โรคงูสวัด
โรคงูสวัด (herpes zoster หรือ shingles) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส varicella-zoster โดยการติดเชื้อครั้งแรกทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส (chickenpox) มักเป็นในวัยเด็ก และเชื้อไวรัสนี้แฝงอยู่ในร่างกายบริเวณปมประสาท เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดลง ไวรัสนี้จะก่อให้เกิดโรคงูสวัดได้ โดยกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตนเอง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น
อาการของโรคงูสวัด
มีผื่นผิวหนัง ร่วมกับเส้นประสาทอักเสบ โดยผื่นเริ่มเป็นตุ่มแดง เป็นกระจุกตามแนวเส้นประสาท ไม่ข้ามแนวกลางลำตัว ต่อมากลายเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และตกสะเก็ด รวมกับอาการปวดประสาท ปวดแสบปวดร้อน ซึ่งส่วนใหญ่มักปวดนำมาก่อนผื่นผิวหนัง 2-3 วัน อาจมีไข้ ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ และอ่อนเพลียร่วมด้วย
ภาวะแทรกซ้อนของโรคงูสวัด
- อาการปวดปลายประสาทหลังงูสวัด (postherpetic neuralgia) ตามแนวที่ตุ่มน้ำขึ้น มักปวดนานเกิน 3 เดือน มักพบมากขึ้นในผู้สูงอายุ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- Herpes zoster opthalmicus เป็นการติดเชื้อที่เส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 แขนงที่เลี้ยงตา ซึ่งหากมีการอักเสบภายในตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
- Ramsay hunt syndrome หรือ herpes zoster oticus ติดเชื้อที่ปมประสาท และเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 อาการมาด้วยใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก ร่วมกับปวดหู และตุ่มน้ำขึ้นที่หู
- ภาวะแทรกซ้อนระบบประสาทอื่น ๆ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) เป็นต้น
การรักษาโรคงูสวัด
รักษาด้วยยาต้านไวรัส ซึ่งควรเริ่มยาภายใน 3 วันหลังจากเริ่มมีอาการ จะได้ผลการรักษาดี รวมกับยาลดอาการปวด ในรายที่เป็นมาก มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพทย์อาจรับไว้ในโรงพยาบาลเพื่อให้ยาฉีดต้านไวรัส
การป้องกันโรคงูสวัด
วัคซีนป้องกันงูสวัดตัวใหม่ เป็น recombinant zoster vaccine ซึ่งดีกว่าวัคซีนเดิมที่เป็นเชื้อมีชีวิตทำให้อ่อนฤทธิ์ลง (zoster vaccine live) วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัดถึง 97% ในผู้ที่มีอายุ 50-69 ปี และ 91% ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี และมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการปวดปลายประสาทหลังงูสวัดได้ถึง 89-91% ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัด 68-91%
ใครบ้างควรฉีดวัคซีนงูสวัด
- ทุกคนที่อายุมากกว่า 50 ปี
- ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ที่มีอายุมากกว่า 19 ปี
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงเหมือนวัคซีนทั่วไป หลังฉีดควรสังเกตอาการแพ้ที่โรงพยาบาล อาการข้างเคียงที่พบ ได้แก่ อาการปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ ไข้หนาว คลื่นไส้ ปวดท้อง ใน 2-3 วัน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่รุนแรง และหายเองได้ 2-3 วัน
ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน
ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนรุนแรง ตั้งครรภ์ หรือกำลังป่วยโรคงูสวัดอยู่
การฉีควัคซีน
ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน สามารถฉีดได้ในคนที่เคยเป็นโรคงูสวัดมาก่อน เคยฉีดวัคซีนงูสวัดรุ่นเดิมหรือวัคซีนอีสุกอีใสมาก่อน โดยควรเว้นจากวัคซีนเดิมอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป