บทความสุขภาพ

Knowledge

ถุงน้ำในไต อันตรายเงียบ ที่กว่าจะรู้ตัวก็อาจไตวายไปเสียแล้ว

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

ถุงน้ำในไตเป็นภาวะที่หลายคนอาจไม่เคยสังเกตหรือทราบมาก่อน เนื่องจากไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน ส่วนมากมักพบถุงน้ำในไตโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพประจำปี หรืออาจตรวจพบก็ต่อเมื่อตัวโรคมีระดับความรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต ซึ่งอาจนำมาสู่โรคไตวายในที่สุด ดังนั้น การตรวจสุขภาพและการสังเกตสุขภาพตนเองอยู่เสมอ จึงช่วยลดโอกาสที่ถุงน้ำในไตจะสร้างความเสียหายต่อไตได้มากยิ่งขึ้น


Key Takeaways


  • ถุงน้ำในไต คือ ลักษณะของถุงน้ำที่มีของเหลวอยู่ภายใน แทรกตัวอยู่ในเนื้อไต ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพียงถุงเดียวหรือหลายถุง มีหลายขนาด เกิดขึ้นที่ไตข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
  • ถุงน้ำที่ไตสามารถเกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือการพัฒนาการผิดปกติของไต พบได้ตั้งแต่ทารกในครรภ์จนไปถึงผู้สูงอายุ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดถุงน้ำในไต
  • ถุงน้ำในไตโดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่ในบางรายอาจมีการแสดงอาการ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด, ความดันโลหิตสูง, ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อย, ท้องโต เป็นต้น
  • กรณีที่ถุงน้ำในไตมีขนาดไม่ใหญ่ หรือไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต ก็ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่แนะนำให้ติดตามอาการ และเข้าตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ

ถุงน้ำในไต คืออะไร


ถุงน้ำในไต (Cystic Kidney Disease หรือ Renal Cystic Disease) คือ ภาวะที่มีถุงน้ำหรือซีสต์แทรกตัวอยู่ภายในเนื้อไต ซึ่งอาจมีเพียงถุงเดียวหรือหลายถุง แต่ละถุงมีขนาดที่หลากหลาย สามารถพบได้ในเนื้อไตเพียงข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ โดยถุงน้ำที่ไตสามารถโตขึ้นได้เรื่อย ๆ จนเริ่มเบียดบังเนื้อไต ทำให้ไตไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และหากเนื้อไตค่อย ๆ ถูกทำลายจนสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียก็อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคไตได้ในที่สุด


ลักษณะของถุงน้ำในไตจะเป็นถุงหรือกระเปาะที่มีน้ำอยู่ภายใน ไม่มีลักษณะของก้อนเนื้อหรือก้อนแข็ง ซึ่งต่างจากนิ่วในไตที่เป็นของแข็งจากการตกผลึกของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สามารถเคลื่อนตัวลงมาจากไตไปสู่ทางเดินปัสสาวะ และก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดได้มากกว่าถุงน้ำในไต


ทำความรู้จักโรคนิ่วในไตมากขึ้น อ่านต่อได้ที่ : นิ่วในไต


ถุงน้ำในไตเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?


โรคถุงน้ำในไตสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ในที่นี้สามารถแบ่งประเภทของสาเหตุออกเป็น 2 หัวข้อใหญ่ ได้แก่ การเกิดถุงน้ำในไตจากพันธุกรรม และการเกิดถุงน้ำในไตที่ไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม


ถุงน้ำในไตจากพันธุกรรม


ถุงน้ำในไตจากพันธุกรรมสามารถแบ่งสาเหตุได้อีกจากการถ่ายทอดลักษณะของยีนที่ก่อให้เกิดโรค


  • โรคถุงน้ำในไตหลายใบชนิดถ่ายทอดแบบลักษณะเด่น (Autosomal Dominant Polycystic Kidney Disease, ADPKD)

ADPKD คือ โรคที่ได้รับยีนผิดปกติมาจากพ่อหรือแม่ที่เป็นโรคถุงน้ำในไต สามารถพบได้บ่อยกว่าโรคถุงน้ำในไตชนิดอื่น ๆ โดยถุงน้ำจะสามารถโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มสร้างความเสียหายต่อระบบไต และเพิ่มโอกาสเกิดไตวายเรื้อรังได้ ส่วนใหญ่จะตรวจพบในช่วงอายุระหว่าง 30-50 ปี


  • โรคถุงน้ำในไตหลายใบชนิดถ่ายทอดแบบลักษณะด้อย (Autosomal Recessive Polycystic Kidney Disease, ARPKD)

ARPKD คือ โรคที่ได้รับยีนผิดปกติมาจากพ่อและแม่ที่เป็นพาหะ พบได้น้อย แต่มีอาการรุนแรงที่สามารถพบได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือตั้งแต่แรกเกิด โดยผู้ป่วยจะมีถุงน้ำจำนวนมาก ทำให้ไตมีขนาดใหญ่ผิดปกติ และส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของไต


  • โรคถุงน้ำในไตชนิด Medullary Cystic (Medullary Cystic Kidney Disease, MCKD) หรือ Autosomal Dominant Tubulointerstitial Kidney Disease (ADTKD)

มักเกิดจากการได้รับการถ่ายทอดลักษณะเด่น โดยถุงน้ำชนิดนี้จะเกิดขึ้นที่ส่วนลึกของไต มีขนาดเล็ก และไม่แสดงอาการ ส่วนใหญ่จะพบรอยโรคโดยบังเอิญเมื่อตรวจสุขภาพ


ถุงน้ำในไตที่ไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม


ถุงน้ำในไตอาจไม่ได้เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาการที่ผิดปกติ หรือเกิดขึ้นตามอายุได้เช่นกัน


  • ถุงน้ำในไตแบบธรรมดา (Simple Kidney Cyst)

เป็นชนิดถุงน้ำเดี่ยว ซึ่งอาจมีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ภายในถุงน้ำมีเพียงน้ำใส ๆ เท่านั้น และไม่แสดงอาการเจ็บปวดใด ๆ สามารถพบได้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี รวมถึงผู้ที่มีโรคไตเรื้อรัง


  • โรคไตเนื้อลีบมีถุงน้ำหลายใบ (Multicystic Dysplastic Kidney Disease, MCDK)

เกิดจากการพัฒนาการผิดปกติของทารกในครรภ์ ทำให้เกิดถุงน้ำหลายใบกระจายแทนที่เนื้อไต ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ แต่กรณีที่เกิดโรคขึ้นทั้งสองข้างจะมีความรุนแรง และมักเสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด


  • ถุงน้ำที่ท่อไตแต่กำเนิด (Medullary Sponge Kidney, MSK)

เป็นถุงน้ำในไตที่เกิดขึ้นบริเวณท่อไต มีขนาดเล็ก และเป็นมาตั้งแต่กำเนิด สามารถขัดขวางการขับน้ำปัสสาวะจนทำให้เกิดอาการหรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น นิ่วในไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ มีปัสสาวะเป็นเลือด ฯลฯ


อาการที่อาจพบในผู้ป่วยโรคถุงน้ำในไต


อาการถุงน้ำในไต

ส่วนใหญ่แล้ว โรคถุงน้ำในไตอาจไม่แสดงอาการใด ๆ และสามารถตรวจพบโดยบังเอิญจากการอัลตราซาวนด์ หรือการทำ CT Scan ช่องท้อง แต่ในบางรายที่ถุงน้ำในไตมีความรุนแรงขึ้นหรือเกิดขึ้นในตำแหน่งที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต อาจมีอาการดังต่อไปนี้


  • ปัสสาวะเป็นเลือด
  • ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อย
  • ปัสสาวะมีตะกอนจากนิ่ว
  • ความดันโลหิตสูง
  • ปวดหลังช่วงล่าง
  • ท้องโต สามารถคลำพบก้อนในท้อง

การวินิจฉัยโรคถุงน้ำในไต


การวินิจฉัยโรคถุงน้ำในไตสามารถตรวจพบได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้


  • การตรวจอัลตราซาวนด์ไต
  • การอัลตราซาวนด์ก่อนคลอด เพื่อค้นหารอยโรคทารกในครรภ์
  • การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
  • การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
  • การตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม เพื่อหายีนกลายพันธุ์ที่อาจนำไปสู่โรคถุงน้ำในไตได้

แนวทางการรักษาโรคถุงน้ำในไต


ถุงน้ำในไต รักษา

โรคถุงน้ำในไตเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาโดยการประคับประคองให้ไตสามารถทำงานได้ใกล้เคียงปกติ เพื่อชะลอการดำเนินของโรค และลดอาการเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นจากโรค ซึ่งแนวทางการรักษามีดังนี้


  • การควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยการใช้ยา และการปรับพฤติกรรม
  • การเจาะถุงน้ำให้ยุบตัว โดยใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ช่วยนำทางให้เข็มเจาะไปสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง แล้วเจาะดูดเอาของเหลวออกมาจากถุงน้ำในไต (ใช้เฉพาะถุงน้ำในไตบางชนิดเท่านั้น)
  • การผ่าตัดนำถุงน้ำออก สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (ใช้เฉพาะถุงน้ำในไตบางชนิดเท่านั้น)
  • กรณีที่ไตเสียหายจนเกิดไตวาย อาจต้องเข้ารับการฟอกไต หรือปลูกถ่ายไต

ทั้งนี้ หากถุงน้ำในไตไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต และระบบทางเดินปัสสาวะ อาจไม่จำเป็นต้องรักษา เพียงแต่ควรจะติดตามอาการอยู่เสมอ


ดูแลตนเองเมื่อตรวจพบถุงน้ำในไต


ถุงน้ำในไตเกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือความผิดปกติจากพัฒนาการของร่างกาย รวมถึงอายุที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุปัจจัยที่ไม่อาจป้องกันได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจพบถุงน้ำที่ไตแล้ว เราสามารถดูแลตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้นจนส่งผลต่อสุขภาพ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้


  • ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอ
  • นอนหลับพักผ่อน ลดความเครียด
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ลดการรับประทานอาหารรสจัด และรับประทานให้ครบหมู่
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

การดูแลตนเองด้วยวิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูง และช่วยป้องกันไม่ให้ไตทำงานหนักจนเกินไป


ถุงน้ำในไต ควรเฝ้าระวังและติดตามอาการอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงไตวายในอนาคต


ถุงน้ำในไตเป็นโรคที่หลายคนเป็นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่มีสัญญาณและอาการบ่งชี้ใด ๆ จนกระทั่งถุงน้ำในไตมีขนาดใหญ่จนไปเบียดเนื้อไต ส่งผลให้ไตทำงานได้ไม่เต็มที่ และเกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้กว่าจะสังเกตอาการก็มักจะตรวจพบเมื่ออาการรุนแรงไปเสียแล้ว การตรวจสุขภาพและสังเกตร่างกายตนเองอยู่เสมอจะช่วยลดโอกาสที่ถุงน้ำในไตจะพัฒนาไปเป็นโรคอันตรายอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในอนาคต


สถาบันโรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า บริการตรวจสุขภาพไตเพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของไต และค้นหาความเสี่ยงในการเกิดโรคไตโดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมวางแผนการดูแลรักษาสุขภาพไตเพื่อลดความเสี่ยงไตวายในอนาคต


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม




คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถุงน้ำในไต


1. ถุงน้ำในไตส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอะไรบ้าง?


ถุงน้ำในไตสามารถส่งผลให้เกิดอาการและโรคแทรกซ้อนได้หลายโรค เช่น ความดันโลหิตสูง, การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ, กรวยไตอักเสบ, ไตวาย, เลือดออกใต้สมอง, หลอดเลือดสมองโป่งพอง, ภาวะหายใจลำบากจากปอดทำงานบกพร่อง, ตับแข็ง เป็นต้น


2. ถุงน้ำที่ไต หายเองได้ไหม?


ถุงน้ำที่ไตส่วนใหญ่ไม่สามารถหายเองได้ แต่ปกติแล้วจะไม่เป็นอันตราย หากถุงน้ำในไตมีขนาดเล็กและไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต


References


Medullary Sponge Kidney. (n.d.). National Kidney Foundation. https://www.kidney.org/kidney-topics/medullary-sponge-kidney


Polycystic Kidney Disease. (2024, September 24). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/5791-polycystic-kidney-disease


Cystic Kidney Disease. (2025, January 27). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21846-cystic-kidney-disease


Verghese, P. (2025, February 20). Pediatric Polycystic Kidney Disease. Medscape. https://emedicine.medscape.com/article/983281-overview?form=fpf


Goksu SY, Leslie SW, Khattar D. Renal Cystic Disease. [Updated 2023 Oct 23]. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2025 Jan-. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK554504/

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ตรวจพบกรดยูริกสูง เสี่ยงเกาต์เสี่ยงไต แก้ไขอย่างไรดี?

กรดยูริกสูงเกิดจากไตไม่สามารถขับกรดยูริกออกมาตามปกติ หรือร่างกายผลิตกรดยูริกมากเกินไป ส่งผลให้เกิดผลึกเกลือยูเรตสะสมตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย

การตรวจ EEG วินิจฉัยเนื้องอก ภัยเงียบที่ต้องรีบรักษาก่อนสาย

EEG คือ การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองโดยติดขั้วไฟฟ้าบนหนังศีรษะ เพื่อบันทึกสัญญาณไฟฟ้าของสมอง ช่วยตรวจหาความผิดปกติ เช่น โรคลมชัก เนื้องอกในสมอง เป็นต้น

เนื้องอกต่อมใต้สมอง ยิ่งตรวจพบเร็ว มีโอกาสรักษาหายได้ไว

ต่อมใต้สมอง เสมือนหอสั่งการให้ต่อมไร้ท่ออื่น ๆ ผลิตฮอร์โมนตามความต้องการของร่างกาย ความผิดปกติอาจทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม

การปลูกถ่ายไต ทางเลือกการรักษาของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีการรักษาภาวะไตวายเรื้อรังที่ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดสูง และผู้ป่วยหลังการผ่าตัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการฟอกไตหรือการล้างไตผ่านทางหน้าท้อง

เรื่องควรรู้ก่อนการเสริมจมูก

การเสริมจมูกเป็นผ่าตัดเสริมสวยที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในชาวไทยเนื่องจากธรรมชาติของเรามักจะมีดั้งจมูกที่ค่อนข้างต่ำและมักมีปัญหาปลายจมูกไม่ได้รูปทรงที่เด่นชัด ซึ่งอาจมีทั้งปลายจมูกแบนหรือค่อนข้างกว้างขวาง รวมถึงปัญหาปีกจมูกที่ค่อนข้างกว้าง

การเจาะตับไม่เจ็บ มีผลดีอย่างไร

การเจาะตับไม่เจ็บ มีผลดี ผมรักษาโรคตับอับเสบอยู่ที่อื่นอยู่ปีกว่าก็ยังไม่รู้สาเหตุ ซึ่งมีคนแนะนำว่าให้ลองมารักษาที่ ร.พ.พระราม 9 ดู เพราะมีหมอเก่งหลายท่าน ผมก็เลยลองมาหาดู ซึ่งครั้งแรกที่ได้พบกับคุณหมอระพีพันธ์นั้นก็เกิดการประทับใจแล้ว

ผ่าตัดนิ้วล็อกมีกี่แบบ เลือกรักษาวิธีไหนที่เหมาะกับอาการของคุณ

การผ่าตัดนิ้วล็อกถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ช่วยรักษาอาการนิ้วล็อกให้หายได้ภายในเวลา 15-20 นาทีเท่านั้น และสามารถกลับไปพักที่บ้านต่อได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

บ้านหมุน น่ากลัวไหม? เช็กสาเหตุอาการบ้านหมุน พร้อมวิธีรักษา

เข้าใจอาการบ้านหมุน เวียนหัวเกิดจากอะไร? ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม เช็กสาเหตุ วิธีป้องกันบ้านหมุน และวิธีการรักษาโรคบ้านหมุน ทำอย่างไรให้ห่างไกลความเสี่ยง

อาการเวียนหัว เกิดจากสาเหตุใด ควรดูแลรักษายังไงเมื่อมีอาการ

อาการเวียนหัว เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้รู้สึกหมุนหรือโคลงเคลง มึนงง หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม อาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเสียการทรงตัวได้

ปวดท้องประจำเดือนบ่อย อย่าทน รีบหาสาเหตุก่อนเป็นอันตราย

ปวดท้องประจำเดือน อาจเป็นอาการที่เกิดจากมดลูกบีบตัวและหดเกร็งมากซึ่งเป็นภาวะปกติ หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของมดลูกที่ต้องรีบหาสาเหตุเพื่อรักษาที่ต้นเหตุ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital