บทความสุขภาพ

Knowledge

Nephrotic Syndrome คือโรคอะไร เด็กเป็นไหม ทำไมถึงบวม?

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

อาการตัวบวมอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะรอบดวงตา ขา หรือท้อง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคไตที่หลายคนไม่คุ้นชื่ออย่าง Nephrotic Syndrome ซึ่งหากละเลยการรักษา ก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ แล้ว Nephrotic Syndrome คืออะไร? มีสาเหตุจากอะไร รักษาอย่างไร ไตอักเสบจนโปรตีนรั่วอันตรายไหม?


ไปทำความเข้าใจโรคไตชนิดนี้อย่างรอบด้าน ตั้งแต่อาการเริ่มต้น วิธีการวินิจฉัย การรักษา รวมถึงแนวทางดูแลตัวเองเมื่อมีอาการ


Key Takeaways


  • Nephrotic Syndrome คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหน่วยไต ทำให้มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ และเกิดอาการบวมตามร่างกาย
  • เด็กสามารถเป็น Nephrotic Syndrome ได้ และในบางกรณีสามารถรักษาให้หายได้ถ้าได้รับการดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • อาการเริ่มต้นที่พบบ่อยคือ ตัวบวมผิดปกติ ปัสสาวะมีฟอง และอาจมีอาการเหนื่อยง่ายร่วมด้วย
  • การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการ เช่น การให้ยากดภูมิคุ้มกัน ยาขับปัสสาวะ และการควบคุมอาหาร
  • หากไม่รักษา Nephrotic Syndrome อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ไตวาย ลิ่มเลือดอุดตัน หรือการติดเชื้อเนื่องจากภูมิคุ้มกันต่ำ

Nephrotic Syndrome คือโรคอะไร?


Nephrotic Syndrome คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของไต จนบางคนเรียกรวม ๆ ว่าโรคไต โดยเฉพาะบริเวณหน่วยกรองของไตหรือที่เรียกว่า Glomerulus ซึ่งทำหน้าที่กรองของเสียและควบคุมสมดุลของโปรตีนในร่างกาย เมื่อบริเวณนี้เกิดการอักเสบหรือถูกทำลาย จะทำให้โปรตีนที่จำเป็น เช่น อัลบูมิน (Albumin) รั่วออกมากับปัสสาวะในปริมาณมากกว่าปกติ


Nephrotic Syndrome มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง


แม้ว่า Nephrotic Syndrome จะเป็นคำที่ใช้เรียกภาวะที่แสดงออกผ่านอาการบวมและโปรตีนรั่วในปัสสาวะ แต่เบื้องหลังของโรคนี้กลับมีที่มาแตกต่างกันไปในแต่ละราย โดยสาเหตุของโรคจะสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้


เนโฟรติกชนิดปฐมภูมิ


กลุ่มนี้เกิดจากความผิดปกติที่ตัวเนื้อเยื่อไตโดยตรง โดยไม่ได้มีโรคอื่นเป็นสาเหตุร่วม สาเหตุที่พบบ่อยใน Nephrotic Syndrome ชนิดปฐมภูมิคือ โรค Minimal Change Disease ซึ่งพบมากในเด็ก และยังรวมถึงโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเนื้อไต เช่น Focal Segmental Glomerulosclerosis (FSGS) และ Membranous Nephropathy


นอกจากนี้ยังมีกรณีที่เด็กทารกบางรายเกิดภาวะนี้ตั้งแต่กำเนิด ซึ่งสัมพันธ์กับพันธุกรรม โดยพบได้แม้ในครอบครัวที่ไม่มีประวัติโรคไตก่อนหน้า


เนโฟรติกชนิดทุติยภูมิ


เนโฟรติกชนิดทุติยภูมิจะเกิดจากปัจจัยหรือโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต โดยมักพบในกลุ่มผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ เช่น


  • โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้เป็นเวลานาน
  • โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เช่น SLE
  • การติดเชื้อเรื้อรัง เช่น ไวรัสตับอักเสบบี มาลาเรีย หรือ HIV
  • ภาวะแทรกซ้อนจากมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะในระบบเลือด
  • ผลข้างเคียงจากยา หรือการสัมผัสสารพิษบางชนิด

หากพบในเด็กก็อาจจะมาจากสาเหตุที่แตกต่างออกไป เช่น การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ไวเกินจากวัคซีน หรือพิษจากแมลง แต่มักจะพบได้น้อย


Nephrotic Syndrome มีอาการอย่างไร


อาการโปรตีนรั่ว

อาการเริ่มต้นของ Nephrotic Syndrome คืออาการบวมตามร่างกาย ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการบวมรอบดวงตา โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังตื่นนอน ขาบวม หน้าเท้า เท้าบวม หรือแม้กระทั่งท้องบวม ในบางรายอาจมีอาการบวมทั่วทั้งร่างกาย โดยอาการบวมนี้ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บหรืออักเสบเฉพาะจุด แต่เกิดจากการสูญเสียโปรตีนในร่างกาย ซึ่งเป็นผลจากอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะ


อีกหนึ่งอาการที่พบบ่อยคือปัสสาวะเป็นฟองผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของการมีโปรตีนชนิดอัลบูมินหลุดออกมาทางปัสสาวะมากเกินไป และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ปัสสาวะไม่ออก หรือปัสสาวะออกมาน้อยได้


ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจาก Nephrotic Syndrome หากปล่อยไว้นาน


โรค Nephrotic Syndrome หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็สามารถนำไปสู่โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ ดังนี้


  • ติดเชื้อง่ายกว่าปกติ เมื่อร่างกายสูญเสียโปรตีนออกทางปัสสาวะ ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น เยื่อบุช่องท้องอักเสบ ปอดบวม หรือแม้แต่ติดเชื้อในกระแสเลือด
  • เกิดลิ่มเลือดในร่างกาย การเสียสมดุลของโปรตีนบางชนิดในเลือด ทำให้มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ เช่น ลิ่มเลือดในขาหรือปอด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่รักษา
  • ไขมันในเลือดสูงผิดปกติ เมื่อโปรตีนในเลือดลดลง ร่างกายจะตอบสนองโดยการพยายามสร้างโปรตีนและไขมันเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต
  • ไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรัง หากปล่อยให้เป็นโรคโปรตีนรั่วเรื้อรังโดยไม่ได้รับการควบคุม อาจทำให้ไตค่อย ๆ เสื่อมประสิทธิภาพลง จนพัฒนาเป็นไตวายเรื้อรัง และต้องรับการฟอกไตในที่สุด
  • บวมน้ำเรื้อรังและขาดสารอาหาร การสูญเสียโปรตีนทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้มากขึ้น เกิดอาการบวมตามตัว และอาจทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้สุขภาพทรุดโทรม

Nephrotic Syndrome สามารถวินิจฉัยได้อย่างไร


การวินิจฉัย Nephrotic Syndrome เริ่มจากการตรวจร่างกายและประเมินอาการที่สังเกตได้ เช่น อาการบวมผิดปกติร่วมกับปัสสาวะเป็นฟอง จากนั้นแพทย์จะตรวจปัสสาวะเพื่อวัดระดับโปรตีน และเจาะเลือดเพื่อตรวจค่าอัลบูมินและไขมันในเลือด


เมื่อผลตรวจชี้ว่าอาจเป็นภาวะไตผิดปกติ แพทย์จะพิจารณาประวัติโรคอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น เบาหวาน ลูปัส หรือโรคติดเชื้อบางชนิด เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม ทั้งนี้ Nephrotic Syndrome คือกลุ่มอาการที่สะท้อนถึงการทำงานผิดปกติของหน่วยกรองไต จึงอาจต้องใช้การตรวจอย่างละเอียด เช่น การตรวจแอนติบอดี หรือการเจาะชิ้นเนื้อไตในบางราย เพื่อที่จะยืนยันสาเหตุและวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ


Nephrotic Syndrome รักษาได้ด้วยวิธีไหน


โรค Nephrotic Syndrome

การรักษาเนฟโฟรติก ซินโดรม จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละกรณีขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแล้วหรือไม่ อาการรุนแรงแค่ไหน หากอาการรุนแรงก็อาจจะมีการเสริมโปรตีนอัลบูมินโดยเฉพาะในเด็ก หรือหากทราบสาเหตุแล้วก็จะใช้ยาที่แก้ปัญหานั้น โดยเฉพาะ เช่น


  • รักษาจากสาเหตุของโรคโดยตรง ซึ่งอาจทำการเจาะชิ้นเนื้อไต (renal biopsy) เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนใช้ยา
    • ยาปฏิชีวนะ ในกรณีติดเชื้อแบคทีเรีย
    • ยาต้านไวรัส ในกรณีมีการติดเชื้อไวรัส
    • ยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน
    • ยาเฉพาะทางสำหรับโรคภูมิคุ้มกัน เช่น SLE
    • การให้อัลบูมินและใช้ยาขับปัสสาวะ ในเด็กที่มีอาการบวมรุนแรง
  • รักษาอาการร่วมและภาวะแทรกซ้อน
    • ยาขับปัสสาวะ เช่น ฟูโรซีไมด์ ลดอาการบวม (พิจารณาเป็นรายบุคคล)
    • ยาลดความดันโลหิตสูง เช่น Enalapril, Losartan
    • ยาลดไขมันในเลือด เช่น Simvastatin
    • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น เฮพาริน หรือวาร์ฟาริน
  • การใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
    • สเตียรอยด์ เช่น เพร็ดนิโซโลน (Prednisolone) เพื่อควบคุมการอักเสบของไต
    • กรณีรุนแรงหรือดื้อยา อาจใช้ยาอื่นร่วม เช่น Rituximab, Cyclosporine, Cyclophosphamide
    • แพทย์จะติดตามผลด้วยการตรวจเลือดและปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม

Nephrotic Syndrome คือโรคซึ่งเกิดจากไตผิดปกติที่ควรรีบรักษา


Nephrotic Syndrome คือภาวะที่ไตทำงานผิดปกติจนทำให้โปรตีนรั่วออกทางปัสสาวะ ส่งผลให้ร่างกายบวม ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในรายที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ


หากสังเกตว่าตนเองมีอาการบวม ปัสสาวะเป็นฟอง หรือรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ควรรีบมาที่สถาบันโรคไต โรงพยาบาลพระราม 9 เพื่อปรึกษาแพทย์ ตรวจคัดกรองและรักษาอย่างถูกต้อง เพราะการดูแลตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันภาวะไตวายได้ในระยะยาว


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Nephrotic Syndrome


1. Nephrotic Syndrome สามารถป้องกันได้ไหม?


การป้องกันโรค Nephrotic Syndrome คือการดูแลสุขภาพทั่วไปเพื่อลดความเสี่ยง เช่น ควบคุมน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต ตรวจสุขภาพประจำปี และหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลกระทบต่อไตโดยไม่จำเป็น


2. เด็กสามารถเป็น Nephrotic Syndrome ได้หรือไม่?


เด็กสามารถมีภาวะ Nephrotic Syndrome ได้เช่นกัน โดยมักเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ และบางรายสามารถหายขาดเมื่อได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่ระยะแรก


References


Cleveland Clinic. (n.d.). Nephrotic syndrome: Causes, symptoms & treatment. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/5989-nephrotic-syndrome


Kang, H., & Park, Y. (2023). Nephrotic syndrome. In StatPearls. StatPearls Publishing. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK470444/


National Health Service. (2023, June 14). Nephrotic syndrome in children. https://www.nhs.uk/conditions/nephrotic-syndrome/

เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

พญ. ชโลธร แต้ศิลปสาธิต

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต โรงพยาบาลพระรามเก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

รู้ทันอาการ 'เท้าบวม' บ่งบอกปัญหาสุขภาพอะไรได้บ้าง?

อาการเท้าบวมเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ยืนหรือนั่งนาน โรคหัวใจ โรคไต หลอดเลือดดำอุดตันที่ขา การติดเชื้อ ฯลฯ พบได้ทุกวัย แต่ในผู้สูงอายุจะพบได้บ่อยจากของเหลวคั่ง

ค่าไต Creatinine คืออะไร ต่างกับค่า BUN, eGFR อย่างไร

Creatinine คือของเสียที่เกิดจากกล้ามเนื้อ และถูกขับออกจากร่างกายโดยไต การวัดค่า Creatinine เป็นหนึ่งในวิธีตรวจการทำงานของไตว่ายังทำงานได้ดีเป็นปกติหรือไม่

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคใกล้ตัวชาวออฟฟิศที่ไม่ควรมองข้าม!

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง มักมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย และมักเกิดจากพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

ตรวจพบกรดยูริกสูง เสี่ยงเกาต์เสี่ยงไต แก้ไขอย่างไรดี?

กรดยูริกสูงเกิดจากไตไม่สามารถขับกรดยูริกออกมาตามปกติ หรือร่างกายผลิตกรดยูริกมากเกินไป ส่งผลให้เกิดผลึกเกลือยูเรตสะสมตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย

ถุงน้ำในไต อันตรายเงียบ ที่กว่าจะรู้ตัวก็อาจไตวายไปเสียแล้ว

ถุงน้ำในไตเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในเนื้อไต โดยถุงน้ำจะไปรบกวนการทำงานของไต ผู้ป่วยมักจะไม่แสดงอาการ จนเนื้อไตเสียหายและเกิดไตวายในที่สุด

การปลูกถ่ายไต ทางเลือกการรักษาของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

การปลูกถ่ายไตเป็นวิธีการรักษาภาวะไตวายเรื้อรังที่ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดสูง และผู้ป่วยหลังการผ่าตัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการฟอกไตหรือการล้างไตผ่านทางหน้าท้อง

ปัสสาวะเป็นเลือด สัญญาณเตือนอันตรายร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย

ปัสสาวะเป็นเลือด คือภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงปะปนมากับปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณโรคร้ายแรงที่ต้องรีบสาเหตุ และรับการรักษาอย่างตรงจุดก่อนสายเกินแก้

ไตวายเรื้อรัง รีบรักษาตั้งแต่วันนี้ ก่อนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

ทำความรู้จัก ‘ไตวายเรื้อรัง’ ภาวะที่ไตไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และเป็นอันตรายถึงชีวิต

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

วิธีรักษาโรคไตเบื้องต้น เพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ชะลอความเสื่อมไต

วิธีรักษาโรคไตเบื้องต้น ผู้ป่วยควรดูแลตนเองด้วยการทานอาหารที่ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และควบคุมอาการโรคร่วมให้เป็นปกติ พร้อมอ่านเพิ่มเติมในบทความนี้!

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital