บทความสุขภาพ
Knowledge
นพ. สิทธิ เพชรรัชตะชาติ
อัมพาต (Paralysis) โรคที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อในร่างกาย ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ตามปกติ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุและยังเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ อีกด้วย แต่ทั้งนี้สามารถทำความเข้าใจถึงสาเหตุของโรคอัมพาตได้ว่าเกิดจากอะไร และมีแนวทางการรักษาอย่างไรบ้างเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ในอนาคต
Key Takeaways
อัมพาต หรือ Paralysis คือ โรคที่ทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ตามปกติ ส่งผลให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้มากนัก ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทและสมองในส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถส่งสัญญาณจากสมองไปยังกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และส่งให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอัมพาตในบางจุดได้ในที่สุด
หากถามว่าโรคอัมพาต เกิดจากอะไรนั้น ส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุหลักมาจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทและสมองที่ส่งผลให้สมองไม่สามารถสั่งการให้อวัยวะ เช่น แขน หรือ ขา สามารถขยับเขยื้อนได้ตามปกติ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยของโรคอัมพาต มีดังนี้
เนื่องจากอัมพาต คือโรคที่มีสาเหตุมาจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบสมองที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยอัมพาตส่วนใหญ่จึงมีลักษณะอาการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวร่างกายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแขน ขา หรือร่างกายในจุดที่สามารถขยับได้ โดยอาการของโรคอัมพาตสามารถแบ่งเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ ดังนี้
๏ อาการอัมพาตที่เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณแขนหรือขาเพียงข้างเดียวเท่านั้น (Monoplegia)
๏ โรคอัมพาตครึ่งซีก (Hemiplegia) หรืออาการอัมพาตที่เกิดขึ้นบริเวณทั้งแขนและขาในด้านเดียวของร่างกาย
๏ อัมพาตเฉพาะส่วนล่างของร่างกาย (Paraplegia) หรือบริเวณตั้งแต่ช่วงกลางลำตัวลงไปและขาทั้งสองข้าง
๏ อัมพาตแขนขาทั้งสองข้าง (Tetraplegia หรือ Quadriplegia)
๏ กลุ่มอาการอัมพาตแบบ LIS (Locked-in syndrome) หรืออัมพาตทุกส่วนของร่างกายเหลือแค่การกลอกลูกตา ถือเป็นลักษณะอาการอัมพาตที่มีความรุนแรง
ที่สุด
นอกจากนี้ อาการของโรคอัมพาตยังสามารถแบ่งตามลักษณะกล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตได้ด้วย คือ อัมพาตแบบกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (Flaccid Paralysis) ที่มีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บของระบบประสาทส่วนปลาย และอัมพาตแบบกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง (Spastic Paralysis) มีลักษณะอาการกล้ามเนื้อตึงและแข็ง มีโอกาสเป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุกบ่อยครั้ง มักมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บของประสาทไขสันหลังหรือสมอง
ทั้งนี้ อัมพาตถือเป็นภัยเงียบที่จำเป็นต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองหรือคนใกล้ตัวอยู่เสมอ ซึ่งการสังเกตอาการของอัมพาตเบื้องต้นนั้น ได้แก่ ปวดศีรษะรุนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ, สูญเสียการทรงตัว และการมองเห็น, สื่อสารได้ลำบาก, แขนหรือขามีอาการชา อ่อนแรง ขยับเขยื้อนได้ช้าลง รวมถึงในบางรายอาจรู้สึกว่าใบหน้าเบี้ยว, มุมปากตก, กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง หรือเป็นตะคริว เป็นต้น
อัมพาต อัมพฤกษ์ เป็นชื่อของโรคที่หลายคนมักเรียกติดกันเพราะอาจคิดว่าเป็นโรคเดียวกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วอัมพาตและอัมพฤกษ์ต่างก็เป็นอาการของโรคหลอดเลือดในสมอง (Cerebrovascular Accident) เพียงแต่มีลักษณะอาการที่ไม่เหมือนกัน คือ อัมพาตหมายถึงโรคที่สูญเสียการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นแบบเฉพาะจุดหรือทั้งหมดของร่างกาย ขณะที่อัมพฤกษ์จะมีเพียงอาการอ่อนแรง ชา หรือเคลื่อนไหวร่างกายเฉพาะส่วนได้เล็กน้อยเท่านั้น
อัมพาตมีสาเหตุหลักมาจากความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่สามารถก่อให้เกิดโรคอัมพาตในช่วงวัยอื่นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
จะเห็นได้ว่าปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคอัมพาตนั้นมีทั้งปัจจัยที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ซึ่งปัจจัยที่สามารถควบคุมได้นั้นควรทำความเข้าใจและหาแนวทางในการควบคุมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัมพาตในอนาคต
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคอัมพาตได้โดยตรง เพียงแต่มีวิธีที่สามารถช่วยให้อาการดีขึ้น หรือผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวจากอาการอัมพาตเร็วขึ้นได้ ซึ่งแนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการอัมพาต ดังนี้
ฉะนั้นแล้วการรักษาอัมพาตจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนร่วมกันกับแพทย์ที่มีความชำนาญการ เพื่อรับการวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แท้จริงของโรคอัมพาตและสามารถหาแนวทางในการรักษาโรคนี้ได้อย่างตรงจุดมากที่สุดและสามารถช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากอาการดังกล่าวได้เร็วที่สุด
โรคอัมพาตเป็นภัยเงียบที่มีสาเหตุหลักมาจากโรคหลอดเลือดสมองและเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคอัมพาตในอนาคตควรดูแลสุขภาพร่างกายตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระดับน้ำตาล ระดับไขมันในเลือด หรือน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็จะช่วยป้องกันการเกิดอัมพาตในอนาคตได้
นอกจากนี้อย่าลืมเข้ารับการตรวจสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย และสำหรับใครที่สำรวจตัวเองแล้วมีอาการผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณของโรคอัมพาต ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หรือเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ที่ศูนย์สมองและระบบประสาท ซึ่งให้การดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยได้มาตรฐาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ที่ป่วยเป็นอัมพาตเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้ แนะนำป้องกันโรคอัมพาตโดยการคุมระดับความดันโลหิตและน้ำตาลให้เป็นปกติ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงควรงดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
BEFAST หรือย่อมาจาก Balance สูญเสียการทรงตัว Eye ตาพร่ามัว F มีปัญหาปากเบี้ยว มุมปากตก Arm แขนหรือขาอ่อนแรง Speech สื่อสารไม่ได้ และ Time เวลาที่ต้องรีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยสัญญาณเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง หากรู้จักและสังเกตผู้ป่วยตามสัญญาณเหล่านี้ได้ก็จะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันเวลาและลดความเสี่ยงจากการเป็นอัมพาตได้
References
Paralysis: What it is, causes, symptoms, management & types. (2024, October 22). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15345-paralysis
Slivinski, N., & Painter, K. (2024). Paralysis - Types of paralysis & their causes. WebMD. https://www.webmd.com/brain/paralysis-types
Eske, J. (2020). Paralysis: Types, symptoms, and treatment. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/paralysis
เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง (0)
ดูทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง (10)
ดูทั้งหมด
Copyright © 2024 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital