแก้ไขก่อนกลายเป็นโรคร้าย


กรดยูริกสูงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง และภาวะแทรกซ้อนที่สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ในระยะยาว ดังนั้น การดูแลสุขภาพให้ดี รับประทานอาหารที่เหมาะสมครบหมู่ และหมั่นสังเกต ติดตามอาการอยู่เสมอจึงช่วยลดโอกาสการเกิดกรดยูริกในเลือดสูง และกรณีที่ตรวจพบได้เร็วก็สามารถแก้ไขและรักษาได้ก่อนที่จะกลายเป็นโรคเรื้อรังในอนาคต


สถาบันโรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้บริการปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางโรคไต ร่วมกับทีมนักโภชนาการ ในการวางแผนเรื่องอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายเรื้อรัง และเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ป่วยในระยะยาว


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกรดยูริกสูง


1. ค่ากรดยูริกปกติในเลือดคือเท่าไหร่?


ระดับกรดยูริกในร่างกายที่เป็นปกติจะขึ้นอยู่กับเพศและอายุ ดังนี้


  • เด็ก : 2.0-5.5 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ผู้หญิง : 2.4-6.0 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ผู้ชาย : 3.4-7.0 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

ในเด็ก การขับกรดยูริกออกทางไตยังสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการกำจัดกรดยูริกออกเริ่มลดลง แต่ยังคงระดับปกติที่สามารถละลายได้และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ


2. กรดยูริกสูงตรวจได้ด้วยวิธีใด


สามารถตรวจระดับกรดยูริกได้จากเลือดและปัสสาวะ โดยการตรวจกรดยูริกในเลือดจะเป็นการดูระดับการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย ส่วนการตรวจกรดยูริกในปัสสาวะจะเป็นการดูความสามารถในการขับกรดยูริกทางไต


References


Abudayyeh, A. Abdelrahim, M. & Salahudeen, A. (2014). Chapter 11 - Fluid and Electrolyte Abnormalities in Patients with Cancer. Renal Disease in Cancer Patients, 167-182. https://doi.org/10.1016/B978-0-12-415948-8.00011-8


Hyperuricemia (High Uric Acid Level). (2023, July 17). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/17808-hyperuricemia-high-uric-acid-level


Gout Low Purine Diet. (2022, March 14). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/22548-gout-low-purine-diet


George, C. & Minter, DA. Hyperuricemia. (2022, July 18). In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/29083565/


เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ถุงน้ำในไต อันตรายเงียบ ที่กว่าจะรู้ตัวก็อาจไตวายไปเสียแล้ว

ถุงน้ำในไตเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในเนื้อไต โดยถุงน้ำจะไปรบกวนการทำงานของไต ผู้ป่วยมักจะไม่แสดงอาการ จนเนื้อไตเสียหายและเกิดไตวายในที่สุด

การปลูกถ่ายไต ทางเลือกการรักษาของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีการรักษาภาวะไตวายเรื้อรังที่ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดสูง และผู้ป่วยหลังการผ่าตัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการฟอกไตหรือการล้างไตผ่านทางหน้าท้อง

ปัสสาวะเป็นเลือด สัญญาณเตือนอันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย

ปัสสาวะเป็นเลือด คือภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมากับปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณโรคร้ายแรงที่ต้องรีบสาเหตุ และรับการรักษาอย่างตรงจุดก่อนสายเกินแก้

ไตวายเรื้อรัง รีบรักษาตั้งแต่วันนี้ ก่อนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

ทำความรู้จัก ‘ไตวายเรื้อรัง’ ภาวะที่ไตไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และเป็นอันตรายถึงชีวิต

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

วิธีรักษาโรคไตเบื้องต้น เพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ชะลอความเสื่อมไต

วิธีรักษาโรคไตเบื้องต้น ผู้ป่วยควรดูแลตนเองด้วยการทานอาหารที่ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และควบคุมอาการโรคร่วมให้เป็นปกติ พร้อมอ่านเพิ่มเติมในบทความนี้!

กรวยไตอักเสบ อาการที่ไม่ควรมองข้าม ต้องรักษาอย่างทันท่วงที

กรวยไตอักเสบ คือ ภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยส่วนใหญ่แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการกรวยไตอักเสบ ได้แก่ อีโคไล (E.Coli)

การฟอกไต วิธียืดอายุผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ป้องกันอันตรายจากสารพิษสะสม

ฟอกไต คือการใช้เครื่องไตเทียมทดแทนการทำงานของไตที่สูญเสียไปในผู้ป่วยโรคไต ช่วยกำจัดของเสีย สารพิษ และน้ำส่วนเกินออกจากเลือด เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย

นิ่วในไต นิ่วในท่อปัสสาวะ อย่าทนปวด! รู้สาเหตุ ป้องกันได้

นิ่วในไตเป็นก้อนผลึกแข็งที่เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุ มีขนาดแตกต่างกันทั้งเล็กและใหญ่ เกิดจากสารในปัสสาวะที่มีความเข้มข้นสูงตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วในไต

ปวดหลังช่วงเอว อาจเป็นอาการช่วยเตือนว่าควรรักษาไตได้แล้ว

อาการปวดปวดหลังช่วงเอวอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคไตที่กำลังเข้ามาทำให้สุขภาพมีปัญหา แต่โรคไตก็มีอยู่หลายโรค มีโรคอะไรบ้างที่ทำให้ปวดแบบนี้ บทความนี้มีคำตอบ!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital