บทความสุขภาพ

Knowledge

จะทราบว่าตนเองไข่ตกได้อย่างไร


จะทราบว่าตนเองไข่ตกได้อย่างไร


การดูว่าตนเองไข่ตกนั้นมีด้วยกันหลายวิธี


1. ประวัติประจำเดือน ตามธรรมชาติที่มีไข่ตกเป็นปกติจะมีรอบเดือนมาทุกๆ 28-30 วันอย่างไรก็ตามร้อยละ 10 ของสตรีที่มีรอบเดือนมาปกติอาจไม่มีไข่ตกก็ได้


2. การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย อุณหภูมิของร่างกายก่อนตกไข่จะต่ำกว่าระยหลังตกไข่ ภายหลังไข่ตกไปแล้วอุณหภูมิจะสูงอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นจะลดลงเล็กน้อยก่อนที่จะมีระดูในรอบถัดไป วิธีการตรวจวัดทำโดยให้วัดอุณหภูมิทุกวันตอนเช้าภายหลังตื่นนอนทันที โดยอมปรอทใต้ลิ้นและนำมาอ่านผล ข้อเสียของวิธีนี้คือต้องปฏิบัติทุกวัน และการที่มีไข่ตกนั้นเป็นการดูย้อนหลัง ซึ่งระดูรอบถัดไปอาจจะไม่มีไข่ตกก็ได้


3. การตรวจหาฮอร์โมน LH ปัจจุบันมีการตรวจวัดฮอร์โมนดังกล่าวทั้งจากทางเลือดและปัสสาวะ โดยหากตรวจพบผลบวกจะตกไข่ภายใน 14-26 ชั่วโมง ดังนั้นก็จะแนะนำให้มีการร่วมเพศในวันถัดไป ข้อเสียคืออาจต้องตรวจหลายครั้งในแต่ละรอบระดูทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย


4. การเจาะเลือดเพื่อหาฮฮร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ในระยะก่อนไข่ตกฮฮร์โมนโปรเจสเตอโรนจะอยู่ในระดับต่ำๆ คือน้อยกว่า 1 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร ภายหลังตกไข่จะมีระดับที่สูงขึ้น ในทางปฏิบัติจะทำการตรวจเลือดในวันที่ 21 ของรอบระดู เพื่อส่งตรวจหาฮฮร์โมนโปรเจสเตอโรน ถ้าค่าได้มากกว่า 3 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรก็บอกว่ามีไข่ตก อย่างไรก็ตามวิธีนี้เหมาะสำหรับในรายที่มีรอบเดือนที่มาสม่ำเสมอ


5. การสุ่มตัดชิ้นเนื้อจากโพรงมดลูก ปัจจุบันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีนี้ เนื่องจากมีความเจ็บปวด เสียค่าใช้จ่ายสูงในการตรวจหาชื้นเนื้อ


6. การอัลตราซาวด์เพื่อกำหนดวันตกไข่ เป็นวิธีที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากทำได้สะดวก ไม่เจ็บปวด โดยก่อนไข่ตกถุงไข่จะโตขึ้นประมาณ 2 มิลลิเมตรต่อวัน ในช่วงก่อนไข่ตกจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 18-25 มิลลิเมตร ดังนั้นจึงสามารถคาดคะเนวันตกไข่ได้



เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง (10)

ดูทั้งหมด

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนให้หายดี ลดเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สัญญาณเตือนที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

เนื้องอกมดลูก อันตรายใกล้ตัวของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

เนื้องอกมดลูก มีสาเหตุมาจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกเจริญผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยบางส่วนอาจมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย

ต่อมลูกหมากโต (BHP) อาการเป็นอย่างไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัดและกระทบต่อคุณภาพชีวิต มักพบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนอายุ 50 ปีขึ้นไป

รู้ทันอาการริดสีดวงทวาร กับพฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

ปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงโรคอันตรายบั่นทอนคุณภาพชีวิต

ปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่การดื่มน้ำหรือของเหลวในปริมาณมาก ได้รับคาเฟอีนมาก การใช้ยา ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ เรียนรู้ในบทความนี้!

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน ทางเลือกรักษาข้อเข่าเสื่อม แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว

การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมบางส่วน หรือ UKA เป็นการผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยเอาผิวข้อเฉพาะส่วนที่สึกหรอออก และเก็บผิวข้อเข่าส่วนที่ยังมีสภาพดีไว้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ในการกลับไปใช้ข้อเข่าได้เหมือนธรรมชาติ

คุณเป็นโรคภูมิแพ้…จริงหรือ…?

คนทั่วไปเมื่อมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ มักจะบอกว่า เป็นโรคภูมิแพ้ หรือไม่ก็เข้าใจว่าตนเป็นหวัด หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คนทั่วไปมักเป็นได้ปีละ 4 – 5 ครั้งก็มากเกินปกติแล้ว อาการหวัดมักเป็นอยู่ 3 – 4 วัน

โรคไข้อีดำอีแดง โรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อมูลจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โรคไข้อีดำอีแดงหรือ scarlet fever เป็นโรคที่เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียชื่อ #สเตร็ปโตคอคคัสชนิดเอ ทำให้มีผื่นแดง ตามตัวร่วมกับคอหอยหรือทอนซิลอักเสบ พบบ่อยในช่วงอายุระหว่าง 5-15 ปี

วัคซีนปอดอักเสบนิวโมคอกคัสชนิดใหม่ 20 สายพันธุ์ (PCV 20)

โรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอกคัสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ส่วนใหญ่เชื้อจะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอ สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางละอองฝอยทางการไอหรือจาม เป็นหนึ่งในเชื้อที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่พบบ่อย ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital